ความสุขอยู่ "น่าน" ไง

ใครหลงใหลวัฒนธรรมอันเก่าแก่ วัดวาอาราม วิถีชีวิตเรียบง่าย ธรรมชาติ ตำนานแห่งขุนเขา เมืองเก่าที่มีชีวิต ความโรแมนติกอันล้นเหลือ รับรองต้องตกหลุมรักน่านอย่างแน่นอน เมืองที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ให้เราไปเที่ยวได้ทุกฤดูกาล ความสวยงามในแต่ละฤดูมีให้ค้นหาแตกต่างกันไป แม้เมืองน่านจะเป็นเมืองรองแต่เวลานี้เนื้อหอมมากๆ ติดอันดับท๊อปชาร์จเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวทั่วสารทิศทั้งในประเทศและต่างประเทศ


ขอสักครั้งหนึ่ง...ต้องไปให้ถึงน่านนคร

วัดภูมินทร์

มาเมืองน่านทั้งทีต้องเข้าไปกราบสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในวัดภูมินทร์เป็นอย่างยิ่ง วัดภูมินทร์เป็นวัดเก่าแก่แห่งหนึ่งของจังหวัดนี้ สร้างขึ้นเมื่อประมาณ พ.ศ.๒๑๓๙ โดยพระเจ้าเจตบุตรพรหมมินทร์ เจ้าผู้ครองเมืองน่าน ซึ่งสร้างขึ้นหลังจากครองนครน่านได้ ๖ ปี แต่เดิมวัดนี้จึงมีชื่อว่า พรหมมินทร์ แต่ตอนหลังเพี้ยนมาเป็น ภูมินทร์ ตามที่รู้จักกันดีในปัจจุบัน การก่อสร้างจะเป็นสถาปัตยกรรมแบบล้านนาที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวสวยแปลกกว่าวัดอื่นๆ ในประเทศไทย กล่าวคือเป็นอาคารทรงจตุรมุข คือ โบสถ์ วิหาร และเจดีย์สร้างเป็นอาคารหลังเดียวกันในลักษณะการจำลองแผนภูมิจักรวาลตามความเชื่อแห่งพุทธศาสนา มีพญานาคสะดุ้งขนาดใหญ่สองตัวแห่แหนพระอุโบสถเทินไว้กลางลำตัวที่เปรียบเสมือนการอุ้มชูพระพุทธศาสนาให้คงอยู่สืบไป ประตูไม้ทั้งสี่ทิศแกะสลักลวดลายโดยช่างฝีมือชาวล้านนา


ภายในมีพระประธานจตุรทิศปางมารวิชัย 4 องค์ หันหน้าออกสู่ประตูทั้ง 4 ทิศประดิษฐานอยู่ โดยรอบจะเป็นภาพจิตรกรรมฝาผนังสีฝุ่นเล่าเรื่องชาดก วิถีชีวิต ตำนาน และวัฒนธรรมของยุคสมัยที่ผ่านมาตามพงศาวดารของเมืองน่าน มีภาพที่น่าสนใจอยู่หลายภาพทีเดียวโดยเฉพาะภาพที่งามลือเลื่องซึ่งใครไปเยือนต้องขอถ่ายภาพเป็นที่ระลึกด้วย คือ ภาพปู่ม่านย่าม่าน หรือ ภาพกระซิบบันลือโลก ซึ่งเป็นภาพของผู้หญิงผู้ชายไทลื้อกระซิบสนทนากัน นอกจากนั้น ยังมีสถูปเจดีย์พระมาลัยโปรดโลก ภายในเป็นรูปปั้นจำลองนรกให้เห็นว่าถ้าทำบาปกรรมจะได้รับผลเช่นไรเพื่อคอยเตือนสติทุกคนไว้ด้วย


