‘เช่าและแชร์’ จับจังหวะอย่างไรถูกใจคนเมืองยุคนี้

“เมืองหลวง” แม้ยังคงสถานะศูนย์กลางแหล่งงานระดับแม่เหล็ก แต่เมื่อความเป็นเมืองเริ่มขยายสู่ต่างจังหวัด คนท้องถิ่นยุคใหม่จึงมีตัวเลือกย้ายกลับไปซบอกบ้านเกิดที่อบอุ่นมากขึ้น เพื่อหลีกหนีค่าครองชีพที่ถีบตัวสูงลิบพอๆ กับตึกระฟ้าตลอดแนวรถไฟฟ้าที่ราคาสูงเกินสอย ครั้นจะหลบหนีไปอยู่ย่านชานเมือง ก็อาจหนีไม่พ้นต้องมีค่าใช้จ่ายในการเดินทางเพิ่ม และปวดใจกับระบบขนส่งสาธารณะที่ไม่สะดวกดั่งใจ เทรนด์คนพักพิงในเมืองเพื่อก่อร้างสร้างตัว โดยไม่หวังสร้างภาระผูกพันจึงเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ธุรกิจที่อิงกลยุทธ์การปล่อยเช่าและแบ่งปันเบ่งบานไปทั่วเมือง


Sharing Economy หรือ เศรษฐกิจของการแบ่งปัน ที่เปิดโอกาสการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุดด้วยการแบ่งปันกับผู้อื่นโดยนำเทคโนโลยีมาช่วยจัดสรร สยายปีกไปได้ไกลขึ้นด้วยแรงหนุนของคนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะคนรุ่นเจเนอเรชัน เอ็กซ์ และมิลเลนเนียล ซึ่งไม่ยึดติดกับ “ความเป็นเจ้าของ” สินทรัพย์เหมือนคนรุ่นก่อน

rent-and-share-01

ผลการวิจัยจากสหรัฐในช่วงปลายปี 2562 ฉายภาพนี้ให้เห็นชัดขึ้น เมื่อส่องพบอัตราความร่ำรวยที่ห่างชั้นของประชากรต่างวัย ไม่ว่าจะวัดรอยเท้ากันในอดีตหรือปัจจุบัน

  • ชาวเบบี้บูมเมอร์ หรือคนที่เกิดระหว่าง ค.ศ.1946 - 1964 นั้น เมื่อพวกเขามีอายุเฉลี่ย 35 ปี สามารถสร้างฐานะจนคิดเป็นสัดส่วนราว 21% ของความร่ำรวยของประเทศ
  • ขณะที่กลุ่มมิลเลนเนียล หรือผู้ที่เกิดระหว่างปี 1981-1996 ที่กำลังจะก้าวเข้าสู่อายุเฉลี่ย 35 ปีในอีกไม่กี่ปีนี้แล้ว กลับมีอัตราความร่ำรวยที่ยังห่างชั้นกับคนรุ่นก่อนในสมัยที่อายุเท่ากัน


แม้กระทั่งในปัจจุบัน กลุ่มเบบี้บูมเมอร์ยังมีอัตราความร่ำรวยคิดเป็น 57% ของทั้งประเทศสหรัฐ ขณะที่คนรุ่นต่อมานั้น ยิ่งอายุน้อย อัตราความร่ำรวยยิ่งต่ำลง โดยปัจจุบันเจนเอ็กซ์มีทรัพย์สินรวมกันคิดเป็น 16% ของทั้งประเทศ ขณะที่มิลเลนเนียลตามหลังอยู่ที่ 3% ผลการสำรวจยังชี้ให้เห็นว่า ผู้ใหญ่อายุต่ำกว่า 40 ปีทุกวันนี้ มีอัตราความร่ำรวยลดน้อยลงเรื่อยๆ ในรอบ 30 ปีที่ผ่านมา โดยสัดส่วนความร่ำรวยที่เคยอยู่ที่ 13% ในปี 1989 หล่นตุ้บลงมาอยู่ต่ำกว่า 7% ในปัจจุบัน


