How to สร้างโมติเวชั่นในการออกกำลังกายให้เป็นกิจวัตร

รู้ทั้งรู้แหละว่าออกกำลังกายนั้นดีมีประโยชน์ต่อสุขภาพ แถมสร้างหุ่นที่สมส่วนสวยงาม ก็รู้ทั้งรู้แต่ทำไมหลายๆ คนยังบังคับตัวเองให้ออกกำลังกายสม่ำเสมอไม่ได้เสียที เริ่มๆ เลิกๆ วนเวียนอยู่อย่างนั้นครั้งแล้วครั้งเล่า อยากหุ่นดีมั้ยอยาก แต่บังคับใจตัวเองไม่ได้สักที วันนี้เรามีเทคนิคดีๆ เพื่อจุดประกาย สร้างแรงบันดาลใจให้คุณลุกขึ้นมาฮึดออกกำลังกายให้เป็นกิจวัตรได้สำเร็จ

1. มองตัวเองในกระจก

มองตัวเองในร่างกายที่เปลือยเปล่าในกระจกเงา  มองตัวเองทุกส่วนอย่างใกล้ๆ หน้าท้องที่ย้วยยื่น เอวที่เหมือนห่วงยาง ต้นขาที่เต็มไปด้วยเซลลูไลท์เบียดกันแน่น อย่างที่เขาเรียกกันว่าขาเบียด ต้นแขนที่ใหญ่เนื้อแกว่งไปแกว่งมา สะโพกที่ย้อย หาความเฟิร์มไม่ได้สักส่วน  คุณจะเริ่มรับไม่ได้กับร่างกายของตัวเองที่ปรากฎอยู่ตรงหน้าในกระจกเงา ในทางตรงข้ามเมื่อคุณเริ่มออกกลังกายอย่างจริงจังได้ระยะหนึ่งแล้วกลับมามองร่างกายอันเปลือยเปล่าของตัวเองในกระจกอีกครั้ง หน้าท้องที่ยุบลง แขนที่ได้รูปแน่นกระชับ ขาที่เรียวเล็กลง เซลลูไลท์ที่ค่อยๆ หายไป ยิ่งออกกำลังกายนานเท่าไหร่ หนักเท่าไหร่คุณจะยิ่งพอใจตัวเองที่ปรากฏในกระจกมากขึ้นเท่านั้น และในที่สุดคุณจะหยุดออกกำลังกายไม่ได้เพราะมันสร้างภาพตัวคุณเองในภาพที่น่ามองและน่าภูมิใจ

2. คิดถึงประโยชน์ของการออกกำลังกาย

อย่างที่เกริ่นไปตอนต้นในความจริงแล้วเราต่างรู้ว่าการออกกำลังกายนั้นมีประโยชน์ แต่ถ้าเราจะใช้เวลาอย่างจริงๆ จังๆ อีกสักนิดนั่งลงแล้วเขียนประโยชน์ของการออกกำลังกายเป็นข้อๆ อย่างเป็นเรื่องเป็นราว รวมทั้งข้อเสียของการที่คุณไม่ออกกำลังกาย ผลการตรวจสุขภาพประจำปี ไขมันในเลือดที่สูง ปริมาณออกซิเจนในเลือดต่ำ อาการออฟฟิศซินโดรม อาการเหนื่อยง่าย ร่างกายไม่ยืดหยุ่น และอื่นๆ อีกมากมาย สิ่งแย่ๆ ที่เกิดกับร่างกายของคุณจะดีขึ้นจากการออกกำลังกาย เขียนบรรยายให้หมดทุกข้อ

