ปลวกจ๋า... ทำไมถึงมาตอนเงินไม่มี

คนรุ่นใหม่ที่แยกครอบครัวออกมาอาศัยอยู่ในคอนโดมิเนียมกลางกรุง เพราะต้องการความคล่องตัวในการใช้ชีวิต ก็มีภาระค่าใช้จ่ายมากมายอยู่แล้ว ยิ่งถ้าซื้อรถมาขับด้วย รายจ่ายต่อเดือนก็ถือว่าหนักเอาการ ทั้งผ่อนรถ ผ่อนคอนโด ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์มือถือ แล้วยังมีค่าใช้จ่ายอื่นๆ อีกเพียบ ถ้าวางแผนชีวิตไม่ดี มีหวังเงินเดือนไม่พอใช้แน่นอน


ต่อให้เราจัดสรรรายได้ของเราต่อเดือนดีอย่างไร ก็มักมีเรื่องที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นได้เสมอ อุตส่าห์อาศัยอยู่บนตึกสูง ใครจะคิดว่าปัญหาแขกไม่ได้รับเชิญมันจะเกิดขึ้นได้ คอนโดที่อยู่มาเพียงไม่กี่ปี วันดีคืนดีก็มีเสียงกรอบๆ แกรบๆ ตามมุมห้อง ตามพื้น ตามกำแพง แรกๆ ก็ไม่ได้กังวลอะไร เพราะที่คอนโดมีการจัดหาบริษัทกำจัดแมลงมาฉีดพ่นยาในพื้นที่ส่วนกลางเป็นประจำอยู่แล้ว ก็เลยใช้ชีวิตปกติเหมือนเช่นเคย จนกระทั่งในกลุ่มไลน์ของคอนโด มีเจ้าของห้องอื่นแจ้งมาว่า พบปลวกในห้องพัก เท่านั้นแหละ ก็เลยเกิดเอะใจว่าเสียงในห้อง มันเสียงปลวกรึเปล่านะ? พื้นห้องก็เป็นพื้นไม้ด้วย เมื่อลองสำรวจดูตามมุมห้องก็เห็นร่องรอยประหลาด เอาแล้วปลวกแน่ๆ ลองหาไม้มาแงะๆ ดู โอ้โห...เห็นแล้วขนลุก มันยั้วเยี้ยไปหมดเลย

ด้วยความที่คิดว่าสามารถจัดการได้เอง จึงออกไปซื้อยาฆ่าปลวกในร้านสะดวกซื้อมาฉีดๆ พ่นๆ อัดยาไปเต็มๆ ตายแน่เจ้าปลวกร้าย จากนั้นก็นิ่งนอนใจ ใช้ชีวิตเหมือนเดิม ห้องก็ยังคงรกเหมือนเดิม แต่มุมที่เจอปลวกก็ทำความสะอาดแล้วก็ปล่อยว่างไว้คิดว่าในห้องแสนรักคงปราศจากแขกที่ไม่ได้เชิญเรียบร้อย ผ่านมาอีก 2-3 เดือน พอดีกับเป็นช่วงวันหยุดยาวเลยปิดห้องไว้แล้วออกไปเที่ยวพักผ่อนให้สบายอารมณ์


หนึ่งสัปดาห์หลังจากไปเที่ยวกลับมา ทำไมถึงได้ยินเสียงเจ้าปลวกในห้องอีกนะ ลงเอยด้วยการทำเหมือนเดิม คือ หาต้นตอเสียงแล้วพ่นยา แต่มันก็ไม่หมดซักที ความโหดร้ายอยู่ที่เราพบว่า ข้าวของในห้องถูกทำลายล้างจนหมด ชั้นวางของ กล่องเอกสารโดนแทะจนเหลือแต่ซาก รูปถ่ายครอบครัวทั้งอัลบั้มเหลือแค่ซองพลาสติกของขวัญวันเกิดที่เพื่อนๆ ให้มาแค่เอาไม้เขี่ยก็ร่วงเป็นผุยผง ที่ร้ายที่สุดคือ ปริญญาบัตร ถูกปลวกกินจนเหลือแค่เข็มมหาวิทยาลัย ซึ่งไม่รู้จะไม่หาจากไหนได้อีก ความเสียหายครั้งนี้บอกได้เลยว่าเจ็บปวดจนอยากจะร้องไห้ 

