จากแชมป์นักแข่งรถประเทศไทย สู่ผู้สร้างอาณาจักรยานยนต์มือ 2 แห่งเมืองภูเก็ต

หากชีวิตเหมือนดั่งรถยนต์   รถของ คุณกิตติศักดิ์  เสียงสลัก หรือคุณอุ๊ ไม่ได้เป็นรถซุปเปอร์คาร์มาตั้งแต่กำเกิด  เป็นเพียงสามล้อที่ขับขี่อยู่บนท้องถนน   แต่ด้วยหัวใจที่แข็งแกร่ง กล้าต่อสู้ฝ่าฟันอุปสรรค    ลองผิดลองถูกมานับครั้งไม่ถ้วน  ในที่สุดก็ค่อยๆ ทรานสฟอร์มกลายเป็นรถซุปเปอร์คาร์ในปัจจุบัน   โชคชะตาที่ฟ้าไม่ได้ลิขิต   แต่ชีวิตต้องกำหนดเองของนักธุรกิจหนุ่มผู้ไม่เคยย่อท้อ  ในวัยเด็กเริ่มทำงานช่วยแม่ขายขนมตั้งแต่อายุ  5 ขวบ   ขี่สามล้อไปส่งแก๊ส   เฝ้าร้านเกม  อาจเพราะการถูกฝึกฝนให้เรียนรู้การทำธุรกิจตั้งแต่วัยเยาว์หล่อหลอมให้เขาชอบแสวงหาและมองเห็นโอกาสอยู่เสมอ   ครั้นเติบใหญ่มองเห็นว่ามือถือจะกลายเป็นปัจจัยที่  5 ของมนุษย์  จึงได้ทำธุรกิจด้านนี้มากว่า 20 ปีและเมื่อถึงจุดอิ่มตัว  จึงได้หันกลับมาทำตามความฝันซื้อรถซุปเปอร์คาร์มาใช้  ด้วยความชอบจนกลายเป็นนักแข่งรถแชมป์ประเทศไทย

house-of-cars

เพราะเป็นคนชอบแสวงหาโอกาส  โอกาสจึงก้าวเข้ามาหา  ธุรกิจรถยนต์มือ 2 จึงถือกำเนิดขึ้นในนาม House of Cars สิ่งนี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่โชคชะตาแต่คือการสุกงอมของประสบการณ์ที่ผ่านการบ่มเพาะมาอย่างยาวนาน   ความคิดที่เฉียบคม   มุ่งมั่นทุ่มเท   มีความพยายามที่จะก้าวไปข้างหน้าสู่เป้าหมายแห่งความสำเร็จ ด้วยหยาดเหงื่อแรงกายและสองมือ

รักในสิ่งที่ทำ  ทำในสิ่งที่รัก  จุดเริ่มต้นโชว์รูมรถมือ 2 อันดับ 1 เมืองภูเก็ต

เพราะความรักในรถซุปเปอร์คาร์และได้คลุกคลีกับวงการแข่งขันรถยนต์มากว่า  5 ปี   เมื่อถูกเพื่อนชักชวนให้มาทำธุรกิจรถมือ 2 เลยมองเห็นโอกาสและไม่ยอมปล่อยโอกาสนั้นหลุดลอยไป  จึงตัดสินใจร่วมหุ้นกับเพื่อนที่เคยทำธุรกิจนี้มาก่อน  เมื่อถามถึงเรื่องเงินลงทุนคุณอุ๊มองว่าเงินทุนไม่สำคัญเท่ากับทุนความรู้   เพราะเงินทุนหาเมื่อไหร่ก็หาได้  แต่ทุนความรู้หาซื้อไม่ได้   ในความคิดของคุณอุ๊ คนทำธุรกิจต้องแสวงหาความรู้อยู่เสมอเพื่อพัฒนาทั้งตัวเองและธุรกิจ   เมื่อทำธุรกิจไปได้ประมาณ 1  ปีก็แยกออกมาทำเอง  พร้อมยกระดับโชว์รูมรถมือ 2 ตกแต่งให้หรูหราเหมือนโชว์รูมรถมือ 1 แถมมีบริการหลังการขายด้วยการดูแลเอาใจใส่   ซื่อสัตย์ต่อลูกค้า  ก่อนจะขายออกไปรถทุกคันจะต้องผ่านมาตรฐานการตรวจสอบทำให้ลูกค้ามั่นใจได้ว่า  เมื่อซื้อรถจาก  House of cars ไปจะได้รถมือ  2  ในสภาพเกิน 100% แต่ราคาถูกกว่ารถมือ 1 ถึง 30 %  จนตอนนี้เปิดโชว์รูมมาได้  3  ปี 3 สาขาและได้รับการยอมรับจนกลายเป็นโชว์รูมรถยนต์มือ 2  อันดับ 1  แห่งเมืองภูเก็ต

