ในช่วงสถานการณ์โควิด 19 ที่ผ่านมา ทำให้การใช้เวลาที่บ้านมากขึ้นกว่าเดิม หลายคน Work From Home  ตลอดทั้งวัน ทำให้ปริมาณการใช้ไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้นเป็นเงาตามตัว โดยเฉพาะการใช้เครื่องปรับอากาศ ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้บางคนให้ความสนใจกับพลังงานทางเลือก เช่น โซลาร์เซลล์ เพื่อเปลี่ยนบ้านให้มีความสะดวกสบายเหมาะกับไลฟ์สไตล์ยุคใหม่ และประหยัดพลังงาน ช่วยลดภาระค่าไฟฟ้าในระยะยาวได้อีกด้วย ดังนั้น เราจึงควรทำความรู้จัก และประเมินปัจจัยที่เกี่ยวข้อง ก่อนตัดสินใจติดตั้งโซลาร์เซลล์  เพื่อให้สามารถเลือกใช้งานได้อย่างเหมาะสม และคุ้มค่าอย่างแท้จริง

คำนวณปริมาณการใช้ไฟในบ้าน

สิ่งแรกที่เราต้องคำนึงถึงก่อนติดตั้งโซลาร์เซลล์ คือ การดูว่าบ้านของเรามีปริมาณการใช้ไฟมากน้อยแค่ไหน โดยคำนวณการใช้ไฟย้อนหลัง 3 เดือน พร้อมสังกตพฤติกรรมการใช้ไฟในบ้าน เพื่อให้เราตัดสินใจได้ว่าควรติดตั้งโซลาร์เซลล์หรือไม่ ควรเลือกใช้แผงโซลาร์เซลล์ที่มีกำลังการผลิตเท่าไหร่ จึงจะเหมาะสมกับการใช้งาน

เลือกมืออาชีพติดตั้งโซลาร์เซลล์

เลือกใช้บริษัทที่มีประสบการณ์ความเชี่ยวชาญและทันสมัย  มีอุปกรณ์ที่ได้มาตรฐาน พร้อมมีบริการ One Stop Service ที่เพิ่มความสะดวกทั้งการติดตั้ง และการทำเอกสารขออนุญาตกับการไฟฟ้า ซึ่งช่วยประหยัดเวลาให้เราได้มากขึ้น รวมถึงต้องมีบริการหลังการขาย เพื่อดูแลอุปกรณ์และประสิทธิภาพการทำงานของระบบต่าง ๆ ให้เราอย่างต่อเนื่องตลอดอายุการใช้งาน

เช็กสถานที่ก่อนติดตั้ง

หลังจากตัดสินใจติดตั้งโซลาร์เซลล์แล้ว เสต็ปต่อมา คือ การสำรวจสถานที่ติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ ดังนี้

• ทิศทางแดด พื้นที่ที่เหมาะสำหรับการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ ควรเป็นบริเวณที่มีแสงแดดจัดตลอดทั้งวัน โดยทิศทางที่ดีที่สุด คือ ทิศตะวันตกหรือทิศตะวันตกเฉียงใต้ นอกจากนี้ ต้องไม่มีสิ่งกีดขวาง หรือบังแสงแดดใกล้บริเวณที่ติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ด้วย
  
  
• ตำแหน่งการติดตั้ง การติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ต้องมีวิศวกรทำหน้าที่ตรวจสอบความแข็งแรงของหลังคา เพื่อไม่ให้เกิดอันตรายหลังการติดตั้ง และต้องมีโครงเหล็กรองรับแผง เพื่อความแข็งแรงและปลอดภัย ไม่ควรติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์บนหลังคาโดยตรง เพราะหลังคาอาจไม่สามารถรรับน้ำหนักแผงโซลาร์เซลล์ได้ สำหรับบ้านที่ไม่สามารถติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์บนหลังคา ยังมีอีกหนึ่งทางเลือก คือ ติดตั้งบริเวณพื้นดิน โดยสร้างฐานรองรับให้มั่นคง และไม่อยู่ในบริเวณที่รับแสงแดดได้น้อยเกินไป

ขออนุญาตติดตั้งและยื่นเอกสาร

• เมื่อเตรียมความพร้อมก่อนติดตั้งแผลโซลาร์เซลล์แล้ว ต้องแจ้งขออนุญาตติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์
  
  
• ที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) หรือการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) ในเขตพื้นที่บ้านของเรา เพื่อเชื่อมต่อกระแสไฟฟ้ากับการไฟฟ้า
  
  
• และยื่นแบบคำขอขายไฟฟ้า รอการแจ้งผลประกาศรายชื่อผู้ผ่านการคัดเลือก ชำระค่าเชื่อมต่อระบบโครงข่ายไฟฟ้า และลงนามซื้อขายไฟฟ้า ขั้นตอนทั้งหมดใช้เวลาประมาณ 1 เดือน ซึ่งปัจจุบันบริษัทที่ให้บริการติดตั้งแผงโซลลาร์เซลล์ มักจะมีบริการขออนุญาตติดตั้งให้ด้วย เพื่อช่วยเพิ่มความสะดวกให้ลูกค้า

เข้าใจวิธีการใช้งานและการดูแลรักษา

อายุการใช้งานโซลาร์เซลล์ โดยปกติอยู่ที่ปริมาณ 20-25 ปี ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับการดูแลรักษาด้วย ดังนั้น หลังจากเราติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์แล้ว ต้องทำความเข้าใจการใช้งานและการดูแลรักษาเบื้องต้น ระวังใบไม้ หรือคราบสกปรกจากมูลนกเปื้อนบริเวณแผง ซึ่งจะทำให้มีผลต่อการรับแสงได้ รวมถึงหมั่นตรวจสอบและดูแลรักษาประจำปี เพื่อป้องกันปัญหากวนใจต่าง ๆ ซึ่งจะช่วยยืดอายุการใช้งานแผงโซลาร์เซลล์ให้ยาวนาน และสามารถใช้งานได้อย่างคุ้มค่ามากยิ่งขึ้น

ระบบโซลลาร์เซลล์ถือเป็นพลังงานสะอาด และเป็นทางเลือกใหม่ที่น่าสนใจสำหรับบ้านที่มีปริมาณการใช้ไฟฟ้าค่อนข้างสูง เพราะจะช่วยประหยัดค่าไฟได้มากขึ้น ดังนั้น หลังจากตัดสินใจจะติดตั้งโซลาร์เซลล์แล้ว ลองค้นหามืออาชีพที่พร้อมให้บริการอย่างมีมาตรฐาน ทันสมัย มีบริการหลังการขายที่ดี  และมีดีลพิเศษที่น่าสนใจ  เพื่อให้เราได้รับประโยชน์จากการใช้งานโซลลาร์เซลล์อย่างคุ้มค่ามากที่สุด