3. กำหนดเป้าหมายให้ชัดเจน

กำหนดเป้าหมายให้ชัดเจน และเป็นเป้าหมายที่วัดผลได้ เช่น ฉันจะต้องใส่ชุดที่ตอนนี้คับไปแล้วให้ได้ภายในเวลาเท่าไหร่ 2 เดือน หรือฉันจะต้องลดเอวจาก 32 นิ้ว ใหแหลือ 30 นิ้วได้เวลาหนึ่งเดือน ฉันจะต้องใส่บิกินีไปทะเลแบบหุ่นเป๊ะๆ ในทริปต่อไปในอีก 6 เดือนให้ได้ การมีเป้าหมายที่จับต้องได้ พิสูจน์ได้ชัดเจนจะช่วยสร้างแรงบันดาลใจและกระตุ้นให้เราลงมือปฏิบัติได้ง่ายขึ้น

4. หาไอดอลเพื่อสร้างแรงบันดาลใจ

การมีใครสักคนที่เป็นต้นแบบเป็นแรงบัลดาลใจได้มาก โดยเฉพาะคนที่มีอะไรคล้ายๆ กับเรา ปัจจุบันมีไอดอลที่ประสบความสำเร็จในการออกกำลังกายจนมีรูปร่างที่น่ามองมากมายทั้งที่เป็นดารา เซเลป หรือแม้กระทั่งคนธรรมดาทั่วไป เช่น ถ้าเราเป็นคนในวัย 40 ก็ อาจหาคนในวัยเดียวกันที่ออกกำลังกายจนสามารถเอาชนะวัยและยังมีร่างกายที่สมส่วนแข็งแรงสวยงาม แล้วก็สามารถติดตามเป็นแฟนของคนเหล่านี้ทางช่องทางโซเชียลมีเดียต่างๆ ซึ่งตอนนี้มีมากมายไม่ว่าจะเป็น Instagram, Facebook, YouTube หรือ TikTok ปกติ Influencers เหล่านี้จะโพสต์วิธีการออกกำลังกาย เทคนิค ทิปส์ต่างๆ ประโยชน์ของการออกกำลังกาย รวมทั้งการให้กำลังใจอยู่เรื่อยๆ การติดตามคนเหล่านี้จะทำให้เรามีกำลังใจในการออกกำลังกายมากขึ้น

5. หาชุดออกกำลังกายสวยๆ

บางคนอาจเห็นเป็นเรื่องไร้สาระ แต่มีคนจำนวนมากโดยเฉพาะกลุ่มผู้หญิงพูดตรงกันว่าชุดออกกำลังกายสวยๆ มีส่วนมากในการสร้างแรงบันดาลใจในการออกกำลงกาย การสามารถใส่สปอร์ตบราสวยๆ เพื่อโชว์หน้าท้องที่ฟิตเฟิร์มเพิ่มแรงบันดาลใจให้หลายคนมีเป้าหมาย เช่น ฉันจะต้องมีหน้าท้องแบนราบเพื่อใส่  สปอร์ตบราและถ่ายรูปสวยๆ อวดชาวโลกให้ได้

6. ใช้โซเชียลมีเดียเป็นเครื่องมือ

ใช้โซเชียลมีเดียเป็นเครื่องมือในการบังคับตัวเองให้ออกกำลังกาย เช่น โพสต์รูปก่อนและหลังการออกกำลังกาย การโพสต์คลิปหรือภาพตัวเองออกกำลังกายทุกวัน ทำเป็นประจำก็จะช่วยให้เราสนุกกับการออกกำลังกายมากขึ้น ยิ่งถ้ามีคนมาไลค์มาคอมเมนท์ว่าเราหุ่นดีขึ้นก็ยิ่งช่วยทำให้มีกำลังใจมากขึ้น

7. จ้างเทรนเนอร์

เดี๋ยวนี้มีเทรนเนอร์ที่รับสอนออกกำลังกายออนไลน์เยอะมาก หาได้ตาม Instagram หรือ Facebook การมีคนมาช่วยสอน ให้กำลังใจและบังคับให้เราทำจะช่วยทำให้เราเริ่มต้นได้ง่ายขึ้นในช่วงแรก หลังจากเราเริ่มออกกำลังกายจนเป็นนิสัยแล้ว ก็ค่อยเลิกจ้างเทรนเนอร์และออกกำลังกายเองต่อไปได้