เพราะถนนไม่ราบเรียบ  ทุกความสำเร็จย่อมผ่านอุปสรรคเสมอ

การทำธุรกิจรถมือ 2 ไม่ใช่แค่การจับรถแล้วขายออกไป  ต้องมีบริการที่ดี  มีความน่าเชื่อถือ  คุณอุ๊บอกว่า “สำหรับผมสัญญาเป็นเพียงแค่กระดาษ  แต่สัญญาใจที่ผมให้ลูกค้าสำคัญมากกว่า”  เพราะความรักเอาใจใส่ที่มอบให้ลูกค้าและสร้างมาตรฐานบริการที่ดีเยี่ยม  จึงนำพาธุรกิจให้ประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว  แต่กว่าที่คุณอุ๊จะก้าวขึ้นเป็นผู้นำอย่างทุกวันนี้   ได้ผ่านความยากลำบากล้มลุกคลุกคลานมาไม่ใช่น้อย  คุณอุ๊เล่าว่า “ไม่มีใครหรอกครับที่จะประสบความสำเร็จโดยไม่พบกับความล้มเหลว  เพียงแต่คนจะมองเห็นก็ตอนที่คุณประสบความสำเร็จแล้วเท่านั้น”

ในอดีตคุณอุ๊เคยประสบความล้มเหลวจากการทำธุรกิจมานับครั้งไม่ถ้วน   รวมถึงการเปิดโชว์รูมรถมือ 2 ที่ฝ่าฟันอุปสรรคนานัปการ   เมื่อถามถึงปัญหาที่พบจากการทำงานคุณอุ๊มองว่า “ปัญหามีให้เจออยู่ทุกวัน  ผมเจอโจทย์ยากๆ มาตลอด  พอก้าวมาได้  โจทย์อื่นก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป  อีกอย่างเพราะผมทำงานด้วยความรัก   มีความสุขที่จะแก้ไขปัญหา  ไม่หนีปัญหา  เพราะเชื่อว่าปัญหาทุกอย่างจะมีทางออกเสมอ”  นอกจากปัญหาที่ต้องพบเจออยู่ทุกวัน   ยังมีอีกโจทย์หนึ่งที่คุณอุ๊มองว่ายากกว่านั่นคือ  การโน้มน้าวใจคน  เพราะไม่ใช่ทุกคนที่จะมองเห็นคุณค่าจากการซื้อรถมือ 2  บางครั้งใจของลูกค้าไม่อยากได้รถเก่า  การโน้มน้าวให้ลูกค้าเปลี่ยนใจนั้นยากมาก  และที่ขาดไม่ได้คือ ความเชื่อใจถ้าสามารถทำให้ลูกค้าเชื่อใจได้แล้วก็ไม่มีอะไรที่ต้องกังวลอีกต่อไป

