จับ 5 เทรนด์ใหม่สร้างสุขภาพกาย-ใจให้ชาวสว.

ด้วยเทคโนโลยีการแพทย์ที่ก้าวหน้า ทำให้ผู้คนมีอายุยืนขึ้น และส่งผลให้ภาพรวมสังคมของหลายประเทศในวันนี้ ก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ที่เราคุ้นหูว่า Aging Society ซึ่งหมายถึงประชากรส่วนใหญ่เป็นคนสูงวัย หรือเรียกสั้นๆ ว่าชาวสว. ซึ่งมีรูปแบบการดำเนินชีวิตและความต้องการแตกต่างจากคนวัยหนุ่มสาว การมีสิ่งอำนวยความสะดวกให้ชาวสว. ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขทั้งในด้านสุขภาพกาย สุขภาพใจจึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรจะมองข้าม ลองมาดูไอเดียใหม่ในต่างประเทศที่น่าสนใจอาจนำมาปรับใช้เพื่อดูแลผู้สูงอายุในบ้านเรา

สตาร์ทอัพสาย Health Tech

เมื่อการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ มาพร้อมกับโลกดิจิทัลอย่างพอดิบพอดี จึงเป็นผลให้สตาร์ทอัพ หมวดสุขภาพ หรือที่เรียกกันว่า Health Tech กลายเป็นธุรกิจดาวรุ่งพุ่งแรงไปทั่วโลก โดยเห็นได้จากยอดเงินระดมทุนสตาร์ทอัพในหมวดนี้ที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก ซึ่งความสำเร็จของโมเดลธุรกิจ Health Tech มาจากปัจจัยประชากรสูงอายุจำนวนมากที่ต้องการมีสุขภาพที่ดี รวมไปถึงการเข้าถึงข้อมูลทางการแพทย์ที่ทำได้ง่ายขึ้น ส่งผลให้ความต้องการในเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่มาตอบโจทย์ความต้องการนี้ อย่างวิดีโอที่สามารถแชทกับหมอโดยไม่ต้องไปโรงพยาบาล Gadget ที่สวมติดตัวไว้คอยมอนิเตอร์ดูสภาพร่างกาย ฯลฯ สูงขึ้นทั้งในแง่ปริมาณและคุณภาพ


มาดูตัวอย่างสตาร์ทอัพสายสุขภาพที่ประสบความสำเร็จในต่างประเทศ เช่น เว็บไซต์ Healthline ศูนย์รวมบทความเกี่ยวกับสุขภาพที่มีคนอ่านหลายล้านต่อเดือน ที่กลายเป็นทางออกมาเติมเต็มช่องโหว่ระบบสาธารณสุขของสหรัฐ โดยให้ข้อมูลความรู้ที่เป็นประโยชน์ในเรื่องสุขภาพผ่านหน้าตาเว็บไซต์ที่เป็นมิตรกับผู้อ่าน รวมไปถึงการวิเคราะห์โรคด้วยตัวเอง และคำแนะนำการใช้ยา


นอกจากนี้ยังมี Health Tech อื่นๆ ที่น่าสนใจ  เช่น การร่วมมือกันระหว่าง Founder ของสตาร์ทอัพ ที่มีความรู้เรื่องธุรกิจกับบุคคลที่รู้เรื่องสุขภาพมากที่สุดซึ่งก็คือ “หมอ” นั่นเอง จากข้อมูลของบริษัทระดมทุนให้สตาร์ทอัพสายสุขภาพ FundRx และ AngelMD มีสตาร์ทอัพที่มีบริการน่าสนใจ เช่น Swift Shift แพล็ตฟอร์มค้นหาจองตัวพยาบาลสำหรับธุรกิจดูแลผู้ป่วยที่บ้าน (Home Health Care) เป็นต้น

Intergeneration Carehome

บ้านพักคนชรา สถานดูแลผู้สูงอายุ เนิร์สซิ่งโฮม เป็นสิ่งที่พบเห็นทั่วไปในสังคมผู้สูงอายุ แต่สิ่งทำให้สถานที่เหล่านี้มีความพิเศษสร้างชีวิตชีวาให้กับชาวสว. คือแนวคิด “Intergeneration Carehome” ที่เป็นการนำ “บ้านพักคนชรา” และ “เนอสเซอรี่เด็กเล็ก” มาอยู่ในพื้นที่เดียวกัน ซึ่งมีในญี่ปุ่นมานานแล้ว และกำลังเป็นที่นิยมในอเมริกา อังกฤษ และออสเตรเลีย