ที่ตั้ง ตำบลในเวียง อำเภอเมือง จังหวัดน่าน

วัดมิ่งเมือง

วัดมิ่งเมืองเป็นสถานที่ประดิษฐานเสาหลักเมืองของจังหวัดน่าน ซึ่งแต่เดิมเป็นวัดไทยใหญ่ และได้กลายเป็นวัดร้าง ต่อมาเจ้าอนันตวรฤทธิเดช เจ้าผู้ครองนครน่านได้สถาปนาวัดนี้ขึ้นมาใหม่ โดยตั้งชื่อว่า วัดมิ่งเมือง ตามชื่อเรียกเสาหลักเมืองว่า เสามิ่งเมือง แต่เดิมลักษณะสถาปัตยกรรมจะเป็นแบบล้านนา ต่อมาภายหลังได้มีการบูรณะปรับปรุงซ่อมแซมเปลี่ยนแปลงรูปแบบกลายมาเป็นสถาปัตยกรรมที่ผสมผสานระหว่างแนวความคิดสมัยเก่าและสมัยใหม่


ลักษณะเด่นจะอยู่ที่พระอุโบสถ ซึ่งเป็นลายปูนปั้นสีขาวเต็มผนังด้านนอกของพระอุโบสถสวยงามวิจิตรบรรจงมาก เป็นฝีมือตระกูลช่างเชียงแสน ซึ่งใช้เวลาปั้นถึง 5 ปีกว่าจะแล้วเสร็จ ส่วนภายในประดิษฐานพระพุทธรูปลงรักปิดทองทั้งองค์มีอายุกว่า 400 กว่าปีมีนามว่า หลวงพ่อพระศรีมิ่งเมือง อันมีพุทธลักษณะที่งดงามตามพุทธศิลป์แบบเชียงแสนสิงห์ 1 นอกจากนั้น ยังมีภาพจิตรกรรมฝาผนังซึ่งแสดงให้เห็นถึงเรื่องราวทางประวัติศาสตร์และวิถีชีวิตของคนเมืองน่านเป็นฝีมือการวาดของจิตรกรพื้นเมืองน่านยุคปัจจุบัน นับเป็นผลงานที่สร้างความภาคภูมิใจให้กับชาวน่านยิ่งนัก และนักท่องเที่ยวก็มักชอบมาสักการะเสาพระหลักเมืองประจำเมืองน่านนี้เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิตตนเองกันอยู่เสมอๆ


ที่ตั้ง ตำบลในเวียง อำเภอเมือง จังหวัดน่าน

วัดพระธาตุเขาน้อย

วัดพระธาตุเขาน้อยเป็นวัดที่ตั้งอยู่บนยอดเขาน้อย วัดนี้มีปูชนียสถานที่สำคัญและเก่าแก่คือองค์พระธาตุเขาน้อยสร้างโดยมเหสีรองของพญาภูเข็ง เจ้าผู้ครองนครน่าน เมื่อราวพุทธศตวรรษที่ 20 องค์พระธาตุเป็นเจดีย์ก่ออิฐถือปูนทั้งองค์เป็นศิลปะพม่าผสมล้านนา ภายในบรรจุพระเกศาธาตุขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ต่อมาได้มีการบูรณะปฏิสังขรณ์ครั้งใหญ่ รวมถึงได้สร้างวิหารขึ้นมาในสมัยพระเจ้าสุริยพงษ์ผริตเดชฯ โดยช่างชาวพม่าชื่อ หม่องยิง และกรมศิลปากรได้ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานเมื่อปี พ.ศ.2523 หากมองจากลานวัดพระธาตุเขาน้อยจะสามารถมองเห็นทิวทัศน์โดยรอบของตัวเมืองน่านได้อย่างชัดเจน และตรงจุดนี้ยังเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธมหาอุดมมงคลนันทบุรีศรีน่าน ซึ่งเป็นพระพุทธรูปปางประทานพรประดิษฐานบนฐานดอกบัวสูง 9 เมตร บนยอดเกศาทำขึ้นจากทองคำหนัก 27 บาท สร้างขึ้นเนื่องในมหามงคลที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 6 รอบ


