สไตล์การทำงานในแบบ อีลอน มัสก์ - Iron Man ในโลกแห่งความเป็นจริง

ในแวดวงมหาเศรษฐีและนักธุรกิจชื่อดังที่ประสบความสำเร็จระดับโลก แน่นอนต้องมีชื่อของผู้ชายที่ปราดเปรื่อง ผู้มีวิสัยทัศน์ล้ำหน้าที่พร้อมจะเปลี่ยนโลก ชายหนุ่มทรงเสน่ห์และประสบความสำเร็จติดหนึ่งใน 5 ของอภิมหาเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดในโลก (Forbes August 31, 2020) ชายผู้นี้จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก Elon Musk มหาเศรษฐีหนุ่มชื่อดังที่ขยับตัวทำอะไรก็เป็นข่าวดังระดับโลกไปเสียทุกที วันนี้เราจะมาเปิดเคล็ดลับสร้างความสำเร็จที่มาจากศูนย์ ด้วยสองมือกับหนึ่งมันสมองอันแสนชายฉลาดของอีลอน มัสก์กัน


อีลอนเกิดที่แอฟริกาใต้ และย้ายมาอยู่แคนาดาเมื่อเขาอายุ 17 ปี และได้เป็นพลเมืองอเมริกันเมื่ออายุ 31 ปี อีลอนไม่ได้เติบโตมาจากครอบครัวที่ร่ำรวยอะไรเลย และอาจจะพูดได้ว่าเขามีชีวิตในวัยเด็กที่ไม่ได้สบายนักเพราะแม่ของเขา เมย์ มัสก์ ต้องเลี้ยงดูลูกทั้ง 3 คนเพียงลำพังหลังจากแยกทางกับสามีเมื่อเธออายุ 31 ปี ซึ่งในตอนนั้นอีลอนซึ่งเป็นลูกชายคนแรกอายุยังไม่ถึง 10 ขวบ เมย์ต้องใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก ไม่ได้สุขสบายเหมือนเช่นทุกวันนี้ เธอต้องทำงานหนักเพื่อเลี้ยงดูลูกทั้ง 3 คน เธอเล่าว่าต้องทำงาน 5 อย่างไปพร้อมๆ กัน เพื่อให้มีรายได้เพียงพอที่จะเลี้ยงครอบครัว “ฉันต้องจ่ายค่าเช่าบ้าน ฉันต้องหาเงินซ่อมหลังคาบ้านที่เราอยู่ และต้องหาเงินมาซื้ออาหารสำหรับพวกเราทั้ง 4 คน” ในช่วงเวลาที่ต้องเป็นเสาหลักเพียงคนเดียวให้กับลูกซึ่งยังเล็กทั้ง 3 คน เธอเล่าต่อว่า “ฉันจำได้ว่ามีวันหนึ่งที่ฉันร้องไห้เมื่อลูกคนหนึ่งทำนมหก ฉันร้องไห้เพราะในวันนั้นฉันไม่มีเงินพอที่จะซื้อนมกล่องใหม่ให้ลูกๆ ได้ ” ความเข้มแข็งของแม่คงถูกถ่ายทอดไปที่อีลอน ซึ่งทำให้เขาประสบความสำเร็จอย่างทุกวันนี้


“I think it is possible for ordinary people to choose to be extraordinary.” -Elon Musk แน่นอนว่าเราไม่สามารถเลือกเกิดมารวยหรือจนได้ แต่นั่นไม่ใช่อุปสรรคหรือข้ออ้างที่เราจะเลือกประสบความสำเร็จในชีวิต และมันน่าภูมิใจแค่ไหนถ้าความสำเร็จนั้นถูกสร้างด้วยสองมือของเราเอง มาดูเคล็ดลับความสำเร็จและวิธีการทำงานของอีลอน มัสก์กัน

elon-musk-banner

Photographic Memory เขามีความสามารถในการจดจำภาพต่างๆ ในหัวได้อย่างแม่นยำ และมีความสามารถในการจินตนาการสิ่งที่เป็นนามธรรมให้เป็นรูปธรรมได้ชัดเจน จากไอเดียเขาสามารถแปลง นามธรรมให้เป็นภาพนำไปสู่การสร้างสิ่งต่างๆ ขึ้นมาในโลกที่เป็นจริงได้