ที่ Intergeneration Carehome ผู้สูงอายุ และเด็กในเนอสเซอรี่ จะได้ทำกิจกรรมหลายๆ อย่างด้วยกัน เช่น ร้องเพลง ออกกำลังกายประกอบดนตรี ทำงานศิลปะง่ายๆ เช่นตัดกระดาษ ปั้นแป้งโดว์ อ่านหนังสือ ฯลฯ ที่ช่วยบริหารประสาทสัมผัสในผู้สูงวัย คนสูงอายุจะลืมนึกถึงขีดจำกัดด้านร่างกายของตัวเอง และสนุกสนานกับกิจกรรมอย่างเต็มที่ และความสดใสร่าเริงของเด็กวัยไร้เดียงสาได้เปลี่ยนบรรยากาศในเนิร์สซิ่งให้เต็มไปด้วยชีวิตชีวา รอยยิ้ม เสียงหัวเราะ และการพูดคุย ซึ่งมีผลศึกษามากมายแสดงว่าการมีปฏิสัมพันธ์ทางสังคมไม่เพียงแต่ลดความรู้สึกสิ้นหวัง โดดเดี่ยวที่เกิดขึ้นทั่วไปในชาวสว. แต่ยังช่วยชะลอไม่ให้สติสัมปชัญญะถดถอย ลดความดันโลหิต หรือแม้แต่ลดความเสี่ยงการเกิดโรคต่างๆ


ในส่วนของเด็กๆ ซึ่งส่วนใหญ่อยู่อาศัยกับพ่อแม่เป็นครอบครัวเดี่ยว ก็มีโอกาสได้สัมผัสกับคนสูงอายุที่เอ็นดูพวกเขาเหมือนเป็นลูกหลาน เด็กๆ ได้ฟังเรื่องราวเก่าๆ ที่มีคุณค่าจากผู้สูงวัย และเด็กเหล่านี้ก็มีความรับผิดชอบมากขึ้น ระมัดระวังไม่เล่นซนเวลาอยู่กับชาวสว. และยังรู้จักเห็นอกเห็นใจห่วงใยสุขภาพของพวกเขาด้วย

Senior-friendly Gym

การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอจะช่วยรักษาสุขภาพกายให้แข็งแรง สุขภาพจิตให้แจ่มใส ในกรณีที่สถานที่จำกัด ฟิตเนสก็เป็นทางเลือกหนึ่ง แต่คนสูงอายุส่วนใหญ่ก็ไม่ชินกับการไปฟิตเนส และไม่กล้าที่จะลอง ด้วยว่าอึดอัดกับบรรยากาศที่คนส่วนใหญ่เป็นวัยรุ่นหนุ่มสาว จะทำเมมเบอร์ก็กลัวเล่นได้ไม่คุ้ม โปรแกรมคลาสออกกำลังกายก็หนักเกินไป เพราะออกแบบให้คนหนุ่มสาวเป็นหลัก


ด้วยประเด็นต่างๆ เหล่านี้ รัฐบาลสิงคโปร์จึงมีโครงการเปิด Senior- friendly Gym ในคอมมูนิตี้เซ็นเตอร์ที่ตั้งอยู่ในชุมชนเคหะของรัฐบาล 5 แห่งภายในปี 2019 เพื่อสนับสนุนให้ชาวสว.สิงคโปร์ได้ออกกำลังกายรักษาสุขภาพ โดยฟิตเนสแห่งนี้ จะมีโปรแกรมคลาสออกกำลังกายอย่างแอโรบิก ไทเก็กและเต้นรำ ที่ออกแบบมากสำหรับผู้สูงอายุ ครูผู้ฝึกสอนที่เข้าใจธรรมชาติของชาวสว. รวมถึงเครื่องออกกำลังกายที่จะสามารถบันทึกและติดตามข้อมูลการออกกำลังกายของแต่ละคนผ่านบัตรเมมเบอร์การ์ด โดยชาวสว.ใช้บัตรสแกนที่เครื่องก่อนเริ่มเล่น เพื่อเก็บข้อมูลออกกำลังกาย ซึ่งเทคโนโลยีนี้จะช่วยตรวจสอบดูแลสุขภาพของสว.แต่ละคนอย่างใกล้ชิด


อย่างไรก็ดี คนทุกเพศทุกวัยก็สามารถเข้าใช้บริการ Senior- friendly Gym ได้โดยมีค่าใช้บริการครั้งละ 2.5 ดอลลาร์สิงคโปร์ (ประมาณ 56 บาท) แต่สำหรับผู้สูงอายุ 55 ปีขึ้นไป ยิ่งราคาดีเพราะเก็บค่าเข้าเพียง 1.5 ดอลลาร์สิงคโปร์ (34 บาท) เปิดให้ใช้บริการฟรีทุกวันพุธ

