มีสติ ไม่เสียสตางค์

เรื่อง: บองเต่า ไชยณัฐ สัจจะปรเมษฐ


Hi-Light:

  • สิ่งแรกที่นักเรียนไทยในปารีสจะย้ำเตือนกันอยู่เสมอ คือเรื่องการกดเงินจากเครื่องเอทีเอ็ม ถ้าเลือกได้ ก็ควรจะกดจากเครื่องที่อยู่ในตัวอาคารที่ต้องเดินผ่านประตูของธนาคารเข้าไปก่อนเท่านั้น
  • ส่วนสถานที่ที่นับว่าอันตรายที่สุด มีความเสี่ยงมากที่สุด คือในสถานีเมโทรหรือรถไฟใต้ดิน ซึ่งเป็นการคมนาคมหลักของเมืองหลักทั้งหลายในยุโรป ซึ่งจังหวะที่โจรอาจจะเล่นงานเรานั้นมีทุกรูปแบบ ตั้งแต่เราเดินเข้าสถานี ไปจนถึงออกสถานี เมื่อเข้าสถานีแล้ว ควรเก็บสิ่งมีค่าทั้งหมดให้มิดชิด โดยเฉพาะกล้อง กระเป๋าสตางค์ และถ้าไม่จำเป็นก็อย่าเพิ่งเอามือถือออกมาเล่น
  • ถ้าเราอยู่ในสถานการณ์นี้ สิ่งแรกที่ขอแนะนำคือ ตั้งสติ โดยเฉลี่ยแล้ว สิ่งที่โดนขโมยไปแทบไม่มีโอกาสจะตามกลับมาได้เลย สิ่งที่ต้องทำต่อ คือการจำกัดไม่ให้เกิดความเสียหายไปมากกว่านี้ โดยสิ่งแรกที่ควรทำคือการอายัดบัตรเครดิตทุกใบโดยด่วนที่สุด ซึ่งแนะนำให้กลับโรงแรมมาตั้งหลักเพื่อหาข้อมูลที่จำเป็นในการดำเนินการขั้นถัดไป


ประเทศแถบยุโรปนั้นเป็นจุดหมายที่ใครหลายคนวาดฝันไว้ว่า เป็นเมืองแห่งความโรแมนติก เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมสุดอลังการ อารยธรรมเก่าแก่ หรือธรรมชาติที่สวยงาม ซึ่งจะว่าไปก็ไม่ผิดเสียทีเดียว ปารีสนั้นเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมอันวิจิตรหรูหรา กรุงโรมนั้นมีกลิ่นของอารยธรรมเก่าแก่ของโลก และภูเขาหิมะและทุ่งหญ้าเขียวในสวิตเซอร์แลนด์นั้นของจริงก็สวยไม่ต่างจากที่เราเห็นในภาพที่ส่งต่อกันมาในกรุ๊ปไลน์


แต่ไม่ว่าจะที่ใดในโลก เมื่อมีด้านที่สวยงามแล้ว ก็ย่อมมีด้านมืดเช่นเดียวกัน


เมืองท่องเที่ยวของยุโรปนั้นขึ้นชื่อว่าเป็นแหล่งอาชญากรรมระดับโลก ชุกชมไปด้วยโจรขโมยระดับมืออาชีพ ชนิดที่ว่าถ้ามีการแข่งขันประกวดความสามารถในวงการโจรโลก โจรยุโรปจะต้องเข้ารอบไปถึงรอบชิงชนะเลิศ หรือเผลอๆอาจจะได้แชมป์เลยด้วยซ้ำ ซึ่งเป้าหมายหลักของโจรเหล่านี้ก็ไม่ใช่ใคร คือชาวเอเชียตาดำๆ (และผมดำๆ) อย่างพวกเรานี่เอง เพราะชาวเอเชียนั้นนิยมพกเงินสด และมุ่งหน้ามาที่เมืองเหล่านี้เพื่อช้อปปิ้งถลุงเงินกันอย่างเอิกเกริกนี่เอง

โจรพวกนี้มีการพัฒนาตนเอง มีเทคนิคการปฏิบัติการที่แยบยล และ อัพเกรด ความแพรวพราวมากขึ้นทุกปี จากเดิมสมัยก่อนจะเน้นที่การฉกชิงวิ่งราว ล้วงกระเป๋า (ซึ่งเดี๋ยวนี้ก็ยังมีอยู่) เดี๋ยวนี้เริ่มลุกลามไปจนถึงการปลอมตัวเป็นนักท่องเที่ยวเพื่อหลอกนักท่องเที่ยวอีกทีด้วย หากใครที่คิดว่าตัวเองศึกษาหรือระวังตัวมามากพอแล้ว ผมขอบอกเลยครับว่า อาจจะมีโจรบางกลุ่มที่ฉลาดเหนือเราไปอีกขั้นคอยจ้องจะเล่นงานเราเสมอ


