กล้าไม่กล้า? ใช้จุดแข็ง First Jobber มาดันให้งานรุ่ง

เด็กจบใหม่ไฟแรง หรือ First Jobber ที่เพิ่งสลัดชุดนักศึกษามาสู่โลกมนุษย์เงินเดือน แม้ความต่างวัยจะทำให้คนรุ่นใหญ่กว่าหวั่นใจในการรับมืออยู่บ้าง แต่หากรู้จักพลิกพลังล้นเหลือมาเป็นจุดแข็ง เชื่อไหมว่า งานของคุณอาจเกิดความสร้างสรรค์ใหม่ๆ ได้ไม่ยาก

1.     “สร้างโลกดิจิทัลรอบตัว” เพราะคนรุ่นนี้โตมากับเทคโนโลยีที่ช่วยพัฒนาชีวิต องค์กรควรจัดหนักกับระบบอินเทอร์เน็ตที่เร็วจี๊ดถึงใจ พร้อมระบบคลาวด์เพื่อเก็บข้อมูลมหาศาล เพื่อให้งานเดินหน้าแบบเรียลไทม์ได้ แม้จะอยู่ที่ไหนก็ตาม น้องๆ เด็กจบใหม่มักเป็นม้าเร็วที่ดีในการสืบหาข้อมูลเชิงลึกและกว้าง ใช้คนให้ถูกกับงาน แล้วพวกเขาจะปลื้มปริ่มที่ได้มีส่วนร่วมในความสำเร็จกับทีม

first-jobber-strength-01

2.  “เปิดพื้นที่กว้างให้ปล่อยแสง” เด็กจบใหม่ใจกล้า ชอบแสดงความคิดสร้างสรรค์และคิดว่าทุกอย่างบนโลกนี้ล้วนเป็นไปได้ องค์กรควรเปิดพื้นที่ให้พนักงานปล่อยไอเดียใหม่ๆ ได้ตลอดเวลา โดยอาจจะโยนโจทย์ใหม่ๆ ข้ามไปสายงานอื่นบ้าง เชื่อเถอะว่าสิ่งที่ได้กลับมาคือ ความกล้าคิดในมุมที่กว้างขึ้น และทำลายกำแพงออกจากพื้นที่ปลอดภัยในงานแบบเดิมๆ ที่คุ้นชิน

3.  “งานหนักไม่ว่า แต่งาน ‘ว่า’ ต้องมีเหตุผล” คนรุ่นนี้ชอบงานที่ท้าทายความสามารถ แถมมีความมั่นใจเป็นทุนเดิม รักการเรียนรู้และพัฒนาทุกทักษะ หากองค์กรต้องการได้ไอเดียสดใหม่ ลองสร้างโจทย์ให้พวกเขาแข่งขันกันเต็มที่ เมื่อทำดีก็ขอให้ชื่นชม แต่ถ้ายังไม่ดีหรือควรปรับเปลี่ยน ก็ต้องวิจารณ์ตรงไปตรงมา แต่อยู่บนเหตุและผลที่ชี้แจงได้ชัดทุกกระเบียดนิ้ว

4. “คุณค่าของงานไม่ได้อยู่ที่การตอกบัตร” คนรุ่นใหม่เชื่อว่างานจะดีได้ ไม่ต้องขลุกตัวในออฟฟิศเท่านั้น จะสิงอยู่ที่บ้านหรือเหาะไปร้านกาแฟ ก็ผลิตงานชั้นยอดได้ แถมไม่ต้องเสียอารมณ์และเวลาบนท้องถนน พวกเขาจะไม่ปลื้มการมาสายแล้วต้องหักเงินเดือน ลองให้ความยืดหยุ่นไปเลยว่าหนึ่งสัปดาห์ต้องเข้าออฟฟิศกี่วัน สำคัญสุดคือต้องรับผิดชอบหน้าที่งานตัวเองไม่บกพร่อง หากมีนัดลูกค้าหรือประชุดสำคัญ ต้องไม่หนีหาย


5.
“พร้อมเป็นมนุษย์หลายงาน” เด็กจบใหม่เชื่อว่าตัวเองรับผิดชอบงานหลายอย่างได้ในเวลาเดียวกัน เพื่อให้ลูกน้องเข้าถึงหัวหน้าได้ง่ายขึ้น ควรเปลี่ยนโครงสร้างองค์กร หรือหาวิธีที่ให้พนักงานมีโอกาสสบตาพบปะผู้บริหารได้ง่ายขึ้น เพื่อกล้าเสนอไอเดียใหม่ๆ รวมถึงให้อิสระเรื่องอาชีพอื่นบนโลกส่วนตัว ตราบใดที่ไม่กระทบกับงานหลัก เพราะบางคนอาจขายของออนไลน์ หรือเป็นบล็อกเกอร์ไปด้วย

6. “บรรยากาศต้องได้ใจ” คนหนุ่มสาวมักเลือกทำงานที่ให้ความสุขมากกว่าชื่อเสียงขององค์กร เพราะเขาเชื่อว่าหากทุ่มเทและพัฒนาความสามารถแล้ว จะบินไปเติบโตที่ไหนก็ได้ ลองปรับพื้นที่ทำงานให้โดนใจ เช่น มีโซนที่ให้แอบมางีบ มีเกมให้เล่น มีพื้นที่ให้ยืดเส้นเล่นกีฬากับเพื่อนเบาๆ หรือทำห้องประชุมในบรรยากาศเหมือนมาปาร์ตี้ เพราะการผ่อนคลายทำให้ระดมความคิดได้สนุก และผุดไอเดียแจ่มได้มากกว่า


7. “ผลตอบแทนต้องถึงใจ”
คนรุ่นจบใหม่ให้ความสำคัญเรื่องผลตอบแทนหรือสวัสดิการ ถ้าไม่ได้ตามที่ทุ่มเทไป ก็ไม่ลังเลในการหันไปซบอกองค์กรที่เห็นคุณค่าจริงๆ ภาพการปลี่ยนงานบ่อย ทำให้หลายคนมองว่าเพราะเหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ แต่แท้จริงแล้ว พวกเขาจะไม่ฝืนทนกับผลงานที่ไม่ได้วัดกันที่ความสามารถต่างหาก


หากนำจุดแข็งของคนจบใหม่มาปรับใช้ในองค์กร น่าจะช่วยเสริมสร้างพลังสดใสใหม่กริบให้กับแผนงานเดิมที่เคยวนกับที่ จนวันหนึ่งอาจจะเป็นองค์กรที่ใครๆ ก็อยากมาร่วมด้วยก็เป็นได้