Grand Generation Mall

สำหรับประเทศญี่ปุ่นที่หนึ่งในสามของประชากรมีอายุมากกว่า 65 ปี ผู้ประกอบธุรกิจเอกชนอย่าง Aeon Retail ก็ให้ความสำคัญกับลูกค้ากลุ่มนี้ โดยจัดให้พื้นที่ชั้น 4 ทั้งชั้นของห้าง Aeon Kasai เป็นโซนจัดจำหน่ายสินค้าสำหรับชาวสว.โดยเฉพาะ ซึ่งนอกจากตัวสินค้าแล้ว โซนชั้น 4 ที่เรียกว่า GG Mall ย่อมาจาก Grand Generation Mall ก็มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่รู้ใจชาวสว.เป็นอย่างดี เช่น เวลาเปิดทำการก็จะเปิดตั้งแต่ 7 โมงเช้าให้ชาวสว.ที่ส่วนใหญ่จะตื่นเช้ามาใช้บริการ มีโปรโมชั่นสินค้าราคา sale ตอน 9 โมงเช้าเพื่อดึงลูกค้าเข้าร้าน มีลู่เดินออกกำลัง 180 เมตรไปตามโซนสินค้าให้ชาวสว.เดินออกกำลังได้อย่างปลอดภัยในทุกสภาพอากาศ แล้วยังมีเครื่องช่วยชีวิต AED ติดตั้งไว้กรณีฉุกเฉิน และยังมีบริการฟิตเนสส่วนตัวให้ชาวสว. ซึ่งฟิตเนสนี้ไม่มีลู่วิ่ง แต่จะเน้นเครื่องยืดกล้ามเนื้อสร้างความแข็งแรงให้ผู้อายุมากกว่า บริการส่วนนี้ไม่คิดค่าบริการ อีกทั้งยังมี Rehabitation Center ห้องจัดกิจกรรมการแสดง เวิร์คช้อปให้ชาวสว. ซึ่งก็กลายเป็นสถานที่นัดพบยอดนิยมของคนกลุ่มนี้ ความพิเศษยังรวมไปถึงแผนกซูเปอร์มาร์เก็ตที่ตะกร้าใส่ของจะมีน้ำหนักเบากว่าตะกร้าทั่วไป 30% ให้ผู้สูงอายุถือได้สะดวก อาหารที่ขายหลายๆ อย่างจะเป็นอาหารไขมัน-โซเดียมต่ำ และขนาดบรรจุเหมาะสำหรับทานคนเดียวหรือสองคนตายาย


การมาถึงของสังคมผู้สูงอายุในอีกไม่นานเกินรอ กระตุกต่อมให้เราคิดถึงความพร้อมในวันแห่งการพักผ่อนหลังเกษียณอายุ มาเตรียมความพร้อมทางการเงินในวันข้างหน้ากับ SCB ดูรายละเอียดเพิ่มเติม คลิก

Tele-consultation หรือ บริการปรึกษาแพทย์ออนไลน์

เป็นการนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ในงานบริการทางการแพทย์ ผ่านระบบอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง   โดยส่งข้อมูลทางการแพทย์ที่จำเป็นทั้งอักษร ภาพ และเสียงให้แพทย์สามารถให้คำปรึกษาทางการแพทย์จากทางไกลได้ สามารถขอรับคำปรึกษาด้านสุขภาพจากแพทย์ผ่าน  Video Call  ช่วยให้ผู้ป่วยสามารถพูดคุยโต้ตอบกับแพทย์ได้สะดวกขึ้น ลดข้อจำกัดในเรื่องเวลา  ระยะทาง หรือสถานที่


ถือว่าเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยให้ผู้สูงวัยไม่ต้องเสียเวลากับการนั่งรอในโรงพยาบาล โดยเฉพาะผู้สูงวัยที่ไม่สะดวกเดินทางไปโรงพยาบาล ก็สามารถปรึกษาแพทย์เบื้องต้นเพื่อขอคำแนะนำได้ผ่านทางออนไลน์ได้และเพิ่มประสิทธิภาพในการติดตามการรักษาสำหรับกลุ่มผู้สูงวัยที่ป่วยโรคเรื้อรังต่าง ๆ


สำหรับบริการปรึกษาแพทย์ออนไลน์ในประเทศไทยถือว่ากำลังเติบโตและมีผู้ให้บริการเพิ่มมากขึ้นไม่ว่าจะเป็นเครือโรงพยาบาลขนาดใหญ่ชั้นนำ หรือแอปพลิเคชั่นอื่นๆ เพื่อให้บริการรักษาทางไกล ทั้งนี้ธนาคารไทยพาณิชย์ได้ร่วมมือกับ partner ในการนำเสนอบริการปรึกษาแพทย์ออนไลน์ โดยสามารถดาวน์โหลดผ่าน SCB  Easy  App จากเมนู ”มาตรการช่วยเหลือโควิด-19” แล้วเลือกเมนู “บริการปรึกษาแพทย์ออนไลน์”   สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ -ที่นี่-

ขอบคุณข้อมูลจาก

Sansiri Blog

https://www.ageukmobility.co.uk/

https://www.channelnewsasia.com

https://www.straitstimes.com