ผมเคยเป็นนักเรียนอยู่ที่ปารีสและเมืองปริมณฑลอยู่ประมาณปีเศษ ซึ่งตอนนั้นต้องไปอยู่ตัวคนเดียว จึงต้องระมัดระวังเรื่องโจรขโมยมากเป็นพิเศษ เพราะตนเป็นที่พึ่งแห่งตนตลอด สิ่งแรกที่นักเรียนไทยในปารีสจะย้ำเตือนกันอยู่เสมอ คือเรื่องการกดเงินจากเครื่องเอทีเอ็ม ถ้าเลือกได้ ก็ควรจะกดจากเครื่องที่อยู่ในตัวอาคารที่ต้องเดินผ่านประตูของธนาคารเข้าไปก่อนเท่านั้น เพราะบางตู้ที่อยู่ตามกำแพงริมถนนนั้น ตอนเรากดเงินอาจจะไม่มีอะไรผิดปกติ แต่พอเงินไหลออกมาจากตู้ จังหวะนั้นอาจจะมีใครก็ไม่รู้โผล่มาเอามีดจี้พุงน้อยๆของเรารออยู่แล้วก็ได้


ส่วนสถานที่ที่ผมนับว่าอันตรายที่สุด มีความเสี่ยงมากที่สุด คือในสถานีเมโทรหรือรถไฟใต้ดิน ซึ่งเป็นการคมนาคมหลักของเมืองหลักทั้งหลายในยุโรป ซึ่งจังหวะที่โจรอาจจะเล่นงานเรานั้นมีทุกรูปแบบ ตั้งแต่เราเดินเข้าสถานี ไปจนถึงออกสถานีเลย สิ่งที่ผมแนะนำได้คือ ไม่ต้องกลัวถึงขนาดฝ่อแล้วเปลี่ยนใจไปเดินแทนที่จะนั่งรถไฟ เพราะนั่นก็วิตกจริตเกินไป แต่เมื่อเข้าสถานีแล้ว ควรเก็บสิ่งมีค่าทั้งหมดให้มิดชิด โดยเฉพาะกล้อง กระเป๋าสตางค์ และถ้าไม่จำเป็นก็อย่าเพิ่งเอามือถือออกมาเล่นครับ


จากประสบการณ์ของผม ผมเคยเจ็บใจเพราะพลาดท่าให้กับโจรที่สถานีรถไฟในมิลาน ถึงแม้จะเสียเงินไปไม่เยอะ แต่มันน่าเจ็บใจมากกว่า โจรพวกนี้จะคอยดักเราอยู่ที่ตู้ขายตั๋ว ซึ่งมันจะทำทีเป็นผู้หวังดีจะเข้ามาช่วยเรากดซื้อตั๋วให้ ซึ่งนักท่องเที่ยวเอเชียส่วนมากจะใช้เงินสดซื้อ แล้วพอเงินทอนร่วงลงมาในช่อง มันจะใช้มือปัดให้เหรียญตกบนพื้น แล้วมันจะอาศัยจังหวะชุลมุนเก็บเงินบางส่วนเข้ากระเป๋าตัวเอง แล้วคืนมาให้เราแค่เหรียญเดียว ถึงครั้งนึงมันจะได้เงินไปไม่เท่าไร แต่ทำบ่อยๆก็คิดเป็นเงินไม่น้อยอยู่เหมือนกัน บางทีเราแทบไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำไปว่ามันเอาเงินเราไปเรียบร้อยแล้ว


อย่างที่บอกว่าโจรนั้นก็มีการศึกษาและพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ เพราะพวกเราก็ต้องปรับตัวตามโจรอยู่ตลอด โจรปี 2018 เริ่มมีการเปิดตัวเทคนิคใหม่ๆ ซึ่งจริงๆ แล้วไม่ว่าจะมาไม้ไหน เทคนิคหลักๆ ที่พวกมันต้องการคือ การหลอกล่อความสนใจของเหยื่อ เพื่อให้เปิดช่องว่างในการลักขโมย โดยมุกใหม่ล่าสุดที่เพิ่งเริ่มเห็นในช่วงสองสามปีที่ผ่านมา คือการใช้สีหรือซอสสาดไปที่กระเป๋าหรือด้านหลังของเหยื่อโดยไม่ให้รู้ตัว แล้วส่งทีมงานเข้าไปสะกิดว่าเสื้อเลอะ ซึ่งคนส่วนมาก พอรู้ตัวว่าเสื้อเลอะ ก็จะเริ่มพะวงกับการเช็ดทำความสะอาด มันจะส่งเพื่อนมันอีกสองสามคนเข้ามามะรุมมะตุ้มเป็นผู้หวังดีช่วยทำความสะอาดให้ ผู้หญิงบางคนอาจจะวางกระเป๋า ถอดเสื้อนอก ซึ่งจังหวะนี้แหละครับที่เป็นการเปิดช่อง กว่าเราจะรู้ตัวอีกที กระเป๋าถือทั้งใบอาจจะหายไปแล้วก็ได้