Problem-solving and tenacity อีลอนมีความสามารถอย่างยอดเยี่ยมในการแก้ปัญหาและเปลี่ยนจากปัญหาให้เป็นโซลูชั่น รวมทั้งมีความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้าในการทำงานและก้าวผ่านปัญหาให้สำเร็จ โดยไม่ย่อท้อต่อความล้มเหลว

Works like a mad man เขาเป็นคนบ้างานทำงานหนักมากอย่างน้อย 100 ชั่วโมง ต่อสัปดาห์ หลายๆ ครั้งเขาคลุกอยู่กับงานในโรงงานผลิตเป็นอาทิตย์ๆ โดยไม่ละทิ้งงานออกมาพักเลย ในบางอาทิตย์เขาทำงานมากกว่า 120 ชั่วโมง ถึงขนาดนอนหลับบนพื้นในโรงงาน เขาจะทำงานต่อเนื่องจนเสร็จโดยไม่ละทิ้งงานไปไหน


Attention to detail ใส่ใจในทุกรายละเอียดอย่างเข้มข้น ตัวอย่างที่ทำให้เห็นภาพคือรถยนต์ Tesla Model X ที่เบาะที่นั่งด้านในและการตกแต่งเป็นสีขาวสว่างที่ไม่เหมือนใคร โดยเลือกสรรเฉพาะวัสดุชั้นยอด ที่แม้จะผ่านการใช้งาน การนั่งขับขี่กว่า 25,000 ไมล์ เบาะยังดูใหม่กิ๊ก ไม่มีร่องรอยว่าถูกใช้งานหนักแต่อย่างใด ซึ่งกว่ารถรุ่นนี้จะออกสู่ตลาดเขาและทีมงานประชุมเพื่อปรับเปลี่ยนภายในห้องโดยสารของรถรุ่นนี้กันนานหลายรอบ จนเป็นผลให้รถรุ่นนี้ออกสู่ตลาดช้ากว่ากำหนดปีครึ่ง เพราะต้องการให้รถออกมาสมบูรณ์แบบทั้งสมรถนะ และความสวยงาม รวมถึงความคงทนทั้งภายในและภายนอก

Thinking outside the Box คิดนอกกรอบเพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น แต่ก็ไม่หลุดโลกโดยยังคำนึงถึงทรัพยากรที่มีอยู่ว่าจะทำอย่างไรให้ทรัพยากรที่หามาได้สร้างความแปลกใหม่และสร้างความเปลี่ยนแปลงได้มากที่สุด

Obsessed with customer satisfaction เขารับฟังเสียงตอบรับทั้งแง่บวกและแง่ลบ ความพึงพอใจของลูกค้าอย่างสม่ำเสมอ รวมทั้งมุ่งมั่นสร้างผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพยอดเยี่ยม เคยมีเคสที่ลูกค้าบ่นในเรื่อง Supercharger ของรถยนต์ เขาสั่งปรับนโยบายของบริษัทและแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นภายใน 6 วัน และยังสร้างแอพพลิเคชั่นขึ้นมาใหม่เพื่อให้มีการแจ้งเตือนบริษัทเมื่อรถมีปัญหาเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาแบบเดิมซ้ำอีก การรับฟังความเห็นและรับฟังปัญหาของลูกค้าและแก้ไขทันที สร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า ซึ่งกลายเป็นอีกหนึ่งคีย์หลักที่ทำให้เขาประสบความสำเร็จในทุกธุรกิจที่เขาลงมือทำ

Courage and self-belief ความกล้าและความเชื่อมั่นในตัวเอง การประสบความสำเร็จในธุรกิจแรกๆ ที่เขาเริ่มด้วยตัวเองคือ Zip2 บริษัทสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มถึง 307 ล้านเหรียญดอลล่าสหรัฐจากการถูกซื้อ หลังจากนั้นอีลอนใช้เงินส่วนหนึ่งจากการขาย Zip2 มาก่อตั้งบริษัท X.com ซึ่งต่อมากลายเป็น PayPal ในปัจจุบัน ความสำเร็จเริ่มแรกดังกล่าวนอกจากทำให้เขามีเงินเพื่อสร้างธุรกิจใหม่ยังทำให้เขามีพลังและมีความเชื่อมั่นในตัวเองที่จะพัฒนาสิ่งใหม่ๆ ต่อไป “We’re going to make it happen. As God is my bloody witness, I’m hell-bent on making it work.” -Elon Musk

