3 สไตล์การลงทุนเพื่อแผนการเกษียณ

หลังจากได้เตรียมวางแผนการเงินเพื่อเกษียณ เช่น กำหนดอายุเกษียณและคาดการณ์อายุขัย ตรวจสอบเงินออมจากแหล่งต่างๆ คำนวณเงินออมที่ยังขาด ประเมินค่าใช้จ่ายในยามเกษียณ ก็ถึงขั้นตอนการวางแผนการลงทุน ซึ่งนอกจากจะดูเรื่องจำนวนเงินแล้วยังต้องดูสไตล์การลงทุนของตัวเองด้วยว่าเหมาะกับผลิตภัณฑ์ทางเงินแบบไหน เพราะสินทรัพย์เพื่อการลงทุนแต่ละประเภทจะมีความเหมาะกับคนแต่ละคนไม่เหมือนกัน


1.สไตล์ค่อยเป็นค่อยไป

หากเป็นผู้ที่มีสไตล์การลงทุนแบบง่ายๆ และเพิ่งเริ่มต้นทำงานควรเน้นวางแผนเกษียณผ่านกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ เพราะเป็นแหล่งสร้างเงินออมที่ดีของมนุษย์เงินเดือน สามารถเก็บออมได้อย่างสม่ำเสมอทุกเดือน และยังมีนายจ้างช่วยสมทบเงินให้อีกแรงด้วย


ข้อดีของกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ เป็นกองทุนที่ส่งเสริมให้ลงทุนระยะยาวเพื่อการเกษียณ ดังนั้น หากคอยติดตามผลการดำเนินงาน ข้อมูลข่าวสารและประเมินสถานการณ์อย่างสม่ำเสมอ ทำให้ผลการดำเนินงานเติบโตอย่างต่อเนื่อง และถึงแม้สถานการณ์การลงทุนเกิดเปลี่ยนแปลงและผันผวนจนต้องปรับพอร์ตการลงทุนในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ก็ทำได้ไม่ยากเพราะมีระบบลูกจ้างเลือกลงทุน เรียกว่า Employee’s Choice ที่อำนวยความสะดวกให้เลือกนโยบายการลงทุนที่เหมาะสมกับตัวเองตามระดับความเสี่ยงที่รับได้ ที่สำคัญหลังจากเกษียณไปแล้วก็สามารถคงเงินในกองทุนเอาไว้และทยอยรับเงินเป็นงวดๆ ได้ หรือสามารถโอนย้ายไปยังกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) ได้


ข้อเสีย กองทุนสำรองเลี้ยงชีพมีเงื่อนไขเยอะพอสมควรและเงื่อนไขบางประการก็ขึ้นอยู่กับบริษัทแต่ละแห่งด้วย เช่น สามารถปรับพอร์ตลงทุนได้ 2 ครั้งต่อปี หรือหากต้องการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขบางอย่างก็มีค่าธรรมเนียมและค่าบริการ เป็นต้น


นอกจากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพแล้ว กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) ก็เหมาะกับผู้ที่มีสไตล์การลงทุนง่ายๆ เพราะเป็นกองทุนสนับสนุนให้ออมเงินเพื่อการเกษียณ โดยให้สิทธิในการนำมาลดหย่อนภาษีเงินได้ แลกกับการลงทุนให้ได้ตามเงื่อนไข


ข้อดี ถ้ามีรายได้และต้องเสียภาษี ควรเริ่มต้นการลงทุนกับกองทุน RMF เพราะนอกจากมีโอกาสสร้างผลตอบแทนในระยะยาวแล้ว ยังได้ประโยชน์ทางภาษีตามฐานภาษี เช่น มีรายได้ที่ต้องเสียภาษีฐาน 15% เมื่อลงทุนกองทุน RMF จำนวน 10,000 บาท จะได้รับเงินคืนภาษีประมาณ 1,500 บาท อีกทั้งมีนโยบายการลงทุนให้เลือกลงทุนหลากหลาย


ข้อเสีย กองทุน RMF เป็นการลงทุนที่มีกำหนดเวลาจึงไม่สามารถไถ่ถอนได้ก่อนกำหนด แต่ถ้าทำผิดเงื่อนไข ต้องคืนเงินภาษีที่ลดหย่อนไปและค่าปรับให้กรมสรรพากร ดังนั้น ต้องศึกษารายละเอียดข้อมูลก่อนตัดสินใจลงทุน