ความอิจฉา =  แรงผลักดัน  ให้มีที่ยืนอยู่ทุกวันนี้

ถ้าเปรียบตัวเองเป็นนักสู้  นักสู้ในแบบคุณอุ๊เป็นแบบ Fighting  คือ  สู้ไปข้างหน้า  ไม่ลดละ  ไม่ถอยหลัง  คุณอุ๊บอกว่า “คุณเคยอิจฉาคนรวยไหม   ไม่แปลกใจที่คุณจะอิจฉาคนรวย  ความอิจฉาเป็นแรงผลักดันให้ผมพยายามต่อสู้ไปข้างหน้าลงมือทำ  แต่ไม่ว่าพวกเขาจะรวยอย่างไร  รวยด้วยวิธีการใด  สำหรับผมๆ จะรวยด้วยวิธีการของผมถึงแม้มันจะช้าแต่ผมก็จะอดทน”   นอกจากนี้ ต้นแบบสำคัญที่ช่วยฟูมฟักให้คุณอุ๊กลายเป็นสุดยอดนักธุรกิจนั่นก็คือ  คุณพ่อ  ข้าราชการครูผู้ใฝ่ใจในการทำธุรกิจเสริมมาตลอดชีวิต  ท่านได้สอนให้รู้จักทำงานตั้งแต่วัยเยาว์ในตอนนั้นคุณอุ๊ยังไม่เข้าใจในสิ่งที่คุณพ่อสอน   คุณอุ๊เล่าว่าตอน 9 ขวบคุณพ่อให้ขับรถสามล้อไปส่งแก๊ส คุณอุ๊ไม่ยอมไปคุณพ่อเลยตี  สุดท้ายต้องยอมทำตาม  ในตอนแรกคุณอุ๊ก็กังวลว่าจะยกแก๊สไปส่งลูกค้าอย่างไรเพราะทั้งหนักและใหญ่เกินกว่าเด็กวัย 9 ขวบจะทำได้  แต่พอไปถึงคนในร้านวิ่งออกมาช่วยยก  ไม่ได้เป็นไปตามที่คุณอุ๊จินตนาการไว้   และยังได้รับทิปเป็นค่าตอบแทนจากลูกค้าด้วย

เหตุการณ์ในวันนั้นถือเป็นบทเรียนชิ้นสำคัญที่คุณพ่อมอบให้และอยู่ในความทรงจำอย่างไม่เคยลืมเลือน  “พ่อสอนให้ผมกล้าลงมือทำ  ถ้าผมเข้าใจการสอนของพ่อตั้งแต่ตอนนั้นผมคงรวยมานานแล้ว”  การสอนให้กล้าลงมือทำเรียนรู้จากประสบการณ์จริง  คุณอุ๊ได้นำมาใช้กับลูกน้องด้วย  “ผมจะให้พนักงานกล้าคิด กล้าลงมือทำ หากผิดพลาดขึ้นมาผมก็พร้อมจะรับผิดชอบ  การที่ลูกน้องได้ลงมือทำจริง  ถ้าทำสำเร็จเขาจะมีความภาคภูมิใจ  มั่นใจ  นี่คือสิ่งที่ผมพยายามถ่ายทอดให้เสมอ”   อีกเรื่องหนึ่งที่คุณอุ๊ถือเป็นคติในการทำงาน  “พ่อจะสอนให้ลูกเดินไปข้างหน้าแต่ต้องไม่ลืมมองด้านหลัง เหมือนกับการถางหญ้า ถ้าเราถางหญ้าไปข้างหน้าและไม่เหลียวมองมาข้างหลัง  อีกไม่นานหญ้าก็จะกลับมารกอีก”  เปรียบได้กับการทำธุรกิจไม่ใช่คิดจะรุกไปข้างหน้าเพียงอย่างเดียว  แต่ต้องมองย้อนกลับไปว่า  ที่ผ่านมาต้องปรับปรุงแก้ไขอะไร  มีอะไรต้องพัฒนาอีก  การเดินไปข้างหน้าก็จะไม่สะดุด  เพราะคำสอนของคุณพ่อเหล่านี้ทำให้คุณอุ๊กลายเป็นนักสู้หัวใจแกร่ง  มีวิสัยทัศน์ไม่ยอมแพ้ต่อความยากลำบาก  กล้าที่จะทำธุรกิจโดยไม่เกรงกลัวต่ออุปสรรคใดๆ