ที่ตั้ง ตำบลดู่ใต้ อำเภอเมือง จังหวัดน่าน

พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ น่าน

พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ น่าน ที่ตั้งและตัวอาคารของพิพิธภัณฑ์ฯ แต่เดิมเป็นที่ประทับ (หอคำ) ของเจ้าผู้ครองนครน่าน พระเจ้าสุริยพงษ์ผริตเดชมาก่อน ครั้นเมื่อเจ้ามหาพรหมสุรธาดา เจ้าผู้ครองนครน่านองค์สุดท้ายถึงพิราลัย เจ้านายบุตรหลานจึงได้มอบหอคำหลังนี้พร้อมที่ดินให้แก่รัฐบาลเพื่อใช้เป็นศาลากลางจังหวัดน่าน ต่อมาในปี พ.ศ.2529 ได้ปรับเปลี่ยนมาเป็นที่ทำการพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ น่าน ทางพิพิธภัณฑ์ฯ ได้ดำเนินการจัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับศิลปะ โบราณวัตถุต่างๆ ภาพประวัติศาสตร์ ข้าวของเครื่องใช้ในชีวิตประจำวันของชาวน่านและชนเผ่า งาช้างดำ และเปิดให้ประชาชนเข้าชมได้ บริเวณด้านหน้าพิพิธภัณฑ์ฯ เป็นที่ตั้งอนุสาวรีย์พระเจ้าสุริยพงษ์ผริตเดช ซึ่งได้ภาพต้นแบบมาจากเจ้านิรมิต สิริสุขะ


นอกจากนั้น ได้มีการปรับภูมิทัศน์โดยรอบโดยทำการรื้อแนวต้นสนด้านหน้าออกแล้วปลูกต้นลีลาวดีขึ้นแทนอย่างที่เห็นเช่นปัจจุบันซึ่งขึ้นเรียงรายแผ่ขยายกิ่งก้านโน้นเอียงเข้าหากันจนกลายเป็นอุโมงค์สวยงามที่นักท่องเที่ยวชอบมาถ่ายรูปกัน ภายในบริเวณพิพิธภัณฑ์ฯ ยังเป็นที่ตั้งของวัดน้อย วัดที่เล็กที่สุดในประเทศไทย ซึ่งสร้างตามแบบศิลปะล้านนา ด้านในประดิษฐานพระพุทธรูปและแผงพระพิมพ์ไม้ และในปีเดียวกันนั้น กรมศิลปากรได้ประกาศขึ้นทะเบียนอาคารพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ น่าน เป็นโบราณสถานที่สำคัญไว้ด้วย


ที่ตั้ง ตำบลในเวียง อำเภอเมือง จังหวัดน่าน

หอศิลป์ริมน่าน

หอศิลป์ริมน่าน ตั้งอยู่บนถนนสายน่าน-ทุ่งช้าง ห่างจากตัวอำเภอเมืองน่านไปประมาณ 20 กิโลเมตร ซึ่งเป็นหอแสดงงานศิลปะของเอกชน ผู้ก่อตั้งคือศิลปินชาวน่านชื่อดัง วินัย ปราบริปู หอศิลป์แห่งนี้ได้มีการรวบรวมงานศิลปะร่วมสมัยมาจัดแสดงไว้ทั้งของศิลปินชื่อดัง ศิลปินภูมิภาค ผลงานของนักเรียน นักศึกษา อาคารจัดแสดงมี 2 หลัง บนพื้นที่ 13 ไร่ อาคารหลังใหญ่ภายในจะจัดแสดงภาพวาดและงานศิลปะต่างๆ หมุนเวียนกันไปตามวาระ ส่วนอีกอาคารที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำน่านชื่อ อาคารเฮือนหนานบัวผัน จัดแสดงนิทรรศการถาวร ภาพถ่ายจิตรกรรมฝาผนังฝีมือของหนานบัวผัน ศิลปินผู้เขียนภาพจิตรกรรมฝาผนังวัดภูมินทร์ วัดหนองบัว รวมถึงภาพจากวัดต่างๆ ที่สำคัญในเมืองน่าน นอกจากนั้นบริเวณโดยรอบหอศิลป์วิวทิวทัศน์สวยงามมากๆ โอบล้อมด้วยธรรมชาติทั้งแม่น้ำ ภูเขา ต้นไม้นานาพันธุ์ นอกจากเสพงานศิลป์แล้ว ยังได้พักผ่อนหย่อนใจไปในคราวเดียวกันด้วย และมีสินค้าที่ระลึก เช่น ผ้าทอมือ เสื้อ โปสการ์ด หนังสือ สินค้าพื้นเมือง และงานภาพพิมพ์ของอาจารย์วินัย ปราบริปูให้ซื้อหาเป็นที่ระลึกด้วย ค่าเข้าชมเพียง 20 บาท (สามารถหยิบโปสการ์ดได้ฟรี 1 แผ่น)


