สานต่อเพื่อต่อยอด รังนกไทยในแดนมังกร

บรรพต หาญทองคำ

บีบี เบิร์ดเนส เทรดดิ้ง


กว่า 20 ปีมาแล้ว ฟ้าได้ประทานของขวัญล้ำค่าที่เปรียบเหมือนทองคำขาวแห่งท้องทะเลให้แก่ครอบครัว "หาญทองคำ" เมื่อนกนางแอ่นฝูงใหญ่เข้ามาจับจองพื้นที่อาคารหลังหนึ่งที่กำลังก่อสร้างเป็นโรงแรมใกล้ทะเล จนต้องยกอาคารหลังดังกล่าวให้นกทำรัง และเกิดเป็นธุรกิจรังนกขึ้นจากความบังเอิญในที่สุด ต่อมาคุณเบิร์ด - บรรพต หาญทองคำ ลูกคนที่สามของครอบครัว ได้ถูกกำหนดให้มาดูแลธุรกิจนี้ต่อจากผู้เป็นแม่ ซึ่งขณะนั้นมีเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้นกับธุรกิจรังนกทั่วภูมิภาค ทำให้ผู้ชายที่ชื่อ "เบิร์ด" ต้องพิสูจน์ตัวเองก่อนก้าวสู่การเป็นผู้บริหารธุรกิจรังนกของบริษัท บี บี เบิร์ดเนส อย่างเต็มตัว


จากความบังเอิญ สู่ความตั้งใจ

ครอบครัวของคุณเบิร์ดทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์อยู่ในภาคใต้ มีทั้งหมู่บ้านจัดสรรและอาคารพาณิชย์ โดยในปี 2537 พ่อและแม่คุณเบิร์ดได้สร้างอาคารที่ อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช หลังจากอาคารเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมา ก็มีนกนางแอ่นฝูงใหญ่เข้ามาจับจองพื้นที่ในตัวอาคารหลังหนึ่งที่กำลังก่อสร้าง ทำให้ต้องยกอาคารหลังดังกล่าวเป็นที่อยู่ของนกนางแอ่นในที่สุด ต่อมาเริ่มมีคนมาติดต่อขอซื้อรังนก ทางครอบครัวคุณเบิร์ดจึงเริ่มศึกษาข้อมูลและความเป็นไปได้ในการทำธุรกิจ จนกระทั่งปี 2539 รังนกได้กลายเป็นธุรกิจใหม่ของครอบครัว ซึ่งถือเป็นตลาดที่ใหม่มากสำหรับประเทศไทยในช่วงนั้น และเป็นธุรกิจรังนกเจ้าแรกในจังหวัดนครศรีธรรมราช โดยเริ่มทดลองตลาดครั้งแรกด้วยการนำไปขายที่เยาวราช และขยายช่องทางการขายไปในกลุ่มลูกค้าในประเทศเป็นหลัก ต่อมาเริ่มมีตัวแทนติดต่อสั่งซื้อเข้ามาเพื่อนำไปขายต่อที่ตลาดเมืองจีน

bb-birdnest-hotel

คุณเบิร์ดเป็นลูกคนที่สามในบรรดาพี่น้องสี่คน หลังจากจบปริญญาตรีด้านวิศวกรรมศาสตร์ เขามีโอกาสได้ไปเรียนภาษาจีนที่ปักกิ่ง 8 เดือน จากนั้นกลับมาทำงานเป็นมนุษย์เงินเดือนในองค์กรที่มีเสียงได้ประมาณ 1 ปี จึงตัดสินใจเดินทางไปเรียนต่อปริญญาโทด้านการเงินที่อเมริกา และกลับมาทำงานในสายงานที่ร่ำเรียนมาในสถาบันการเงินแห่งหนึ่ง คุณเบิร์ดไม่เคยมีความคิดเรื่องการสานต่อธุรกิจของครอบครัวแม้แต่น้อย จนกระทั่งแม่ของคุณเบิร์ดอยากจะเกษียณตัวเองหลังจากดูแลธุรกิจรังนกมาเกือบ 20 ปี จึงมองหาลูกที่พอจะมีแววในการมารับช่วงธุรกิจ และคงเป็นใครไปไม่ได้นอกจากคุณเบิร์ด ผู้เป็นคนเดียวในบรรดาพี่น้องที่มีความรู้ด้านภาษาจีนมากกว่าใคร เขาจึงต้องลาออกจากงานประจำ มาทำธุรกิจรังนกอย่างเต็มตัว โดยมีเป้าหมายคือ "การขับเคลื่อนแบรนด์สินค้าที่เป็นธุรกิจรังนกของครอบครัวไปสู่ตลาดประเทศจีน"