2.สไตล์กล้าได้กล้าเสีย

มีคำถามว่าแผนการลงทุนเพื่อวัยเกษียณไม่สามารถลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงได้ เพราะหากเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดอาจทำให้ผลตอบแทนขาดทุน ซึ่งในความเป็นจริงแล้วแผนการลงทุนเพื่อวัยเกษียณสามารถลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงๆ ได้


อย่างไรก็ตาม หากรับความเสี่ยงได้สูงก็ไม่ได้แปลว่าสามารถลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงสูงได้ทั้งหมด จึงต้องพิจารณาถึงการกระจายความเสี่ยงและสัดส่วนการลงทุนให้เหมาะสม เช่น หากสนใจลงทุนหุ้น อาจเน้นลงทุนในหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่ง จ่ายเงินปันผลสม่ำเสมอ รวมถึงการลงทุนในกองทุนรวมหุ้นในประเทศและกองทุนรวมที่ไปลงทุนหุ้นต่างประเทศ เช่นเดียวกันอาจแบ่งเงินไปซื้อทองคำแท่งและกองทุนรวมทองคำ


ข้อดี การลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง มีโอกาสได้รับผลตอบแทนสูงและหากขายทำกำไรก็ได้รับการยกเว้นภาษี อีกทั้ง สินทรัพย์การลงทุน เช่น หุ้น ทองคำ มีให้เลือกลงทุนมากมายและมีสภาพคล่องสูง


ข้อเสีย การลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงย่อมมีโอกาสขาดทุนสูงตามไปด้วย หากไม่ติดตามข้อมูลข่าวสารอาจทำให้พอร์ตลงทุนเสียหาย ขณะเดียวกันหากได้รับเงินปันผลก็ต้องเสียภาษี 10% หัก ณ  ที่จ่าย

3.สไตล์ Passive Income

การลงทุน Passive Income หมายถึงการลงทุนเพื่อสร้างรายได้อย่างต่อเนื่อง เช่น รายเดือน รายไตรมาส หรือรายปี โดยรายได้ดังกล่าวจึงมาในรูปแบบเงินปันผลและดอกเบี้ย ดังนั้น หากผู้ที่มีสไตล์การลงทุน Passive Income ต้องเน้นลงทุนในสินทรัพย์ที่สร้างเงินปันผลและดอกเบี้ยสม่ำเสมอ


หากสนใจหุ้นก็เน้นหุ้นที่จ่ายเงินปันผลสม่ำเสมอ หากสนใจกองทุนรวมก็เน้นลงทุนในกองทุนรวมที่มีนโยบายจ่ายเงินปันผล หรือกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REITs) รวมถึงกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน


สำหรับการลงทุน Passive Income ที่ได้รับผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ย ได้แก่ เงินฝากธนาคาร  พันธบัตรรัฐบาล หรือหุ้นกู้ภาคเอกชน


ข้อดี มีรายได้เข้ามาอย่างต่อเนื่อง เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการรายได้เป็นรายงวดเพื่อนำมาเป็นค่าใช้จ่าย


ข้อเสีย ต้องใช้เวลาในการสร้างรายได้อย่างมั่นคงในรูปแบบ Passive Income ขณะเดียวกันหากต้องการมีรายได้เพิ่มสูงขึ้นก็ต้องใช้เงินลงทุนเพิ่มขึ้นตามไปด้วย อีกทั้งหากเป็นช่วงตลาดขาลง สินทรัพย์เพื่อการลงทุนอาจไม่สามารถสร้างรายได้แบบ Passive Income ได้


ไม่ว่าจะมีสไตล์การลงทุนแบบไหน สิ่งที่เหมือนกัน คือ การเริ่มต้นเป็นขั้นตอน เช่น การสำรวจตัวเอง ระดับความเสี่ยง เป้าหมายที่วางเอาไว้ รวมถึงวิธีการบริหารเงินให้เงินงอกเงยอย่างต่อเนื่อง อีกทั้ง สินทรัพย์เพื่อการลงทุนแต่ละประเภทจะเหมาะกับแต่ละคน ถ้าเลือกให้เหมาะกับสไตล์การลงทุนของตัวเอง ย่อมสร้างผลตอบแทนในระดับที่น่าประทับใจและบรรลุเป้าหมายทางการเงินที่วางเอาไว้ได้ไม่ยาก