ซื้อเฟอร์นิเจอร์ใหม่ กู้ดีหรือเปล่า?

มนุษย์เงินเดือน ฐานะปานกลาง เงินเดือนสองหมื่นต้นๆ พอมีเงินเก็บอยู่บ้าง การจะซื้อเฟอร์นิเจอร์สักชิ้นสองชิ้นเพื่อเป็นรางวัลชีวิตดูจะไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรนัก เราสามารถปักหมุดไปตามงานเฟอร์นิเจอร์แฟร์ที่จัดอยู่เรื่อยๆ ทุกปีได้ ซึ่งงานลักษณะนี้จะมีแบรนด์เฟอร์นิเจอร์ต่างๆ รวมถึงผู้ผลิตที่มีโรงงานทำเฟอร์นิเจอร์ขายเองโดยตรงมารวมตัวกันออกบูทพ่วงโปรโมชันและของแถมเต็มไปหมด

ข้อดีของการเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์ตามงานแฟร์อีกอย่างคือ จะมีร้านขายของใช้ ของแต่งบ้าน เครื่องใช้ไฟฟ้า พร้อมโปรโมชันดีๆ มาร่วมออกร้านให้เราได้เลือกครบจบในงานเดียวด้วย สามารถเดินเข้าร้านโน้น ออกร้านนี้ ได้เป็นวันๆ

เจอของถูกใจ ราคาเกินงบไปเยอะ ควรทำอย่างไร

เคยมั้ย เวลาเจอของถูกใจแต่ราคาสูงกว่างบที่ตั้งไว้ ก็เลยตัดใจไม่ซื้อ กลับบ้านไปนอนคิดอยู่หลายตลบ จนความอยากได้ทวีคูณขึ้นมา กลับไปที่ร้านเดิม อ้าว! ของถูกคนอื่นซื้อไปแล้ว ทั้งเสียดาย และเจ็บใจตัวเองที่ไม่ได้ซื้อ


การเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์ก็เช่นกัน เราอาจเจอของที่ชอบเอามากๆ เช่นอยากได้โต๊ะทำงาน และตู้เก็บของเพื่อใช้สอยและจัดระเบียบข้าวของต่างๆ ให้เข้าที่เข้าทาง แล้วก็มาเจอเนื้อคู่เป็นชั้นวางของที่มีทั้งลิ้นชัก ตู้เก็บของ ชั้นวางของ และโต๊ะทำงานในตัว ดูมินิมอลเข้ากับพื้นที่ของเรามากๆ วัสดุที่ใช้ก็ทนทานได้มาตรฐาน แต่ราคาไม่ได้มินิมอลสักเท่าไหร่


สิ่งที่อยากแนะนำคือ ต้องแน่ใจว่าเราได้เดินดูของลักษณะเดียวกันจากร้านอื่นๆ ในงานแล้ว มีร้านนี้ ชิ้นนี้แหละชอบที่สุด ราคาไม่เวอร์เกินไปเมื่อเทียบกับร้านที่ใกล้เคียงกัน อย่าใช้อารมณ์ตัดสินใจ ให้ใช้เหตุผลคิดดูก่อนว่าของชิ้นนี้จำเป็นแค่ไหน ได้ใช้บ่อยแค่ไหน ช่วยให้ชีวิตเราดีขึ้นได้แค่ไหน ถ้าคำตอบคือมันใช่ไปซะทุกอย่าง ไม่ซื้อตอนนี้เสียดายแย่เลย เรื่องเงินก็พอมีอยู่บ้าง เดี๋ยวเงินเดือนก็จะออกอีกแล้ว ชอบมากขนาดนี้ก็ตัดสินใจเลยแล้วกัน แต่ไม่ใช่ตัดสินใจซื้อนะ ให้ถามรายละเอียดเกี่ยวกับร้านค้า ที่อยู่ เบอร์ติดต่อ และรายละเอียดการมัดจำ การส่งสินค้า บริการหลังการขาย และการรับประกันสินค้าไว้ก่อนว่าเป็นอย่างไร แล้วเดินออกมาหาที่สงบๆ ค้นหาข้อมูลในอินเทอร์เน็ตดูก่อนว่าร้านนี้มีความน่าเชื่อถือแค่ไหน การบริการเป็นไปตามที่ให้ข้อมูลไว้หรือไม่ มีที่ตั้งร้าน หรือโรงงานเป็นหลักแหล่งน่าเชื่อถือหรือไม่ ส่งของตรงเวลาหรือไม่ หากหาข้อมูลแล้วไม่เจออะไรเลยก็ต้องชั่งใจดีๆ แต่ถ้าร้านนั้นมีคนพูดถึงในมุมที่เรารับได้ก็มัดจำไว้ก่อนเลย

การจัดงบประมาณที่เหนือความควบคุม ให้สามารถควบคุมได้

การซื้อของที่เกินงบประมาณเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ ไม่ใช่เรื่องแปลก หรือเป็นความผิดแต่อย่างใด อยู่ที่เราจะบริหารจัดการ และวางแผนการใช้จ่ายอย่างไรเท่านั้นเอง ซึ่งก็มีอยู่หลายวิธีด้วยกัน

  1. บัตรเครดิตช่วยได้ ถ้าร้านนั้นรับบัตรเครดิต และยิ่งมีโปรโมชันผ่อน 0% ด้วยยิ่งเลิศมาก แต่สำหรับการใช้จ่ายด้วยบัตรเครดิต สิ่งที่ต้องไม่ลืมคือวงเงินบัตรเครดิตของเราที่ต้องเหลือพอด้วย ถ้าราคาของใกล้เคียงกับวงเงินบัตรเครดิตจนเกินไป ก็ต้องคิดให้ดีว่าเรามีแผนการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตในรอบบัญชีนี้อยู่ด้วยหรือไม่ เช่นค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าอินเทอร์เน็ต ค่าประกัน ซึ่งถ้ารวมแล้วเกินวงเงินไปเยอะก็ขอให้เก็บบัตรเครดิตไว้ที่เดิมก่อน