พลังแห่งความคิด พลิกวิกฤติเป็นโอกาส

ในช่วงที่กำลังเปลี่ยนผ่านธุรกิจจากรุ่นแม่สู่รุ่นลูก ได้เกิดวิกฤติรังนกเลือด (รังนกแดง) ขึ้นเสียก่อน มีคนจีนเสียชีวิตจากการกินรังนกแดงที่นำเข้ามาจากประเทศเพื่อนบ้าน โดยตรวจพบสารไนเตรทปนเปื้อนในรังนกแดงเกินค่ามาตรฐาน รัฐบาลจีนจึงสั่งห้ามนำเข้ารังนกจากทั่วโลกอย่างไม่มีกำหนด ส่งผลให้ราคารังนกทั่วภูมิภาคตกต่ำลงอย่างมาก การก้าวมาทำธุรกิจของคุณเบิร์ดจึงเป็นการเริ่มต้นที่ยากลำบากถึงขีดสุด


จากการเป็นพนักงานประจำที่พอจะมีเวลาเป็นของตัวเองในช่วงหลังเลิกงาน แต่พอรู้ว่าต้องมาสานต่อธุรกิจต่อจากแม่ เขาต้องสละเวลาส่วนตัวเยอะมากในการเรียนรู้ตลาด ศึกษาสินค้าและคู่แข่ง จนแทบไม่มีเวลาว่าง "เราต้องเป็นเหมือนเป็ด ต้องว่ายน้ำได้บ้าง ต้องบินได้บ้าง ต้องเรียนรู้และศึกษาทุกอย่างในธุรกิจด้วยตนเองให้ชำนาญก่อน พอเรียนรู้ได้แล้ว เก่งแล้ว เริ่มสร้างระบบได้ก็จะเบาลง" แต่การก้าวมาทำธุรกิจของคุณเบิร์ดไม่ง่ายอย่างที่คิด เพราะเป็นช่วงที่ตลาดจีนปิด ไม่สามารถกระจายสินค้าออกไปได้ตามที่คาดหวัง ราคารังนกตกต่ำเป็นประวัติการณ์ การที่ต้องแบกรับหน้าที่ในการนำพาธุรกิจไปให้รอด เขาเครียดและกดดันมาก จนต้องใช้เวลาอยู่กับตัวเองระยะหนึ่ง สุดท้ายเมื่อคิดตก เขากลับมามองที่เป้าหมายอีกครั้ง "ถ้าเป้าหมายเราชัด แม้เส้นทางที่เดินไปจะล้มลุกคลุกคลานอย่างไร เราจะรู้ว่าต้องไปให้ถึงจุดนั้น และมีแรงสู้ต่อไป" ความตั้งใจที่จะพาแบรนด์ของครอบครัวที่มีมาตั้งแต่รุ่นพ่อแม่ ไปให้คนจีนในประเทศจีนได้รับรู้ว่า สินค้าไทย แบรนด์ไทย เป็นสินค้าที่มีคุณภาพ ไม่จำเป็นต้องทำเหมือนเดิม ในเมื่อรังนกสำหรับกินเริ่มซ้ำ มีคนทำเยอะขึ้น เขาจึงแตกไลน์เพิ่มเติม ด้วยการทำผลิตภัณฑ์ในกลุ่มสกินแคร์ที่มีรังนกเป็นส่วนผสม ไม่ว่าจะเป็นมาส์กหน้ารักนก สบู่รังนก ครีมรังนก แฮนด์ครีมรังนก เรียกได้ว่า "วิกฤตทางการค้าครั้งนี้ทำให้ได้คิด จากที่ไม่เคยคิดมาก่อน"

รู้เขา ต้องรู้ให้เร็ว แล้วปรับให้ทัน

รังนกเป็นเหมือนของขวัญล้ำค่าจากธรรมชาติ ตามตำราจีนถือว่าเป็นอาหารที่ช่วยให้เกิดสมดุลของพลังหยินหยางในร่างกาย เหมือนเป็นการดูแลสุขภาพจากภายในสู่ภายนอก ช่วยให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกันดีขึ้น นอกจากช่วยบำรุงร่างกายแล้ว ยังช่วยบำรุงผิวพรรณ และระบบหลอดลม ทำให้ไม่ค่อยเป็นหวัดอีกด้วย ดังนั้นแม้จะมีวิกฤติรังนกเลือดเกิดขึ้นจนตลาดรังนกทั่วโลกซบเซามาหลายปี แต่ความต้องการรังนกในประเทศจีนก็ไม่ได้ลดลงแม้แต่น้อย เมื่อรัฐบาลจีนปลดล็อกการนำเข้า ตลาดจีนก็กลับมาสดใสอีกครั้ง เหมือนฟ้าเปิดหลังพายุฝน อินทรีได้สยายปีกโบยบินอีกครั้ง คุณเบิร์ดเดินทางไปเมืองจีนทุกเดือนเพื่อศึกษาตลาด อีกทั้งยังได้ไปตั้งบริษัทที่กวางเจาเพื่อดูแลระบบออนไลน์ และบริษัทที่เซินเจิ้นเพื่อดูแลระบบตัวแทน (Wholesale) ด้วยการที่จีนเป็นตลาดเรดโอเชียนที่เปลี่ยนเร็วมาก เรียกได้ว่าเปลี่ยนทุก 6 เดือน ทำให้ต้องคอยติดตามข่าวสารว่าในอีก 3 เดือนข้างหน้าทางการจีนจะปรับกฎหมายหรือข้อบังคับอย่างไรบ้าง