SCB Partner ที่ดี ตัวช่วยให้ธุรกิจพุ่งทะยานไกล

นกไม่มีขน  คนไม่มีเพื่อนฉันใด  การทำธุรกิจก็เช่นเดียวกัน  จะประสบความสำเร็จได้ต้องได้รับแรงสนับสนุนจากคนรอบข้างช่วยอุ้มชูธุรกิจให้เติบโต  ยิ่งการทำธุรกิจในยุคดิทัล ถ้าทำเพียงลำพังโอกาสที่ธุรกิจจะอยู่รอดและเติบโตเป็นไปได้ยาก  หากได้ Partner ที่ดีก็ถือว่าความสำเร็จนั้นย่อมไม่ไกลเกินเอื้อม    SCB เป็น Partner ธุรกิจพร้อมช่วยผู้ประกอบการให้ก้าวไกลไปถึงจุดหมาย เมื่อให้นิยาม SCB ในฐานะ Partner  คุณอุ๊มองว่า  “ผมคิดได้  6  คำ  1. ซื่อสัตย์   2.ว่องไว  3.สะดวกสบาย  4.มั่นคง  5. นำสมัย  6.น่าเชื่อถือ   เมื่อไม่นานมานี้พนักงานได้แนะนำให้ผมลองใช้ มณี  FREE SOLUTION ตัวช่วยลดต้นทุนของผมได้มาก  ทำให้ธุรกิจคล่องตัวตรวจเช็คยอดเงินได้ทันที  โอนเงินต่างธนาคารก็ไม่เสียค่าธรรมเนียม   ไม่มีข้อจำกัดในการทำธุรกิจ  และที่ชอบมากคือบัญชีมณีมั่งคั่ง บัญชีกระแสรายวันที่ให้ดอกเบี้ยสูงถึง 1% ถูกใจคนทำธุรกิจอย่างผม  รวมถึงปล่อยกู้รถยนต์ (leasing) ให้กับลูกค้าของโชว์รูม  SCB เลยเป็น Partner ที่ผมไว้วางใจมาโดยตลอด”

ตลอดเวลากว่า  1 ชั่วโมงที่ได้พูดคุยกับคุณอุ๊  ได้เห็นถึงแววตาแห่งมุ่งมั่น  ความพยายามอย่างไม่ลดละที่จะทำธุรกิจที่ตัวเองรักให้ประสบความสำเร็จ   ด้วยภาระหนักอึ้งที่รับผิดชอบโชว์รูม 3  สาขาและลูกน้องกว่า  50  ชีวิต   เมื่อถามว่าเคยท้อไหม? คุณอุ๊ยิ้มกว้างบอกว่า  “เคยสิครับ เหนื่อยได้  ท้อได้  แต่ไม่เคยถอย  เวลาท้อให้กลับมายอมรับความจริงว่า  เราทำผิดพลาดอะไรตรงไหน   ทำผิดก็ยอมรับแก้ไข  อะไรที่ดีอยู่แล้วก็ทำต่อไป  ถ้าแก้ไม่ได้ก็ปล่อยวาง  แล้วเดินหน้าต่อ  เหมือนอย่างกับหัวใจของคนเราไม่ว่าจะเต้นเร็วเต้นช้าขนาดไหน ก็ไม่เคยหยุดพัก   ถ้าหยุดเมื่อไหร่เราก็จะตาย”  ด้วยทัศนคติและแนวคิดทำธุรกิจที่ซื่อสัตย์มุ่งมั่นทุ่มเท   ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมนักธุรกิจหนุ่มหัวใจแกร่งอย่างคุณกิตติศักดิ์  เสียงสลัก หรือคุณอุ๊  แห่ง House of Cars เมืองภูเก็ต  จึงประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็วภายในระยะเวลาเพียงแค่ 3 ปี  ซึ่งสะท้อนแนวคิดการทำธุรกิจและตัวตนของเขาได้จากสโลแกนที่ปิดไว้หน้าโชว์รูมว่า “อุ๊หยัดใจได้  คัดสรรค์รถดีมีคุณภาพเพื่อคนภูเก็ต”

เว็บไซต์

https://www.houseofcarsphuket.com/

Facebook

https://www.facebook.com/HouseofCarsPhuket/

ผลิตภัณฑ์และบริการที่เกี่ยวข้อง