เที่ยว 6 สไตล์ในโอซาก้า ฟินครบรส!

โอซาก้า เมืองเด่นอีกแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น ที่มีสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมหลากหลาย ไม่ว่าจะสายช้อป สายธรรมชาติ สายบุญ สายประวัติศาสตร์ก็สามารถเก็บเกี่ยวประสบการณ์ดีๆ ได้ ประทับจิตประทับใจ ไม่รู้ลืม!


เมืองโอซาก้าแบ่งออกเป็น 2 ย่านใหญ่ๆ ได้แก่ โซนตอนเหนือ เรียกว่า อุเมดะ (Umeda) ซึ่งจะเป็นโซนธุรกิจใหม่ ที่ตั้งของบริษัทชั้นนำและต้นสายของการเดินทางโดยรถไฟไปยังเมืองต่างๆ ส่วนทางตอนใต้เรียกว่า นัมบะ (Namba) ซึ่งเป็นศูนย์กลางความเจริญดั้งเดิม เป็นที่ตั้งของร้านอาหารชื่อดัง และห้างสรรพสินค้าต่างๆ ซึ่งมักคลาคล่ำไปด้วยนักท่องเที่ยวอยู่เสมอ มาดูกันดีกว่า ว่าไปโอซาก้า เที่ยวอะไรได้บ้าง

ปราสาทโอซากา

เที่ยวประวัติศาสตร์ที่ปราสาทโอซาก้า

ปราสาทโอซาก้าตั้งอยู่ในแขวงจูโอ ซึ่งเป็นตำแหน่งใจกลางของเมืองโอซาก้าพอดิบพอดี ถือเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญในสมัยโบราณ และปัจจุบันเป็นจุดเช็กอินที่ห้ามพลาดสำหรับนักท่องเที่ยวที่แวะมาเยี่ยมชม พื้นที่ของปราสาทแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ได้แก่ ตัวหอคอยปราสาทและพื้นที่โดยรอบ สำหรับหอคอยปราสาทได้รับการจดทะเบียนให้เป็นมรดกทางวัฒนธรรมของญี่ปุ่นในปี 1997 แม้ตัวปราสาทจะถูกบูรณะขึ้นใหม่เป็นครั้งที่ 3 ในปี 1931 แต่ก็ยังคงเอกลักษณ์ทางสถาปัตยกรรมดั้งเดิมไว้อย่างงดงาม ตามเจตนารมณ์ของเจ้าของปราสาทอย่างโทโยโตมิ ฮิเดโยชิ จอมทัพผู้รวบรวมญี่ปุ่นให้เป็นปึกแผ่นในยุคสงครามเซ็นโกคุ


สำหรับพื้นที่โดยรอบตัวปราสาทนั้น มีทั้งร้านอาหารและลานอเนกประสงค์สำหรับทำกิจกรรมต่างๆ ตลอดทั้งปี ไม่ว่าจะเป็นการดื่มด่ำบรรยากาศสุดโรแมนติกช่วงดอกซากุระบานในฤดูใบไม้ผลิ หรือดูใบไม้เปลี่ยนสี ในฤดูใบไม้ร่วง สำหรับในช่วงฤดูร้อนของทุกปี จะมีการจัด Thai Festival เพื่อเผยแพร่วัฒนธรรมไทยให้คนญี่ปุ่นในโอซาก้าและภูมิภาคคันไซได้รับชม เช่น การแสดงนาฏศิลป์ มวยไทย หรือ การขายสินค้าและอาหารไทย เป็นต้น นอกจากนี้บริเวณรอบปราสาทยังมีสวนสาธารณะหลายโซน ที่เปิดให้คนเข้ามาวิ่งออกกำลังกายได้อีกด้วย เรียกได้ว่า ที่เดียวมีกิจกรรมให้ทำได้ทั้งปี

แชะภาพลงโซเชียลกับป้ายไฟกูลิโกะ

สายโซเชียลที่ต้องการจะเก็บภาพประทับใจกับสีสันของเมืองโอซาก้าในยามค่ำคืน ไม่ควรพลาดกับจุดถ่ายรูปยอดนิยมอย่างป้ายไฟ The Running Man ที่เป็นสัญลักษณ์ของกูลิโกะ บริษัทขนมชื่อดังของโอซาก้า ป้ายไฟกูลิโกะนี้ตั้งอยู่บริเวณสะพานเอบิสึ ซึ่งเป็นจุดเชื่อมระหว่างย่านโดทงโบริ (Dotonbori) และชินไซบาชิ (Shinsaibashi)


ป้ายไฟนี้นอกจากใช้โฆษณา Brand ของกูลิโกะมาตั้งแต่ปี 1935 แล้ว ยังถูกใช้เป็นป้ายเพื่อให้กำลังใจนักกีฬา ไม่ว่าจะเป็นฟุตบอลทีมชาติ หรือทีมเบสบอลชื่อดังของเมืองโอซาก้าอย่าง Hanshin Tigers โดยเมื่อถึงช่วงเวลาการแข่งขันเจ้า Running Man นี้ก็จะเปลี่ยนชุดตามทีมกีฬานั้นๆ ไปด้วย เรียกว่าอินเทรนด์เก๋ไก๋ในทุกสถานการณ์