คุณเบิร์ดยกตัวอย่างการเปลี่ยนแปลงที่เป็นไปอย่างรวดเร็วเพื่อให้เราเห็นภาพชัดขึ้นว่า เมื่อปี 2561 สินค้าไทยเป็นที่ต้องการของคนจีนเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะรายเล็กหรือรายใหญ่ล้วนมียอดสั่งซื้อเข้ามาสูงมาก รวมถึงนักท่องเที่ยวจีนที่มาเที่ยวไทยเองก็มักจะซื้อสินค้าไทยกลับไปขาย ไม่ว่าจะมาในระบบตัวแทนหรือพรีออเดอร์ก็ตาม พอปลายปี 2561 รัฐบาลจีนพยายามสร้างระบบใหม่ในการขายสินค้าต่างประเทศ การขายแบบเดิมที่ผ่านตัวแทนถูกปรับให้ยอดลดลง ทำให้เขาต้องปรับการขายในจีนเข้าไปอยู่ในอีคอมเมิร์ซใหญ่ๆ ตามไปด้วย แต่ไม่ว่าโมเดลการทำธุรกิจจะเปลี่ยนไปในรูปแบบใด สิ่งที่คุณเบิร์ดให้ความสำคัญที่สุดก็คือ "คุณภาพของสินค้า" เพราะในมุมมองของคนจีน สินค้าไทยถือว่ามีคุณภาพ น่าเชื่อถือ ราคาไม่แพง จึงต้องรักษามาตรฐานของสินค้าไทยให้สมกับที่ลูกค้าจีนให้ความไว้วางใจ นอกจากนี้คุณเบิร์ดยังมีเป้าหมายในอนาคตก็คือ การมองหาความเป็นไปได้ในการลงทุนสร้างโรงงานผลิตในจีน เพราะรัฐบาลจีนมีนโยบายสนับสนุนการลงทุนจากต่างประเทศในด้านการเงินและภาษี ช่วยให้เกิดข้อได้เปรียบด้านต้นทุน ดังนั้นการทำธุรกิจในจีนจึงต้องเตรียมตัวให้พร้อมอยู่เสมอสำหรับโอกาสที่จะมาถึง

โอกาสสำหรับผู้ประกอบการไทยในตลาดจีน

จีนเป็นตลาดการค้าที่ใหญ่มาก จึงเป็นที่หมายปองของผู้ประกอบการและนักลงทุนทั่วโลก สำหรับคนไทยที่อยากประสบความสำเร็จในตลาดจีน สิ่งสำคัญก็คือการสร้างแบรนด์ คุณเบิร์ดนำประสบการณ์ตรงของเขามาแบ่งปันให้ฟังว่า ในช่วงแรกที่รุ่นพ่อและแม่ทำธุรกิจ จะเน้นขายตลาดในประเทศเป็นหลัก ส่วนการขายในตลาดจีนจะมีตัวแทนมารับช่วงไปขายอีกต่อหนึ่ง โดยเป็นการขายแบบไม่มีแบรนด์สินค้า ทำให้ถูกกดราคาต่ำกว่าที่ควรจะเป็น เมื่อคุณเบิร์ดมารับไม้ต่อ เขาได้เปลี่ยนมาทำแบรนด์สินค้าของตัวเองเพื่อเข้าไปสร้างตัวตนในตลาดจีน ที่นอกจากจะสร้างความยั่งยืนได้มากกว่าแล้ว ไม่ว่าตลาดจะเรดโอเชี่ยนขนาดไหน การมีแบรนด์จะช่วยเพิ่มมูลค่าให้สินค้าเราเหนือกว่าตลาดขึ้นมาอีกขั้น อย่างที่สองคือ ต้องทำแบรนด์สินค้าให้เป็นที่รู้จักในประเทศระดับหนึ่งก่อน เพราะจุดเริ่มต้นเราคือประเทศไทย คนจีนที่มาเมืองไทยนิยมนำสินค้าไทยไปขายหรือซื้อเป็นของฝาก ช่องทางในไทยจึงขาดไม่ได้ เพราะเป็นเหมือนหน้าร้านในการสร้างการรับรู้ และดึงดูดนักท่องเที่ยวในการพาสินค้าของเราไปให้คนในประเทศจีนได้รู้จักมากขึ้น รวมถึงการออกแบบแพกเกจจิ้งต้องสวย หรู ดูอลังการ ตามแบบที่คนจีนชอบ