Courage to continue แม้กระทั่งช่วงเวลาที่เขาลำบากเขายังคงเดินหน้าสู้ต่อไป จากคำถามในรายการ Talk Show รายการหนึ่งมีคำถามหนึ่งถามอีลอนว่า “what was his biggest failure” อะไรคือความล้มเหลวที่ใหญ่ที่สุดที่เขาเคยเจอมา อีลอนตอบว่าหลังจากที่การ SpaceX หนึ่งในบริษัทของอีลอนซึ่งทำธุรกิจออกแบบและสร้างผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับอวกาศ เช่น จรวด ดาวเทียมและยานอวกาศ ล้มเหลวในการ launch ในระยะเริ่มแรกถึงสามครั้ง เขาและทีมงานประสบปัญหาอย่างหนักในการหาเงินทุนรวมทั้งทีมงานเพื่อที่จะทำการ launch ครั้งที่ 4 ซึ่งตัวเขาเองก็พยายามอย่างหนักในการหาเทคโนโลยีและความเชี่ยวชาญที่ถูกต้องสำหรับ SpaceX แต่ตอนนั้นเขาไม่สามารถหาวิศวกรที่เก่งพอมาร่วมทีมได้ เขามองว่ามันเป็นการเสียเวลาเปล่าถ้าจะต้องจ้างใครสักคนที่ไม่มีความสามารถพอมาร่วมทีม เขาจึงทำหน้าที่เป็นหัวหน้าทีมวิศวกรด้วยตัวเอง และการ launch SpaceX ก็ประสบความสำเร็จในที่สุด

การประสบความสำเร็จเป็นบุคคลระดับตำนานของโลกด้วยการเริ่มต้นจากศูนย์แล้วสร้างมันขึ้นมาด้วยสองมือของตัวเอง ช่างเป็นแรงบันดาลใจที่จุดประกายให้คนจำนวนมากฮึดและลุกขึ้นมาสู้เพื่อสานต่อความฝันและสร้างความสำเร็จของตัวเอง ทราบหรือไม่ว่าตอนนี้ในโลกมีอภิมหาเศรษฐีที่ร่ำรวยมีเงินเป็นหลักหลายพันล้านดอลล่าร์อยู่ประมาณ 2,600 คน และ 56% ของอภิมหาเศรษฐีเหล่านั้นไม่ได้มีต้นทุนชีวิตมาก่อนหรือเกิดมาจากครอบครัวที่ร่ำรวยอะไรเลย พวกเขาเหล่านั้นสร้างความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ขึ้นมาด้วยสองมือและหนึ่งมันสมองของพวกเขาเอง นั่นแปลว่าคนธรรมดาคนหนึ่งอย่างเราๆ ท่านๆ ที่ไม่ได้เกิดมาในชาติตระกูลที่สูงส่งหรือร่ำรวยเงินทองมาแต่เกิดก็สามารถประสบความสำเร็จในชีวิตได้เช่นกัน แต่ความสำเร็จนั้นจะใหญ่หรือเล็กก็ขึ้นอยู่กับเป้าหมาย ความต้องการ ความทะเยอทะยานและความมุ่งมั่นทุ่มเทที่ต่างกัน แต่ไม่ว่าความสำเร็จนั้นจะใหญ่หรือเล็ก ขอเพียงเรามีความสุขและภูมิใจกับมันนั่นก็เป็นสิ่งที่สุดยอดแล้ว มาเดินหน้าสร้างฝันให้เป็นจริงกัน


อ้างอิง
https://medium.com/the-growth-hack/what-makes-elon-musk-so-successful-in-everything-61d538954613#:~:text=Musk%20listened%20to%20his%20customers,for%20him%20in%20achieving%20success.