Gen Y หนี้เยอะกว่าทุก Generation จริงหรือ?

ปัจจุบันเรากำลังก้าวเข้าสู่สังคมของคน “Gen Y” อย่างเต็มรูปแบบ โดยผู้บริโภคกลุ่มนี้จะเกิดระหว่างปีค.ศ. 1981 ถึง 2000 มีสัดส่วนคิดเป็น 32% หรือประมาณ 1 ใน 3 ของประชากรโลก ซึ่งถือเป็นกลุ่มใหญ่ที่สุด

สำหรับสถิติของประเทศไทยจาก กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ณ สิ้นปี 2559 นั้นพบว่ากลุ่มคน GenY มีสัดส่วนที่มากพอๆ กับ Gen X  โดย Gen Y มีสัดส่วนคิดเป็น 28% ของประชากรไทย ส่วน Gen X มีสัดส่วนคิดเป็น 27% รองลงมาคือ Baby Bloomer 18%, Gen Z 21% และ Silent Generation 6%

คนกลุ่ม Gen Y นี้เติบโตขึ้นมาท่ามกลางความเจริญของเทคโนโลยี  จึงมีความคล่องตัวด้านเทคโนโลยี มีความมั่นใจในตัวเองและมีอิสระทางความคิดสูง อีกทั้งยังเป็นยุคที่เศรษฐกิจเติบโตเป็นอย่างมาก ทำให้คนวัยทำงานในกลุ่ม Gen Y มีรายได้ค่อนข้างสูง แม้จะยังอยู่ในวัยหนุ่มสาว

ในขณะเดียวกัน คนกลุ่มนี้ยังเป็นกลุ่มที่มีอัตราการใช้จ่ายสูง เมื่อเทียบกับรายได้ หรืออีกนัยหนึ่งก็คือเป็นกลุ่มที่มักจะใช้จ่ายเกินตัว นั่นเป็นเพราะคนกลุ่มนี้ค่อนข้างมีความรู้ทางการเงิน จึงไม่มีความกลัวที่จะก่อหนี้ ซึ่งสวนทางกับแนวคิดของคนกลุ่มนี้ที่ต้องการความมั่งคั่งและการมีอิสรภาพทางการเงิน

จากสถิติของสถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล ที่ทำการสำรวจความสุขของคนทำงานในปี 2558 พบว่า 50% ของคนทำงานกลุ่ม Gen Y ไม่มีเงินออม 48% ผ่อนชำระหนี้สินไม่ตรงเวลา 45% มีรายจ่ายมากกว่ารายรับ และ 45.6% มีความรู้สึกว่าการผ่อนชำระหนี้สินเป็นเรื่องที่สร้างภาระหนักมากให้แก่ตนเอง

มีอีกสถิติหนึ่งที่น่าสนใจ คือ  ข้อมูลของทางธนาคารแห่งประเทศไทย พบว่า  คนไทยก่อหนี้ในระดับสูงตั้งแต่อายุยังน้อย แถมยังเป็นหนี้เสียจำนวนไม่น้อย และหนี้ดังกล่าวไม่ได้ลดลงเมื่อใกล้วัยเกษียณ โดยหนี้ส่วนใหญ่ของคนที่ช่วงอายุน้อยส่วนมากเป็นหนี้บัตรเครดิต และสินเชื่อส่วนบุคคล ซึ่งความเสี่ยงที่ผิดนัดชำระส่วนมากจะอยู่ที่สินเชื่อส่วนบุคคลนั่นเอง


คราวนี้ เรามาดูกันว่า กลุ่มคนวัยไหนที่มีหนี้มากกว่ากัน


การขอสินเชื่อประเภทบุคคลไตรมาส 1/2560

บัตรเครดิต สินเชื่อส่วนบุคคล สินเชื่อบ้าน สินเชื่อรถยนต์
Gen Y 56% Gey Y 41% Gen Y 49% Gen Y 46%
Gen X 33% Gen X 38% Gen X 39% Gen X 40%
Baby Bloomer 11% Baby Bloomer
21% Baby Bloomer 12% Baby Bloomer 14%

จะเห็นว่าตัวเลขการขอสินเชื่อใหม่ประเภทบุคคล ณ สิ้นไตรมาสแรกของปี 2560 กลุ่มคนที่เป็นหนี้ส่วนใหญ่ก็คือกลุ่มคน Gen Y โดยมีสัดส่วนการเป็นหนี้บัตรเครดิต 56% ,สินเชื่อส่วนบุคคล 41%, สินเชื่อบ้าน 49% และสินเชื่อรถยนต์ 46% จากจำนวนสินเชื่อใหม่ทั้งหมด

ที่ผ่านมาหลายๆ หน่วยงานได้เร่งเข้ามาแก้ปัญหาการเป็นหนี้ ไม่ว่าจะเป็นการตั้ง คลินิกแก้หนี้ และ โครงการเทรนหนี้ นั่นก็เพราะคนเป็นหนี้ส่วนใหญ่อายุยังน้อยและอยู่ในวัยทำงาน หากไม่มีการวางแผนทางการเงินที่ดี อาจจะส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตในอนาคตได้

ดังนั้น หากต้องการจะใช้ชีวิตอย่างมีความสุขทั้งในปัจจุบันและอนาคต เริ่มฝึกวินัยในการจัดการเงินตั้งแต่วันนี้ ไม่ก่อหนี้ที่ไม่จำเป็น หรือหากมีหนี้เกิดขึ้นแล้ว ควรรีบเคลียร์หนี้ก่อนเป็นอันดับแรกตั้งแต่วันเงินเดือนออก และต้องรู้จักแบ่งเงินมาเก็บออมไว้ด้วยส่วนหนึ่งเสมอ จะเป็นการออมเงินแบบไหน หรือออมจำนวนเท่าไหร่ก็ได้ทั้งสิ้น ขอเพียงแค่ทำให้ได้อย่างสม่ำเสมอเป็นประจำทุกๆ เดือน เพียงเท่านี้ อิสรภาพทางการเงินก็อยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม