คิด 4 ข้อก่อนเริ่มค้าขาย พบทางสว่างได้ถ้าปิดจุดอ่อนเป็น

อยากเริ่มค้าขาย แต่จะขายอะไรดี? คำถามสกัดดาวรุ่งคนมุ่งหาอาชีพใหม่ แต่ยังตกผลึกไม่ได้ว่าจะไปทางไหน ต่อไปนี้ไม่ต้องกังวล! แม้คุณจะไม่มีต้นทุนทักษะวิชาชีพมาผลิตสินค้าตัวเองก็ไม่เป็นไร ขอเพียงรู้จักแสวงหากลุ่มตลาดที่มีความต้องการแน่ชัด พุ่งเป้าไปที่สินค้าประเภทที่กำจัดจุดเจ็บปวด หรือ Pain Point ให้ลูกค้าที่มีปัญหาบางประการ และที่ยังไม่มีพ่อค้าแม่ขายน้อยมาสื่อสารตรงๆ ถึงพวกเขามากนัก เท่านี้ก็อาจทำให้สินค้าของคุณไปได้ฉลุยโดยไม่ต้องแข่งเหนื่อยจนเกินไป


1. เฟ้นตลาด “ถูกทิ้งไว้กลางทาง”


เชื่อหรือไม่ มีสินค้าอยู่หลายประเภทซึ่งเป็นที่ต้องการของลูกค้าเฉพาะกลุ่ม แต่เนื่องจากไม่ใช่สินค้าในกระแส กว่าจะค้นหามาใช้งานได้จึงยากลำบาก เช่น กลุ่มคนถนัดซ้าย ที่มีสัดส่วนราว 10% ของประชากรโลก เรียกว่าไม่น้อยเลยทีเดียว หากลองหาสินค้าจำเป็นในชีวิตประจำวันและการทำงาน เช่น เมาส์ และ คีย์บอร์ด สำหรับคนถนัดซ้าย กรรไกร มีดปลอกผลไม้ หรือผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่มักจะออกแบบมาเอาใจแต่คนมือขวา หรือเจาะกลุ่มลูกค้าที่ “แพ้อาหาร” ทำให้ไม่สามารถบริโภคสินค้าที่วางขายแพร่หลายเหมือนคนอื่น เช่น เด็กที่แพ้นมวัว คนที่แพ้ถั่ว หากคุณคิดจะเปิดร้านขายอาหาร ลองเผื่อใจวางจุดขายเหล่านี้ดู จะทำให้การทำตลาดมีเอกลักษณ์ เจาะกำลังซื้อที่แน่นอนได้อีกทาง

4-hidden-business-opportunities-01

2. ใส่ใจ “เทรนด์สุขภาพมาแรง”


เมื่อโรคภัยมาเขย่ามนุษย์อีกครั้ง กระแสรักสุขภาพและดูแลตัวเองจึงเติบโตก้าวกระโดด ศาสตร์การกินอยู่มากมายผุดขึ้นมา ส่งผลให้เกิดความต้องการบริโภคอาหารประเภทพิเศษ ที่มีข้อจำกัดและเงื่อนไขมากมาย เช่น การรับประทานคีโต (Ketogenic Diet) ที่งดคาร์โบไฮเดรตและน้ำตาลอย่างเด็ดขาด แม้กระทั่งใส่ในเครื่องปรุงก็ไม่ได้ ทำให้ผู้รับประทานรู้สึกไม่สะดวก หลายรายพร้อมจ่ายแพงกว่าไม่อั้นเพื่อให้ได้สินค้าที่ทดแทนแป้งและน้ำตาลได้ แบบไม่เสียวินัยในการรับประทาน หรือบางคนเลือกเดินสายเบาลงมาหน่อยอย่าง Low-Carb หรือลดน้ำหนักแบบพร่องแป้ง ที่มีหมวดหมู่อาหารที่ทานได้ และทานไม่ได้ หากนำเสนอสินค้าเหล่านี้ แล้วมุ่งสื่อสารไปแล้วว่า “จัดมาเพื่อคุณ” เชื่อไหมว่ายังมีทางเติบโตได้แบบสวยๆ