ที่ตั้ง ตำบลบ่อ อำเภอเมือง จังหวัดน่าน

กาดข่วงเมืองน่าน

กาดข่วงเมืองน่าน หรือถนนคนเดินเมืองน่าน อยู่แถวถนนผากองด้านข้างวัดภูมินทร์ ลักษณะคล้ายกับถนนคนเดินของจังหวัดอื่นๆ เปิดบริการทุกศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 17.00-22.00 น. เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสกลิ่นอายวัฒนธรรมของคนเมืองน่าน ทั้งการรับประทานอาหารพื้นเมืองแบบขันโตก มีอาหารพื้นเมืองหลากหลายให้อิ่มอร่อย ชมการแสดงทางวัฒนธรรมผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันมาขับกล่อมยามค่ำคืน เช่น ดนตรีโฟล์คซอง การแสดงฟ้อนรำ เป็นต้น แถมได้ช้อปปิ้งสินค้าพื้นเมือง ผ้าทอ ภาพวาด เครื่องเงิน ของที่ระลึก ของกุ๊กกิ๊กที่มาเปิดร้านขายของมากมายกว่าสามร้อยร้านทีเดียว นับเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สนุกสนานเพลิดเพลินเป็นอย่างยิ่ง ที่สำคัญถนนคนเดินสายนี้อินเทรนด์สุดๆ เพราะได้ชื่อว่า เป็นถนนรักษ์สิ่งแวดล้อม ปลอดโฟมร้อยเปอร์เซ็นต์ แวะมาซื้อของกิน ของฝากติดไม้ติดมือกลับบ้านกันได้ รับรองไม่ผิดหวัง


ที่ตั้ง ตำบลในเวียง อำเภอเมือง จังหวัดน่าน

โฮงเจ้าฟองคำ

โฮงเจ้าฟองคำ โฮงเป็นคำพื้นเมืองล้านนา หมายถึงคุ้ม หรือที่อยู่อาศัยของเจ้านายล้านนาไทย โฮงเจ้าฟองคำแต่เดิมคือคุ้มของเจ้าศรีตุมมา (หลานเจ้ามหาวงศ์ เจ้าผู้ครองนครน่านองค์ที่ 6) หลังจากนั้นคุ้มนี้ได้ตกทอดมายังเจ้าฟองคำ และนายมณฑล คงกระจ่างตามลำดับ คุ้มนี้มีอายุเกือบ 200 ปี สร้างจากไม้สักทั้งหลัง โดยประกอบด้วยเรือน 4 หลังเชื่อมต่อกัน แบ่งเป็นห้องต่างๆ คือ ห้องนอน ห้องรับแขก ห้องครัว ซึ่งอยู่ในสภาพที่ค่อนข้างสมบูรณ์ ทั้งข้าวของเครื่องใช้ เครื่องแต่งกาย ถูกจัดวางอย่างเข้าที่เข้าทาง สื่อให้เห็นวิถีชีวิตของคนสมัยก่อน รอบๆ คุ้มร่มรื่นด้วยต้นไม้นานาชนิด