8. จัดสรรเวลาในการออกกำลังกาย

การออกกำลังกายไม่จำเป็นต้องใช้เวลาเป็นชั่วโมงแค่แบ่งเวลา 15-30 นาทีในแต่ละวันมาออกกำลังกาย ถ้าคุณทำเป็นประจำทุกวันแค่ใช้เวลา 15 นาทีในแต่ละวันคุณจะเห็นว่าร่างกายและสมรรถภาพทางกายทางร่างกายของคุณเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น บอกตัวเองว่ามันเป็นเพียงแค่เวลาน้อยนิดในแต่ละวันที่คุณจะเจียดมันมาออกกำลังกายและเวลานั้นไม่ได้กระทบกับการทำกิจกรรมอะไรอื่นๆ ในชีวิตของคุณเลย

9. ใส่ตารางการออกกำลังกายในปฏิทิน

ปฏิทิน ยิ่งในยุคดิจิทัลยิ่งทำได้ง่ายขึ้นคุณสามารถตั้งเตือนในโทรศัพท์มือถือหรือสมาร์ทวอช จะได้ช่วยเตือนและทำให้การออกกำลังกายเป็นส่วนหนึ่งในตารางชีวิตของคุณ ให้การออกกำลังกายเป็นเหมือนการที่คุณต้องอาบน้ำ สระผม ดูแลผิวพรรณ แต่งหน้า การออกกำลังกายก็เช่นกันเป็นหนึ่งในกิจวัตรที่คุณต้องทำเป็นประจำ

10. สัญญากับตัวเอง

บอกตัวเองว่า เรามีร่างกายเดียวและร่างกายนี้เป็นสิ่งที่มีคุณค่าที่สุดในชีวิตของเรา บอกตัวเองว่าเราต้องดูสิ่งที่มีค่านี้ให้ดีที่สุด เพื่อหลอดเลือดที่แข็งแรง หัวใจที่แข็งแรง ร่างกายที่สมส่วนสวยงาม ร่างกายที่ฟิตที่ทำให้คุณทำกิจกรรมต่างๆ ที่ต้องการโดยไม่มีปัญหาเรื่องสุขภาพมาเป็นอุปสรรค


เราต่างก็รู้กันดีอยู่แล้วว่าการออกกำลังกายนั้นมีประโยชน์ต่อสุขภาพทั้งภายในและภายนอก เริ่มต้นทำตั้งแต่วันนี้อย่างมีวินัย จริงจังและสม่ำเสมอ การมีวินัยนั้นเป็นหัวใจของการออกกำลังกาย การทำๆ หยุดๆ จะทำให้คุณไม่เห็นผลและล้มเลิกในที่สุด แต่ถ้าคุณหาแรงบันดาลใจและฝืนตัวเองในช่วยแรกสักหน่อย เมื่อออกกำลังกายต่อเนื่องได้ 1-2 เดือน คุณจะเริ่มชินกับการออกกำลังกายและนั่นจะทำให้การออกกำลังกายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตคุณ เป็นไลฟ์สไตล์ที่คุณจะทำโดยไม่รู้สึกฝืนอีกต่อไป เมื่อไม่ประมาทในการใช้ชีวิตด้วยการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ก็ไม่ควรประมาทต่อโรคภัยไข้เจ็บเช่นกัน ถึงแม้เราจะดูแลสุขภาพของเราอย่างดีเพียงใดแต่โอกาสเจ็บป่วยก็ยังอาจเกิดขึ้นได้ ในยุคที่ค่ารักษาพยาบาลแพงจนป่วยหนักทีอาจแทบหมดตัว การมีประกันสุขภาพที่มีวงเงินคุ้มครองที่เหมาะสมจะช่วยคุณได้ในยามที่โรคร้ายเข้ามาเยือน  SCB มีแผนประกันชีวิตหลายหลายให้คุณเลือกให้ตรงกับความต้องการ สามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.scb.co.th/th/personal-banking/insurance/health-insurance.html