เนื่องจากหัวหินในสมัยก่อนเป็นเพียงหมู่บ้านประมงเล็กๆ แต่หลังจากทางรถไฟสายใต้แล้วเสร็จในปลายสมัยรัชกาลที่ 6 ก็ได้นำความเจริญเข้ามาสู่หัวหิน และเปลี่ยนหมู่บ้านเล็กๆ ให้กลายเป็นสถานพักตากอากาศที่สวยงามตั้งแต่วันนั้น จวบจนวันนี้ ด้วยการผสมผสานบรรยากาศท้องทะเล ฝูงปลา และการประมง เข้ากับความทันสมัยของยุคปัจจุบัน ทำให้ได้ดีไซน์พิเศษที่แตกต่างจากที่อื่นๆ

เมื่อเดินเข้ามาด้านในโรงแรมให้กดลิฟต์ขึ้นมาที่ชั้น 8 ได้เลย “สกาย ล็อบบี้” พร้อมพนักงานที่ใส่ชุดทำจากผ้ามัดย้อมสีครามเหมือนน้ำทะเลสดใส ยืนยิ้มแย้มรอต้อนรับแขกผู้มาเยือน เมื่อเช็คอินเสร็จเรียบร้อย เราจะได้สายรัดข้อมือ ที่ใช้แตะลิฟท์ เปิดประตูห้องพัก และเข้าสวนน้ำวานา นาวา ซึ่งสายรัดข้อมือนี้ยังสามารถใช้ชำระค่าอาหารและค่าบริการทั้งหมดในสวนน้ำได้อีกด้วย จะเลือกแบบเติมเงิน หรือจะรวมมาชำระทีเดียวตอนเช็คเอาท์ก็สามารถทำได้

ห้อง วานา นาวา 

ห้องพักขนาด 39 ตร.ม. ที่ตกแต่งแบบปลอดโปร่ง ให้ความรู้สึกเหมือนบ้านด้วยระเบียงพร้อมเก้าอี้นั่งชิลๆ ชมวิวภูเขา ภายในห้องยังมีโซฟายาวนั่งสบายอีกด้วย

ห้องโอเชียน วิว 

ตามชื่อของห้องนี้ แน่นอนว่าเราจะมองเห็นวิวทะเลได้จากห้องพักเลย ซึ่งขนาดและการตกแต่งจะเหมือนกับห้อง วานา นาวา แต่เมื่อลืมตาขึ้นมาตอนเช้า ภาพตรงหน้าจะเป็นน้ำทะเลสีฟ้าใสแทน

ห้องคิดส์ สวีท 

ไม่มีห้องไหนจะเหมาะกับครอบครัวที่มีลูกๆ มาเที่ยวด้วยไปมากกว่าห้องนี้อีกแล้ว ด้วยพื้นที่กว้างถึง 52 ตร. มีพื้นที่เพียงพอสำหรับเด็กๆ และเตียงสองชั้นของพวกเขา นอกจากนี้ยังมีอ่างอาบน้ำให้ได้นอนแช่ และโซฟาตัวยาวที่ระเบียงสำหรับครอบครัวเพื่อเพิ่มรอยยิ้มยามนั่งดูวิวทะเล และภูเขาด้วยกัน

ห้องโอเชียน สวีท 

ห้องนี้ จะตั้งอยู่บริเวณหัวมุม และมีพื้นที่มากถึง 68 ตร.ม. มองทะเลเพลินกันทั้งวันไม่ว่าจะในห้องนอน หรือห้องนั่งเล่นที่แยกเป็นสัดส่วนอย่างชัดเจน และยังมีห้องน้ำถึง 2 ห้อง ความพิเศษของห้องนี้คือสามารถเชื่อมต่อกับห้องโอเชียน วิว จนทำให้มีพื้นที่รวมกันมากกว่า 100 ตร.ม. เหมาะสำหรับผู้พักที่มาแบบครอบครัวที่มีเด็กโต หรือมากับกลุ่มเพื่อนสนิท

ห้องพาโนรามิก สวีท 

วิวทะเลยาวสุดสายตา ที่อยู่ตรงหน้าคุณในห้องขนาด 50 ตร.ม. พร้อมจะที่ต้อนรับรุ่งอรุณของวันใหม่ด้วยวิวพระอาทิตย์ขึ้น ปลุกด้วยแสงแดดอ่อนๆ ให้ลุกขึ้นมาเพลิดเพลินกับอาหารเช้าและลงไปสนุกที่สวนน้ำได้ทั้งวัน หากมาพร้อมกับเพื่อนๆ ก็สามารถเชื่อมต่อกับห้องโอเชียน วิว ได้ด้วยเช่นกัน

ห้องสกาย สวีท 

ห้องที่กว้างที่สุดด้วยขนาดพื้นที่ถึง 128 ตร.ม. แถมอยู่บนชั้นบนสุดจึงมองเห็นชีวิตชีวาความครึกครื้นของเมืองหัวหินได้โดยรอบ และยังมีวิวทะเลให้พักผ่อนหย่อนใจอีกด้วย ห้องนี้เพิ่มความเป็นสัดส่วนด้วย พื้นที่รับประทานอาหารและห้องนั่งเล่น ที่แยกจากห้องนอนด้วยประตูบานเลื่อน ความพิเศษของโต๊ะรับประทานอาหารในห้อง คือคุณสามารถเปลี่ยนโต๊ะธรรมดา มาเป็นโต๊ะพูล สร้างสีสันความสนุกก่อนเข้านอนได้