ปัจจุบันพื้นที่ชั้นบนจะเป็นที่พักอาศัย และพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นจัดแสดงวิถีชีวิตในอดีตและของโบราณที่มีคุณค่า เช่น เครื่องเงิน ผ้าทอพื้นเมือง เป็นต้น และมีการสาธิตการทอผ้าพื้นเมืองด้วย การมาเยือนโฮงเจ้าฟองคำจะทำให้เราเห็นถึงลักษณะบ้านล้านนาในอดีตของน่าน ที่นิยมสร้างบ้านประกอบด้วยส่วนที่อยู่อาศัย ครัว ยุ้งข้าว ครกตำข้าว และบ่อน้ำ โฮงเจ้าฟองคำเป็นตัวอย่างของการอนุรักษ์บ้านไม้เก่าได้เป็นอย่างดีจนได้รับรางวัลอาคารอนุรักษ์สถาปัตยกรรมดีเด่น ประเภทบ้านพักอาศัย (คุ้มเจ้า) ประจำปี พ.ศ.2555 จากสมาคมสถาปนิกสยามฯ เปิดให้เข้าชมตั้งแต่เวลา 09.00-17.00 น. หยุดทุกวันจันทร์และอังคาร ค่าเข้าชมคนละ 20 บาทเท่านั้น


ที่ตั้ง อำเภอเมือง จังหวัดน่าน

ดอยเสมอดาว

ดอยเสมอดาวตั้งอยู่ในเขตอุทยานศรีน่าน สถานที่ท่องเที่ยวสุดโรแมนติกยอดฮิตของน่านนคร การเดินทางไปมาสะดวกถนนค่อนข้างดี มาเที่ยวที่นี่กิจกรรมที่ทำจะชิลและเรียบง่ายมากๆ ด้วยธรรมชาติสร้างสรรค์สิ่งดีงามไว้รอเราเพียบแล้ว ไม่ต้องไขว่คว้าหาอะไรให้ยุ่งยากกับชีวิต แค่ทำตามธรรมชาติว่าไว้เราก็จะพบความสุขได้ง่ายๆ เลย ชมวิวทิวทัศน์แบบพาโนรามาอันสวยงาม แลเห็นยอดเขาน้อยใหญ่ ดอกไม้ต้นไม้ ทะเลหมอก พระอาทิตย์ขึ้น-ตก ค่ำมาเมื่อฟ้ามืดมิดก็นอนนับดาวเดือนที่ระยิบระยับอยู่เกลื่อนท้องฟ้าไปอย่างเพลิดเพลินใจ ที่นี่เรียกว่าเป็นแหล่งดูดาวที่สวยตราตรึงที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทยก็ว่าได้ สมชื่อดอยเสมอดาวจริงๆ


หากมาจังหวะเหมาะก็จะได้เห็นทางช้างเผือกด้วย แถมบนดอยอากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี ยิ่งฤดูหนาวอากาศลดลงเหลือเพียงเลขตัวเดียว ฤดูนี้จึงเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวเป็นอย่างยิ่ง สามารถนำเต็นท์ไปหรือไปเช่าเต็นท์นอนค้างอ้างแรมได้ จุดกางเต็นท์มีเยอะเหมือนกัน (แต่ถ้าเต็มกระเถิบไปนอนผาชู้ที่อยู่ถัดไปราวสี่กิโลฯ ก็ได้) และไม่ต้องห่วงเรื่องอาหารการกิน ทางอุทยานฯ มีร้านค้า ร้านอาหารไว้บริการอยู่หลายเจ้าด้วยกัน หรือจะเตรียมอาหารไปเองบ้างเขาก็ไม่ว่าแต่อย่างไร ดอยเสมอดาวเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าไปเยือนได้ตลอดทั้งปี และสะดวกสบายผู้ใหญ่ในครอบครัวก็ไปเที่ยวได้ เพราะสามารถขับรถขึ้นไปถึงด้านบนดอยบริเวณลานจอดรถใกล้จุดกางเต็นท์ได้เลย