ช้อปกระจายหลายของฝากจากห้างดัง

ขาช้อปที่ต้องการซื้อของฝากไม่ว่าจะเป็น ของกิน หรือของใช้ ร้านยอดนิยมที่ไม่พูดถึงไม่ได้ คือ ดองกิโฮเต้ (Don Quijote) ที่มีสินค้าร้อยแปดพันเก้า ตั้งแต่ขนม เครื่องสำอาง ไปจนถึงเครื่องใช้ไฟฟ้า เปิดให้บริการกว่าสิบสาขาทั่วโอซาก้า ที่สำคัญบางสาขามีถึง 6 ชั้น และเปิดตลอด 24 ชั่วโมง สำหรับใครที่ชอบสินค้าไฮเทค เกม และของเล่น แหล่งชอปปิ้งที่อยากแนะนำ มีด้วยกัน 3 ห้างใหญ่ คือ Bic Camera ในย่านนัมบะ ซึ่งห้างนี้เป็นที่รู้จักกันดีในกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวไทย ถัดมาคือห้าง Edion ที่เพิ่งเปิดสาขาใหม่ในย่านเดียวกันนี้เมื่อกลางปี 2562 ที่ผ่านมา จึงมีความอลังการกว่าห้างอื่น แถมยังมีโปรโมชันลดแลกแจกแถม โดนใจขาช้อปสาย Gadget ไปตามๆ กัน ส่วนห้างสุดท้ายคือ Yodobashi Camera ถือเป็นห้างดังในย่านอุเมดะและใหญ่ไม่แพ้ห้างอื่นๆ ถ้ามีเวลาก็อย่าลืมเดินสำรวจ เปรียบเทียบราคาสินค้าของแต่ละห้างเพื่อให้ได้ดีลที่ถูกที่สุด เพราะบางห้างเวลาจัดโปรโมชัน ราคาอาจจะถูกกว่าอีกห้างเกือบครึ่งเลยก็ได้ เปรียบเทียบให้ฉ่ำ แล้วช้อปให้ชุ่ม!

เที่ยวครบจบในที่เดียวที่ Expo City

ใครที่ไม่อยากคิดเยอะ ประมาณว่าขอไปที่เดียวจบ ครบทุกกิจกรรม ขอแนะนำให้ไปที่ Expo ’70 Commemorative Park และ ศูนย์การค้า Expo City ในย่านซุยตะ (Suita) ซึ่งอยู่ทางตอนเหนือของเมืองโอซาก้า โดยโซนแรกเป็นพื้นที่ที่เคยใช้จัดนิทรรศการ World Expo ในปี 1970 แต่ปัจจุบันถูกแปลงโฉมเป็นสวนพฤกษศาสตร์ขนาดใหญ่ เต็มไปด้วยดอกไม้นานาพรรณ ในขณะที่พื้นที่อีกโซนหนึ่งกลายเป็นห้างสรรพสินค้า ที่เป็นทั้งแหล่งช้อปปิ้ง พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ สวนสนุก และร้านขายของเล่นสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการ์ตูนญี่ปุ่น แถมหน้าร้านยังมีหุ่นกันดั้มขนาดยักษ์ให้ได้ถ่ายรูปกันอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีร้านอาหารคุณภาพมากมายให้เลือกตามใจชอบ ที่สำคัญราคาไม่แพงอย่างที่คิด

ชมใบไม้เปลี่ยนสีที่ น้ำตกมิโนะ

ใครที่เป็นขาลุย ชอบเดินป่า ขอแนะนำเมืองเล็กๆ ที่ชื่อว่า มิโนะ ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของโอซาก้า ที่นี่มีทั้งป่าเขา ลำธาร และน้ำตก ให้ได้ดื่มด่ำบรรยากาศธรรมชาติแบบสุดๆ แม้จะไกลออกมาจากตัวเมืองสักหน่อย แต่สามารถเดินทางด้วยรถไฟจากต้นสายที่ย่านอุเมดะ ใช้เวลาเดินทางประมาณครึ่งชั่วโมง จุดเด่นของที่นี่ นอกจากสะพานสีแดงสดใสที่ตัดกับสีเขียวสดของต้นไม้โดยรอบแล้ว ในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี ต้นไม้สีเขียวธรรมดาๆ จะกลายเป็นป่าสีแดงปนส้มสดใสชวนตื่นตาตื่นใจไปอีกแบบ งานนี้ รับรองมีกดปุ่มถ่ายภาพสวยๆ กันรัวๆ ที่แห่งนี้นับเป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่นแห่งหนึ่งในโอซาก้า และภูมิภาคคันไซของญี่ปุ่นเลยทีเดียว

ทำบุญขอพรที่ศาลเจ้าเท็นมังกุ

สถานที่สุดท้ายนี้ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับนักท่องเที่ยวสายบุญ ศาลเจ้าเท็นมังกุ (Tenmangu Shrine) ตั้งอยู่ในย่านเท็นจินบาชิ (Tenjinbashi) ค่อนมาทางตอนเหนือของเมืองโอซาก้า นอกจากนักท่องเที่ยวจะหลั่งไหลมาจากทุกสารทิศ เพื่ออธิษฐานขอพรให้สมหวังในเรื่องต่างๆแล้ว ศาลเจ้าแห่งนี้ยังมีชื่อเสียงจากเทศกาลเท็นจินมัตสึริ (Tenjin Matsuri ) ซึ่งเป็นเทศกาลช่วงฤดูร้อนที่โด่งดังเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศญี่ปุ่น เราจะได้เห็นขบวนแห่เพื่อบูชาเทพเจ้าอย่างอลังการไปรอบเมือง ทั้งทางบกและทางน้ำ โดยจะมีขบวนเรือในแม่น้ำ และการเฉลิมฉลองด้วยการจุดดอกไม้ไฟในยามค่ำคืน สวยงาม เป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำเป็นที่สุด