  2. เงินในบัญชีของเรา เป็นที่พึ่งได้ ข้อนี้จะเหมาะมากๆ กับคนที่มีเงินเก็บในบัญชีค่อนข้างเยอะ ซึ่งก็ต้องมาดูว่า ถ้าเราถอนเงินก้อนนี้ออกมาจ่ายค่าเฟอร์นิเจอร์แล้วทำให้เงินในบัญชีเหลือน้อยกว่า 6 เท่าของค่าใช้จ่ายในขีวิตประจำวันต่อเดือน ก็ไม่แนะนำให้นำเงินก้อนนี้มาใช้ เพราะจะทำให้เราขาดสภาพคล่องทางการเงินทันที หากมีเหตุไม่คาดฝัน เช่นตกงาน แถมต้องใช้เงินก้อนกะทันหันจะเป็นปัญหาใหญ่ขึ้นมาได้ ดังนั้นควรให้เงินเก็บของเราทำหน้าที่เป็นที่พึ่งยามยากจริงๆ จะดีกว่า

  3. สินเชื่อผ่อนสบายๆ จากธนาคารหรือสถาบันการเงิน
    หากทางเลือกอื่นๆ ยังไม่พร้อม การขอสินเชื่อเป็นทางเลือกที่หลายคนนิยมใช้กัน มีหลากหลายรูปแบบให้เลือก เอาที่เหมาะกับเรา ไม่ต้องเป็นหนี้บุญคุณใคร สภาพคล่องยังมี เงินเก็บยังอยู่ และการขอสินเชื่อก็ไม่ได้ทำให้เครดิตทางการเงินเสียแต่อย่างใด ตรงกันข้ามหากเรามีวินัยในการจ่ายคืน เราก็จะมีเครดิตที่ดีขึ้นด้วย

วิธีขอกู้แบบง่ายๆ จบภายในไม่กี่นาที

บางครั้งสิ่งที่เราอยากเป็นเจ้าของอาจมาในเวลาที่ยังไม่พร้อมที่สุด แต่ก็ใช่ว่าเราจะเป็นเจ้าของสิ่งนั้นไม่ได้ การขอสินเชื่อจากธนาคารถือเป็นวิธีที่ดี และปลอดภัยสำหรับผู้ขอกู้ มีกฏหมายและธนาคารแห่งประเทศไทยกำกับดูแลอยู่ อีกทั้งธนาคารเองยังทำหน้าที่เป็นผู้ให้คำปรึกษาในการชำระคืนให้เราได้ด้วย


คนส่วนใหญ่มักเข้าใจผิดว่าการกู้กับธนาคารอนุมัติยากบ้าง ดอกเบี้ยแพงบ้าง ซึ่งถ้าใครคิดแบบนี้ขอให้หยุดความคิดนี้ไว้ได้เลย เพราะปัจจุบันนี้การขอสินเชื่อมีให้เลือกเยอะมาก แถมไม่ยุ่งยากด้วย ดอกเบี้ยนอกระบบที่เราเห็นว่าถูกๆ นั้น เขาคิดดอกเบี้ยเป็นรายวัน ไม่ใช่ต่อปีเหมือนของธนาคาร ดังนั้นไม่ว่าจะนอนคิด นั่งคิดยังไง ดอกเบี้ยของธนาคารคิดออกมาแล้วก็จ่ายถูกกว่านอกระบบหลายเท่าตัว


ปัจจุบันนี้เราสามารถขอสินเชื่อจากที่ไหน เมื่อไหร่ก็ได้ เพียงแค่มีแอปของธนาคาร ยกตัวอย่างของธนาคารไทยพาณิชย์ มีแอป SCB EASY ที่เราสามารถเข้าระบบไปกดเลือกประเภทของสินเชื่อที่เหมาะกับเราผ่านทางมือถือได้เลย มีให้เลือกทั้งการขอสินเชื่อแบบมีหลักประกัน และไม่มีหลักประกัน หรือสินเชื่อที่ขอได้โดยไม่ต้องมีบัญชีกับธนาคารเลยก็มี  ใช้เวลาไม่กี่นาทีในการกรอกข้อมูลของเราเอง จากนั้นก็รอผลอนุมัติจากธนาคารได้เลย ง่ายมากๆ


แต่ถ้ายังไม่ได้เป็นลูกค้าและไม่มีแอป ก็สามารถไปแจ้งความประสงค์ได้บนเว็บไซต์ที่ https://scbcw-preprod.scb.co.th/th/personal-banking/loans/personal-loans/speedy-loan.html ก็จะมีเจ้าหน้าที่ติดต่อกลับ สะดวกเหมือนกัน


การขอสินเชื่อกับธนาคาร เราจะได้รับคำปรึกษาแบบเฉพาะตัวจริงๆ ไหวแค่ไหน ก็เลือกผ่อนเท่านั้น อยากผ่อนสั้น ผ่อนยาว เอาที่เหมาะกับเรา เป็นการบริหารความเสี่ยงด้านการเงินที่คุ้มมาก แต่ที่สำคัญเหนืออื่นใดก็คือ การที่เราได้เครดิตมาแล้วก็ต้องมีวินัยในการใช้จ่ายให้มากขึ้น เงินเพื่อรักษาเครดิตดีๆ ให้อยู่กับเราไปนานๆ