ซึ่งบางครั้ง คนทั้งหมดที่เข้ามารุมล้อมเรา อาจจะแต่งตัวเป็นนักท่องเที่ยว ถือแผนที่ มีกล้อง พูดภาษาอังกฤษได้เพื่อให้เราตายใจ นึกว่าเป็นนักท่องเที่ยวผู้หวังดี หารู้ไม่ว่าเป็นโจรระดับแอดวานซ์ที่คอสเพลย์มาหลอกเรา แถมผ่านการซ้อมจากคอร์สการแสดงระดับรัชดาลัยมาแล้ว


ถึงผมจะไม่เคยเสร็จโจรยุโรปมาก่อน แต่ผมเคยอยู่ในเหตุการณ์ที่รุ่นพี่โดนขโมยกระเป๋าถือทั้งใบ ซึ่งโจรมันอุกอาจเข้ามาขโมยตอนที่เราช้อปปิ้งถึงในร้านรองเท้าทีเดียว โดยอาศัยจังหวะตอนที่เรากำลังลองรองเท้าก้มๆ เงยๆ แล้ววางกระเป๋าไว้ข้างตัว เงยหน้ามาอีกที กระเป๋าหายไปแล้วทั้งใบ ซึ่งความซวยคือ ในนั้นมีทั้งเงินสด บัตรเครดิต ไปจนถึงพาสปอร์ต เหลือไว้อย่างเดียวคือมือถือที่กำอยู่ในมือ


ถ้าเราอยู่ในสถานการณ์นี้ สิ่งแรกที่ผมขอแนะนำคือ ตั้งสติครับ โดยเฉลี่ยแล้ว สิ่งที่โดนขโมยไปแทบไม่มีโอกาสจะตามกลับมาได้เลย สิ่งที่ต้องทำต่อ คือการจำกัดไม่ให้เกิดความเสียหายไปมากกว่านี้ โดยสิ่งแรกที่ควรทำคือการอายัดบัตรเครดิตทุกใบโดยด่วนที่สุด ก่อนที่โจรมันจะเอาไปรูดแล้วความซวยเด้งที่สองจะตกมาที่เรา ซึ่งผมแนะนำให้กลับโรงแรมมาตั้งหลัก เพื่อหาข้อมูลที่จำเป็นในการดำเนินการขั้นถัดไป ซึ่งในบางประเทศท๊อปฮิตที่โจรขโมยชุกชุมยิ่งกว่ายุงลาย อย่างฝรั่งเศส อิตาลี สเปน แค่เรากูเกิ้ลว่า พาสปอร์ตหาย แล้วตามด้วยชื่อประเทศ จะมีกระทู้พันทิปรีวิวขั้นตอนการจัดการ ละเอียดยิ่งกว่ากระทู้รีวิวเครื่องสำอางเสียอีก


ขั้นถัดไปคือการไปแจ้งความที่สถานีตำรวจ ซึ่งจุดนี้ไม่ต้องไปคาดหวังมากนะครับว่าเขาจะช่วยเรา เพราะวันนึงเกิดเคสลักขโมยแบบนี้เป็นสิบเป็นร้อย แต่ก็ทำอะไรไม่ได้มาก ถ้าเป็นเมืองท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะมีตำรวจที่พอพูดภาษาอังกฤษได้อยู่บ้าง แต่ในกรณีที่ซวยขั้นสูงสุด พาสปอร์ตถูกขโมยไปด้วย เราจะไม่ได้จบที่สถานีตำรวจ เพราะเราต้องแจ้งความเพื่อนำใบแจ้งความ ไปทำพาสปอร์ตชั่วคราวที่สถานทูตไทยทีใกล้ที่สุด ซึ่งเราจะสามารถใช้พาสปอร์ตเล่มนี้เดินทางกลับไทยได้ครับ


ทั้งหมดที่เขียนเล่ามานี้ ฟังดูน่ากลัวใช่ไหมครับ เมืองที่สวยงามก็มีด้านมืดที่น่ากลัวได้ แต่ผมไม่ได้เขียนมาเพื่อขู่ จนต้องวิตกในระดับที่เปลี่ยนแผนย้ายที่เที่ยวเพื่อหนีโจรนะครับ หรือถ้าไปเที่ยวแล้วก็ไม่ต้องวิตกจริต ระวังทุกอย่างจนไม่เป็นอันเที่ยว อุตส่าห์เสียเงินเสียวันลาพักร้อนไปตั้งเยอะ เรามาเที่ยวเพื่อมามีความสุข ดังนั้นก็วางแผนและออกเดินทางตามอย่างที่ตั้งใจไว้ เพียงแค่อย่าลืมครับว่า การลงมือของโจรจะไม่สำเร็จ ถ้าเราไม่เปิดช่องให้โจร และวิธีการป้องกันที่ดีที่สุด คือการมีสติเสมอ


นิทานเรื่องนี้ สอนให้รู้ว่า ถ้าเราเสียสติ เราอาจจะต้องเสียสตางค์ด้วย


คติสอนใจนี้ ไม่ใช่แค่กับโจรเท่านั้นนะครับ ตอนอยู่ในห้างที่ทุกอย่างกำลังลดราคาก็เช่นกัน