ห้องอาหารของโรงแรมก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยในการเลือกที่พัก มาดูห้องอาหารของที่นี่กันดีกว่า “ห้องอาหารประมง” ตั้งอยู่บนชั้น 7 จึงทำให้สามารถเอร็ดอร่อยกับอาหารไป พร้อมกับดูวิวเมืองหัวหินไปด้วยได้ ไลน์อาหารหลากหลาย สดใหม่ เติมอิ่มพร้อมเติมเต็มช่องว่างในท้องได้ตลอดทุกมื้อ เพราะเปิดให้บริการอาหารทั้งวันแบบ All Day Dining

เมื่ออิ่มแล้วอยากผ่อนคลาย กดลิฟต์ไปที่ชั้น 6 ทีทรีสปา จะช่วยดูแลทุกคนในครอบครัวด้วยผลิตภัณฑ์สปาชั้นเลิศ และผู้เชี่ยวชาญที่จะทำให้สัมผัสกับคำว่า สบายมาก ถึงมากที่สุด จะนวดหน้า นวดตัว จนถึงทำเล็บก็มีบริการให้ครบ

ที่นี่ได้รับคำกล่าวว่าเป็นโรงแรมที่เหมาะสำหรับครอบครัวมากๆ แน่นอนว่าต้องมี “บรูด้าคิดส์คลับ” ซึ่งมาในธีมท้องทะเลอันแสนสดใส สมวัยของผู้ใช้บริการ มีเครื่องเล่นเสริมสร้างพัฒนาการ และกิจกรรมที่เหมาะสมกับเด็กทุกช่วงวัย ถ้าคุณพ่อคุณแม่อยากไปสปา ก็พาเด็กๆ มาฝากไว้ที่นี่ได้ เพราะเค้ามีพี่เลี้ยงคอยดูแลเด็กๆ ให้

ที่นี่ยังมีมุมสวยๆ อีกมากมาย ถ้าอยากเล่นน้ำด้วย แต่ก็ชอบความเป็นส่วนตัว แนะนำให้ขึ้นมาที่ชั้น 26 จะพบกับสระว่ายน้ำ Infinity Pool ที่มองเห็นวิวทะเลไกลสุดตาแบบพาโนราม่า จะนอนแช่จากุซซี่ ว่ายน้ำแบบเบาๆ หรืออยากจะนอนพักผ่อนอาบแดดก็ทำได้อย่างเต็มที่ ถ้ามีเด็กมาด้วย ก็ยังมีสไลเดอร์เล็กๆ ให้เล่นสนุกกันอีก หากต้องการความสดชื่นเย็นฉ่ำก็สามารถสั่งสมูธตี้ ค็อกเทลหรืออาหารจานง่ายๆ มากินได้เช่นกัน  สำหรับในยามค่ำคืนคงไม่ต้องบรรยายว่าบนความสูงระดับนี้ ที่นี่จะสวยขนาดไหน

จากสระว่ายน้ำ หากเดินขึ้นบันไดมาอีกชั้นจะพบกับ วานา นาวา สกาย จุดชมวิวลอยฟ้าพื้นกระจก ที่คุณจะมองเห็นพื้นเบื้องล่างเป็นสวนน้ำวานา นาวา ด้วยพื้นกระจกใสที่ยื่นออกไปจากชั้นดาดฟ้าของโรงแรมบนความสูง 110 ม.จากพื้นดิน ที่นี่เป็นรูฟ ท็อปบาร์และห้องอาหารที่ได้รับการออกแบบจาก Ashley Sutton นักออกแบบชื่อดังของโลก และเมนูอาหารชั้นเลิศจาก Joseph Boroski นักรังสรรค์เมนูค็อกเทลระดับโลกได้รังสรรค์ค็อกเทลสูตรดั้งเดิมที่เข้ากับอาหารที่น่ารับประทานจากทีมเชฟของโรงแรม

สำหรับคนที่ต้องการสัมผัสทะเล โรงแรมก็มีรถรับส่งไปยัง Le Colonial Beach Club บ้านพักตากอากาศสไตล์โคโลเนียลสีฟ้าขาว ติดทะเล พร้อมเตียงชายหาดให้นอนอาบแอดฟังเสียงคลื่น แล้วสั่งเครื่องดื่มเมนูต่างๆ จากบาร์ ไม่ว่าจะเป็นน้ำผลไม้สด หรือค็อกเทลมาเติมความสดชื่น หรือจะเลือกชิมอาหารจากเชฟฝีมือชั้นเลิศก็แสนจะรื่นรมย์

จองโรงแรม https://www.ihg.com/holidayinnresorts/hotels/th/th/hua-hin/hhqhi/hoteldetail

พิกัด https://goo.gl/maps/jwkAV3zcN5R2