สุดท้ายจึงต้องพึ่งพาบริษัทกำจัดปลวกเข้ามาจัดการ หลังจากสอบถามเจ้าหน้าที่ สรุปว่าไม่ใช่ยาที่เราพ่นไม่ดีนะ แต่มันเป็นวิธีที่ผิด ตั้งแต่ที่คอนโดพ่นยา ปลวกมันก็หนีเข้ามาในห้องพักที่ไม่ได้ฉีดพ่นยา เพราะปลอดภัยกว่า พอเราเจอมันในห้อง เราก็พ่นยาไล่มันอีก มันก็เลยหนีไปมุมอื่นๆ จนสุดท้ายก็ขยายบริเวณไปจนทั่วทั้งห้อง


วิธีที่จะกำจัดเจ้าปลวกร้ายให้สิ้นซาก คือ เอาไม้ที่ปูพื้นออกแล้วเปลี่ยนเป็นกระเบื้องแทน เอาอาหารมันออกไปเคลียร์ห้องให้โล่ง พ่นยาฆ่าปลวก วางเหยื่อล่อบนเส้นทางเดินของปลวกเพื่อให้มันเอาไปกินที่รัง และตายยกลังในที่สุด สรุปคือ ทำห้องใหม่ (Renovate) นั่นเอง ทั้งหมดนี้มันไม่ได้ทำกันฟรีๆ ทุกอย่างมีค่าใช้จ่ายหมด จะเอาเงินที่ไหนมาจ่ายล่ะ รายจ่ายประจำก็ยังมีเหมือนเดิม แถมเพิ่มเติมด้วยค่าช้อปปิ้งที่เพิ่งไปเที่ยวมา แค่คิดว่าจะหาเงินมาจ่ายยังไงก็เหนื่อยแล้ว

ค่ากำจัดปลวก ค่าทำห้องใหม่ รวมๆ แล้วก็เกือบแสน ไหนจะต้องจ่ายค่าประกันให้กับทางคอนโด เผื่อกรณีผู้รับเหมาทำข้าวของส่วนกลางเสียหายอีก ค่าใช้จ่ายพวกนี้ใช้บัตรเครดิตจ่ายไม่ได้ รับเป็นเงินสด หรือเงินโอนเข้าบัญชีเท่านั้น มนุษย์เงินเดือนตัวเล็กๆ จะไปหาเงินก้อนโตขนาดนี้ได้จากที่ไหน ทำไมเจ้าปลวกร้าย ต้องมาตอนที่เงินไม่มีด้วยนะ ครั้นจะทนอยู่ร่วมกับปลวกต่อไป ห้องคงจะพังกว่านี้แน่ๆ

อย่าคิดว่าจะไปพึ่งพาเงินกู้นอกระบบเลยนะ ดอกเบี้ยโหดจ่ายไม่หมดแน่ โชคดีที่เรามีทางออก เพราะสมัยนี้ธนาคารมีสินเชื่อบุคคลอเนกประสงค์ ที่ให้เราเอาเงินก้อนไปใช้ได้ โดยไม่ต้องมีหลักทรัพย์ หรือบุคคลมาค้ำประกัน พอสินเชื่อได้รับการอนุมัติ ธนาคารก็จะโอนเงินเข้ามาที่บัญชีของเราเลย แถมเรายังเลือกได้อีกนะว่าจะผ่อนสั้น ผ่อนยาว เพื่อไม่ให้ชีวิตเราต้องลำบากจนเกินไป ดอกเบี้ยก็ลดต้นลดดอก ไม่ต้องกังวลว่าเงินที่จ่ายคืนจะมีแต่ดอกเท่านั้น เมื่อมีเงินจะทำอะไรก็ได้ เรียกว่า งานนี้ได้ห้องใหม่ถูกใจกว่าเดิม

ปลวกจ๋า...ไม่ต้องกลับมาแล้วนะ