ค้าขายต้องรู้! สั้น กระชับอย่างไร จับใจลูกค้าอยู่มือ

“เวลามีน้อย ใช้สอยประหยัด” ยังเป็นคำกล่าวที่พ่อค้าแม่ขายยุคนี้ยังต้องท่องไว้ให้ขึ้นใจ และยิ่งต้องยึดไว้เป็นสรณะให้เข้ากับสไตล์การสื่อสารยุคปัจจุบันที่จะยิ่งเน้นความ “สั้น กระชับ” ซึมซับสู่ใจได้รวดเร็วในระยะกระพริบตา หากไม่จูงใจให้ “คลิก” ในเวลาไม่กี่วินาที ได้มีโอกาส “ถูกเลื่อนผ่าน” เพราะลูกค้าพร้อมเปลี่ยนใจไปหาสิ่งที่ตอบโจทย์ได้ตรงใจมากกว่า


1. บอกลาความเยิ่นเย้อ ยืดเยื้อ


เดี๋ยวนี้ถ้าส่งสารสื่อความไม่ชัดภายใน 15 วินาทีเป็นอันจบเห่! ดังนั้นตัวช่วยเล่าเรื่องต้องมา เทคนิคเสริมให้ครบต้องมี! ทั้งตัวเลข สถิติ การเปรียบเทียบ เคล็ดลับต่างๆ มาล้อมกรอบดึงดูดความน่าสนใจ หรือเล่าด้วยภาพเป็น Photo Series เหมาะกับคนไม่ชอบอ่านตัวหนังสือยาวๆ แต่ชอบย่อยสิ่งที่สื่อสารได้เร็วและเข้าใจง่าย หรือวิดีโอได้ก็ยิ่งดี เพราะจะครอบครองโสตประสาทได้ครบครัน แถมปัจจุบันโซเชียลมีเดียต่างพร้อมใจเพิ่มลูกเล่นให้เห็นภาพเคลื่อนไหว แม้จะสั้นแต่สามารถติดตามดูได้อย่างต่อเนื่อง


2. ใช้ความถี่ให้เป็น เน้นความแตกต่างให้ได้


หากอยากมัดใจและครองการมองเห็นเวลาโพสต์ลงในสังคมออนไลน์ ขยันใช้ความถี่เข้าไว้ให้ลูกค้าเห็นสินค้าเดิมแบบไม่พลาด เพราะใช้เวลาเพียงสั้นๆ แต่ระวังอย่าลงเนื้อหาซ้ำอันเดิมจนสร้างความเบื่อหน่าย ดังนั้นจะผลิตคอนเทนท์ต้องขยัน สร้างวินัยย่อยให้ตัวเองนำเสนอสินค้าบ่อยๆ แต่ซอยแบ่งเนื้อหาให้เหมาะสมกับกลุ่มลูกค้าได้ถูกจังหวะเวลา โดยเฉพาะช่วงที่เป็นเทศกาลซื้อของ หรือโปรโมชั่นต่างๆ อย่าได้เว้นวรรคเชียว


3. สั้น-กระชับสร้างความน่าเชื่อถือทางอ้อม


เนื้อหาที่สั้นกระชับเข้าใจง่ายน่าอ่าน จะบ่งบอกการสื่อสารของสินค้าที่ “เป็นงาน” ทำให้มีผู้ติดตามเข้ามาสนใจมากขึ้น เท่ากับเป็นกระบอกเสียงเรียกความเชื่อมั่นให้คนเข้ามาติดตามเพิ่มเติม หรือสามารถใช้เทคนิคให้ปรากฏในค้นค้นหา ช่วยให้เว็บไซต์หรือเพจปรากฎโฉมเป็นแถวๆ เมื่อลูกค้าป้อนคีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้อง ติดอันดับการค้นหาได้อย่างที่ต้องการ