ของขวัญจากการให้

การมารับช่วงธุรกิจรังนกของครอบครัวโดยที่คุณเบิร์ดไม่ได้ใช้เวลาคลุกคลีมาตั้งแต่ต้น ทำให้ต้องศึกษาข้อมูลให้ได้มากที่สุด ภายในระยะเวลาที่มีจำกัด เขาพยายามทำทุกอย่างด้วยตนเองเพื่อให้เข้าใจธุรกิจอย่างถ่องแท้ แต่ก็ยังมีสิ่งที่ผู้ประกอบการมือใหม่อย่างเขาไม่ถนัด ก็คือการบริหารจัดการบัญชีและการเงินในบริษัท โชคดีที่ SCB มีเครื่องมือเข้ามาตอบโจทย์ ช่วยอธิบายและให้คำปรึกษาในส่วนนี้ได้เป็นอย่างดี ทำให้สามารถใช้พลังไปกับการศึกษาตลาดและสินค้าได้อย่างเต็มที่ และสิ่งสำคัญที่คุณเบิร์ดได้รับจาก SCB ก็คือ การได้มาเป็น Mentor ตามคำเชิญของ SCB SME เพื่อมาทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงในการสอน ให้คำปรึกษา และแบ่งปันประสบการณ์ด้านการค้ากับจีนให้ผู้ประกอบการด้วยกัน ทำให้คุณเบิร์ดได้เข้าใจความหมายของคำว่า "ยิ่งให้ เรายิ่งได้" อย่างแท้จริง จากที่คุณเบิร์ดโฟกัสแต่ตลาดจีน พอได้มาสอน ทำให้ได้ไอเดียใหม่ๆ มากระตุ้นไอเดียที่เขาเองก็นึกไม่ถึงมาก่อน เขากล่าวด้วยรอยยิ้มว่า "ตอนผมยังไม่เคยทำ ก็ไม่เข้าใจ พอได้แชร์ถึงได้รู้ว่า คนประทับใจและได้ผลตอบรับทางอ้อมโดยที่เราคาดไม่ถึงเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็นฟีดแบคจากคนที่เราไปแชร์ การได้ไอเดียดีๆ กลับมาจากการแชร์ และจิตใจที่ไปแชร์ก็มีความสุข รวมถึงยังได้เรียนรู้จากเพื่อนๆ พี่น้อง และธนาคาร ผมรู้สึกดีและประทับใจมาก เป็นสังคมที่เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่กัน ช่วยเหลือกันเต็มที่ และต้องขอบคุณ SCB ที่ให้โอกาส"

ปัจจุบัน บริษัท บี บี เบิร์ดเนส  (BB BIRDNEST) ดำเนินธุรกิจรังนกมาแล้วกว่า 20 ปี มีผลิตภัณฑ์รังนกในหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น รังนกแห้ง รังนกขวดพร้อมดื่ม ภายใต้แบรนด์ B Bird และผลิตภัณฑ์ในกลุ่มสกินแคร์ ภายใต้แบรนด์ Number 8 ที่ได้รับผลตอบรับที่ดีจากคนจีนเป็นอย่างมาก จนยอดขายเทียบเท่ากับผลิตภัณฑ์ที่เป็นรังนกแบบดั้งเดิม นอกจากนี้ยังมีกาแฟรังนกสำเร็จรูปภายใต้แบรนด์ B Bird Coffee ที่เจาะกลุ่มคนจีนรุ่นใหม่ที่นิยมดื่มกาแฟแทนชาอีกด้วย มีสายการผลิตหลักอยู่ที่จังหวัดนครศรีธรรมราช รังนกของ บี บี เบิร์ดเนส จึงเปรียบเหมือนของขวัญล้ำค่าจากแดนใต้ของไทยที่พร้อมส่งมอบถึงมือผู้บริโภคทั้งในประเทศและต่างประเทศ


#SCBSME #SMEwithPurpose #เพื่อSMEเป็นที่1 #SCBMentor #BirdNest

ผลิตภัณฑ์และบริการที่เกี่ยวข้อง