ที่ตั้ง ตำบลศรีษะเกษ อำเภอนาน้อย จังหวัดน่าน

อำเภอปัว

อำเภอเล็กๆ ซึ่งเป็นเมืองเก่าที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน และเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ชวนให้หลงใหล ต้นตำรับของคำว่า สโลว์ไลฟ์ของแท้ ฉะนั้น มาเมืองน่านต้องไม่พลาดไปเยือนอำเภอปัวแล้วจะทำให้เรารู้สึกว่าได้พัก ได้พบความสงบจริงๆ ชีวิตไม่มีอะไรต้องรีบเร่ง ยะเนิบๆ ตามภาษาเหนือว่าไว้ ทุกวันนี้อำเภอปัวจึงเป็นหมุดหมายสุดฮิตของนักท่องเที่ยวทั้งหลาย มีทั้งสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ วัฒนธรรม และประวัติศาสตร์ จุดที่ควรไปเช็กอินคือวัดภูเก็ต    นอกจากมาไหว้พระขอพรแล้ว ยังเป็นจุดชมวิวที่งดงามมาก มองลงมาจะเห็นภาพท้องทุ่งนา ลำธาร บ้านเรือนแบบพาโนรามาเลย ร้านกาแฟบ้านไทลื้อ ร้านกาแฟที่ไม่ธรรมดาเพราะมีวิวสวยที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย นั่งจิบกาแฟท่ามกลางวิวธรรมชาติหลักล้านทั้งท้องนาและวิวเทือกเขาดอยภูคา ยิ่งมาฤดูฝนกับฤดูหนาวอากาศยิ่งเย็นสบาย ใกล้ๆ กันนั้นเป็นร้านลำดวนผ้าทอ สามารถช้อปปิ้งผ้าทอพื้นเมือง ของที่ระลึกต่างๆ ได้ บ้านหัวน้ำก็เป็นร้านกาแฟ ร้านอาหาร และโอมสเตย์ที่วิวดีไม่แพ้กัน



อีกแห่งที่ควรแวะเที่ยวหรือแวะพักค้างคือ โรงเรียนชาวนา ซึ่งเป็นแหล่งเรียนรู้การอยู่กับธรรมชาติอย่างยั่งยืน สอนทำนา ทำการเกษตร มีบ้านหลังเล็กๆ ให้พักผ่อนท่ามกลางพื้นที่สีเขียวขจี หรือจะไปวังศิลาแลงที่ได้รับฉายาว่า แกรนด์แคนยอนแห่งเมืองปัว ก็ดีต่อใจไม่แพ้กัน ที่นี่มีสายน้ำไหลผ่านตลอดทั้งปี สามารถลงเล่นน้ำได้ ถ้าต้องการใกล้ชิดสายน้ำมีอีกแห่งคือ วังน้ำปัว ตั้งอยู่บริเวณต้นแม่น้ำปัว จะมีแพไม้ไผ่ให้นั่งเล่นเอาเท้าแช่น้ำเย็นสบายอุรา มีอาหารและเครื่องดื่มไว้บริการด้วย หรือจะนอนกางเต้นท์นับดาวยามค่ำคืนก็ได้เช่นกัน ไฮไลท์เด็ดอยู่ที่อุทยานแห่งชาติดอยภูคา ที่นี่จะได้ชมทะเลหมอกกว้างไกลสุดลูกหูลูกตาเป็นบรรยากาศที่ต้องลองสัมผัสสักครั้งในชีวิต และยังมีที่ท่องเที่ยวอื่นๆ อีกมากมายในอำเภอปัวที่รอคุณไปเยือนด้วยตนเอง ธรรมชาติจะขับกล่อมเราภายใต้ร่มเงาแห่งความสุข