business-trick-to-catch-customer-heart-01

4. สะสมข้อมูลลูกค้าเพื่อตอบโจทย์ให้ตรง


เดิมแค่เพียงทำการตลาดเพื่อสนองตอบความต้องการแบบรายบุคคล (Personalization) อาจจะพิเศษแล้ว แต่เทรนด์ปี 2564 ต้องลงลึกไปกว่านั้น แบบ Hyper Personalization ที่เรียกได้ว่า รู้และเข้าใจอย่างลึกซึ้งแบบถึงแก่น โดยเน้นใช้ Data เจาะลึกได้ว่าลูกค้ากำลังซื้ออะไร ช่วงเวลาไหน แล้วนำไปวิเคราะห์พร้อมคาดการณ์ความต้องการ ซึ่งหากทำให้ลูกค้าร้อง “ว้าว!” ได้ สินค้านั้นจะกลายเป็นแบรนด์ที่น่าจดจำไปทันที


5. ติดตามการขาย ปิดจบไวในสังคมออนไลน์


อนาคตโซเชียลมีเดียจะไม่ได้เป็นสังคมออนไลน์ที่ไม่ได้มีไว้แค่แบ่งปันข้อมูลข่าวสาร หรืออวดไลฟ์สไตล์ส่วนตัวเท่านั้น เมื่อโลกดิจิทัลมาไวยิ่งกว่าจรวด เจ้าของสินค้าควรติดตามอัพเดทข้อมูลข่าวสารใกล้ชิด เพื่อปรับตัวให้ทันกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นอนาคต เพราะทุกอย่างจะเริ่มต้นและปิดจ๊อบการขายบนแพลตฟอร์มเดียว เรียกว่าเปิดหน้าร้านโชว์สินค้า เปิดโต๊ะเจรจา และกดซื้อจบบนโซเชียลมีเดียนั้นได้เลย


6. เรื่องไหนมั่นใจ ยาวได้..ยาวไป


เทรนด์วิดีโอสั้นอาจกำลังมา เพราะเข้าถึงง่าย ไม่เคร่งเครียด แต่ถึงอย่างไรก็อย่าลืมสำรวจคอนเทนท์หรือสิ่งที่ตัวเองมี เพราะบางอย่างหากทำเป็นคลิปวิดีโอที่ยาวอาจเหมาะสมและทำให้เกิดความเข้าใจที่ถูกต้องกว่า เช่น การขั้นตอนการสาธิตหรือวิธีแนะนำ เพราะข้อดีของความยาวก็มีอยู่ คือทำให้คนดูเข้าใจแบบไม่ผิดเพี้ยน ที่สำคัญยังสร้างความจดจำสินค้าและแบรนด์เหล่านั้นในเชิงลึกซึ้งกว่าด้วย


เมื่อกระแสความนิยมสั้น กระชับ สื่อความได้ง่าย เริ่มมาสะกิดให้เราต้องปรับตัว อย่าพลาดหัดฝึกปรือเพื่อจะได้ไม่ตกเทรนด์จับพฤติกรรมผู้บริโภคที่แปรเปลี่ยน เริ่มจากการสื่อสารที่ดูเหมือนสั้นๆ ง่ายๆ ในแบบนี้ อาจสร้างผลตอบแทนดีๆ เกินคาดก็ได้ ยิ่งถ้าใช้แอปตัวช่วยที่ตอบโจทย์ insight ชีวิตแม่ค้าออนไลน์ครบครัน อย่าง แอปแม่มณีที่มีฟีเจอร์ “มณี โซเชี่ยล คอมเมิร์ซ ที่ช่วยบริหารจัดการขายออนไลน์ให้เป็นเรื่องง่าย แช็ทปิดการขาย รับชำระเงิน จัดการสต๊อก ส่งของได้ในแอปเดียว ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่นี่

ที่มา
https://www.brandingchamp.com/เทคนิคการขาย
https://fillgoods.co/online-biz/shop-orders-hit-trend-2021-must-know
https://stepstraining.co/content/5-steps-create-content
https://kinnovation.co.th/seo/5-เคล็ดลับทำ-online-marketing-ที่นักการตลาด