3. ไม่ตกขบวน “โรคยอดฮิต”


เมื่อโรคยอดฮิตทำให้เราต้องการตัวช่วยทำให้ชีวิตประจำวันไม่ทุกข์ทรมานเกินไป คงไม่มีอะไรดีไปกว่าค้นหาสินค้าที่ต้องการแล้วเจอทันที นี่เป็นโอกาสสำหรับผู้ขายที่สามารถนำสินค้าที่มีอยู่ มาเพิ่มการโฆษณาเจาะกลุ่มคนเหล่านี้ได้ เช่น อาหารปราศจากไขมันและน้ำตาล ที่เหมาะสำหรับคนเป็นโรคยอดฮิตหลายอย่าง เช่น เบาหวาน โรคหลอดเลือดสมอง หรือหาสินค้าที่ช่วย “บรรเทาเจ็บ” เช่น หมองรองนั่งที่ใช้ได้ทั้งคนเป็นโรคริดสีดวง แผลกดทับ หรือสำหรับคุณแม่หลังคลอด หรือปลอกหุ้มข้อมือให้กับบรรดาเหล่าแม่บ้านที่เป็นโรคปลอกหุ้มเส้นเอ็นข้อมืออักเสบ ภัยเงียบไม่ธรรมดาที่สร้างความลำบากให้คุณแม่มือใหม่ที่ต้องอุ้มเด็ก หรือแม่บ้านที่ต้องใช้ข้อมือออกแรงในการบิดผ้าบ่อยๆ แต่ละครั้งเจ็บจนร้องหาตัวช่วยบรรเทาอาการแทบไม่ทัน


4. อย่ามองข้ามเรื่อง “เวลา”


แม้ว่าคนส่วนใหญ่ใช้ชีวิตกันในช่วงกลางวัน แต่รู้ไหมว่ามีคนอีกไม่น้อยเลยที่จำเป็นต้องทำงานกันในช่วงกลางคืน ไม่ว่าจะเป็นพนักงานกะดึก นักเรียน นักศึกษา ที่มีหนังสือให้อ่าน รายงานให้ทำโต้รุ่ง จะสั่งอาหารมารับประทานก็เหลือแต่แบรนด์ฟาสต์ฟู้ดไม่กี่เจ้าที่พอให้พึ่งพิง วนซ้ำเหมือนเปิดแผ่นฟังเพลงเดิมจนเบื่อ หากคุณเบื่อจะต้องเปิดร้านออนไลน์แข่งกับพ่อค้าแม่ขายเป็นล้านในช่วงกลางวัน ลองพลิกกลยุทธ์มาเจาะกลุ่มมนุษย์กลางคืนดูบ้าง  อาจจะเริ่มจากขยายเวลาปิดให้ช้าลง ไม่ว่าจะเป็นอาหารเบาๆ หรือหนักๆ กาแฟอุ่นๆ ให้ตาสว่าง หรือเพิ่มจุดขายให้ยิ่งน่าสนใจอีกนิด เช่น มื้อดึกนี้ กินแล้วไม่อ้วน เผลอๆ อาจกลายเป็นช่องทางให้เติบโตแหวกกระแสหลักได้เหมือนกัน


อยากเริ่มต้นค้าขายแต่ยังขาดเงินทุน สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นี่


ที่มา
https://www.bustle.com/p/14-products-for-left-handed-people-that-will-make-your-life-so-much-easier-9800275
https://www.buzzfeed.com/maitlandquitmeyer/products-for-lefties-2019
https://www.healthline.com/nutrition/ketogenic-diet-101
https://www.health.harvard.edu/blog/important-health-problems-matter2 016091510267
https://www.thaihealth.or.th/blog/myblog/topic/819/Phakinee-iPrice/1318/สุขภาพ/7941/รู้ทัน+5+โรคยอดฮิตของคนไทยที่ใคร+ๆ+ก็ไม่อยากเป็น/#.X84Fzi2B1mA