ที่ตั้ง อำเภอปัวจังหวัดน่าน

อำเภอบ่อเกลือ

อำเภอบ่อเกลือ อำเภอเล็กๆ กลางหุบเขา แหล่งท่องเที่ยวสุดฮิตอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดน่าน มีชื่อเสียงในด้านการทำเกลือภูเขา หรือ เกลือสินเธาว์ ปัจจุบันยังมีหลงเหลือให้ชมอยู่อีกสองบ่อคือบ่อเหนือกับบ่อใต้ที่ชาวบ้านยังทำเกลือด้วยกรรมวิธีดั้งเดิม


นอกจากชมตำนานการทำเกลือภูเขาแล้ว ยังสามารถสัมผัสวิถีชีวิตที่เรียบง่าย และเที่ยวชมธรรมชาติที่งดงามได้ที่นี่ด้วย ทั้งอุทยานแห่งชาติขุนน่าน น้ำตกสะปัน น้ำตกห้วยห้า ภูเข้ โครงการศูนย์ภูฟ้าพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ เป็นอีกแห่งที่น่าแวะเวียนไปเที่ยวชมแปลงเกษตร และเรียนรู้วิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวท้องถิ่น ที่หาชมได้ยากในเมืองใหญ่


นอกจากนั้น อำเภอบ่อเกลือยังมีแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ ให้ไปเยือน พร้อมที่พักสวยๆ เหมือนภาพถ่ายของโปสการ์ดให้เราไปนอนอ้อยอิ่งกับธรรมชาติสูดอากาศบริสุทธิ์ไว้รองรับหลายแห่งมาก แต่ช่วงนี้ถ้าจะขึ้นไปเที่ยวอำเภอบ่อเกลือควรเช็คสภาพอากาศและถนนหนทางก่อนจะเป็นการดีที่สุด


ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวน่าน โทรศัพท์ 054 751-169 และ 054 750-247

กินดีอยู่ดีที่เมืองน่าน

  • ร้านภูฟ้า ร้านกาแฟวิวสวยริมน้ำน่าน และจำหน่ายของที่ระลึกที่เป็นผลิตภัณฑ์โครงการหลวงภูฟ้าพัฒนาหลายประเภทด้วยกัน สินค้ายอดนิยมคือ ชาอู่หลง

  • ขนมหวานป้านิ่ม ฝีมือการทำขนมของป้านิ่มเป็นที่เลื่องลือไปทั่ว เมนูยอดนิยมคือ บัวลอยมะพร้าวอ่อนไข่หวาน ไอศครีมกะทิสด ฯลฯ

  • ร้านวันดา เมนูต้องลองข้าวซอย ขนมจีนน้ำเงี้ยว ส้มตำ ข้าวแกง ฯลฯ

  • ข้าวซอยต้นน้ำ อยู่คู่เมืองน่านมากว่าสามสิบปี อาหารจานเด็ดมีทั้ง ข้าวซอย ขนมจีนน้ำเงี้ยว ก๋วยเตี๋ยว แวะไปชิมกันได้

  • ข้าวซอยเชียงใหม่ @น่าน ร้านจะตั้งอยู่ตรงข้ามวัดสวนตาล ขายข้าวซอยแบบดั้งเดิมของเชียงใหม่ที่น้ำจะข้นๆ ร้านเล็กๆ แต่อร่อยเด็ดมาก

  • ข้าวซอยป้าสุณี ขายขนมจีนน้ำเงี้ยว ข้าวซอย เมนูที่ห้ามพลาดคือข้าวผัดแหนม หอมอร่อยรสชาติลงตัวมาก ที่นี่จะทำแหนมหรือที่ชาวเหนือเรียกว่าจิ้นส้มขึ้นเอง สามารถซื้อกลับเป็นของฝากได้

  • ครัวเฮือนฮอม เสิร์ฟอาหารพื้นเมืองแท้ๆ หลากหลายเมนูและรสชาติดีทีเดียว มีทั้งแบบขันโตก และแบบนั่งโต๊ะให้เลือกตามถนัด