แต่ทำไมคนรุ่นใหม่จึงถือครองสินทรัพย์ต่ำลง? อาจแบ่งได้เป็นสองกลุ่มที่มีเหตุผลต่างกัน กลุ่มแรกหันมาใช้วิธีการเช่าและแชร์เพราะความจำเป็นทางเศรษฐกิจ เนื่องจากขาดกำลังในจับจ่ายเพื่อครอบครองทรัพยากร โดยเฉพาะภาวะความเป็นอยู่ในเมืองที่ค่าจ้างแรงงานบางสาขาปรับตัวไม่ทันค่าครองชีพ ส่วนอีกกลุ่มคือ คนรุ่นใหม่ที่ไม่สนใจหรือไม่เห็นความจำเป็นในการเป็นเจ้าของ เนื่องจากตนเองมีสินทรัพย์ที่เป็นมรดกตกทอดจากคนรุ่นเบบี้บูมเมอร์ หรือปู่ย่าตายาย ลงแรงขันแข็งสร้างไว้ให้แล้ว จนมีบ้านของครอบครัวที่พร้อมตกทอดในอนาคต หรือมีคอนโดมิเนียมที่พ่อแแม่ซื้อสะสมไว้ให้โดยไม่ต้องลงแรงเอง

ดังนั้น หากจะจับธุรกิจเช่าและแบ่งปัน น่าจะมองเห็นแล้วว่า กลุ่มลูกค้าหลักที่ควรมุ่งไปหานั้นอยู่ที่ช่วงวัยเริ่มทำงานไปจนถึงราว 40 ปี เพราะคนเหล่านี้มักไม่ติดใจในการใช้ทรัพยากรร่วมกับคนอื่น ต่างจากกลุ่มเบบี้บูมเมอร์ หรือ เจนเอ็กซ์ บางคนที่อาจยังตะขิดตะขวงกับพฤติกรรมแบ่งปั่น แต่สบายใจที่จะซื้อหามาใช้เป็นการส่วนตัวมากกว่า


คนรุ่นใหม่จะมุ่งหาบริการที่ตอบโจทย์ชีวิตประจำวันแบบไม่ต้องผูกมัดด้วยหนี้สินมากมาย แถมยังพ่วงด้วยความสะดวกสบายแต่มีค่าใช้จ่ายต่ำกว่าบริการในรูปแบบดั้งเดิมที่มีมานาน เช่น การเรียกรถหรือบริการขนส่งผ่าน Ride Sharing ที่ทำให้ผู้ใช้ไม่ต้องฝ่ารถติดหรือปวดหัวกับการหาที่จอดรถ หรือ House Sharing เช่น การจองห้องพักตามคอนโดมิเนียม หรือ ผ่านแอปพลิเคชันต่างๆ ที่มีข้อดีเรื่องรูปแบบยืดหยุ่น และไลฟ์สไตล์ที่ถูกใจคนรุ่นใหม่มากกว่าโรงแรมที่มีมาตรฐานเนี้ยบตามระเบียบไม้บรรทัด


อีกกลุ่มการเช่าและแชร์ที่น่าสนใจคือ การจับกลุ่มลูกค้านักธุรกิจรุ่นใหม่ ผ่านการให้บริการเช่าพื้นที่ทำงานหรือพื้นที่เก็บสต็อกสินค้า ซึ่งตอบสนองแนวโน้มคนรุ่นมิลเลนเนียลที่มักแสวงหาโอกาสเป็นเจ้าของกิจการ ปักธงการเริ่มค้าขายออนไลน์ หรือพร้อมเริ่มต้นธุรกิจสตาร์ทอัพของตัวเองสูงกว่าวัยอื่นๆ แต่ไม่อยากมีต้นทุนผูกมัดก้าวแรกสูงเกินความจำเป็น

นอกจากราคา ความสะดวกสบายในการเข้าถึง และการตอบโจทย์การใช้ชีวิตแล้ว ปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ธุรกิจเช่าและแชร์ถูกใจคนกลุ่มนี้คือ ต้องมีองค์ประกอบด้านเทคโนโลยีที่ทันสมัย ที่พร้อมรับการทำงานจากที่ไหนก็ได้ (Remote Working) และสามารถตรวจสอบข้อมูลได้ด้วยการอิงประสบการณ์จากผู้ใช้รายอื่นๆ หรือที่เรียกว่าระบบรีวิวที่เข้มแข็ง


และควรมี “ความยืดหยุ่นเรื่องเวลา” เช่น การเปิดให้เช่าที่พักหรือที่พื้นที่ทำงานด้วยการนำเสนอแพ็คเกจหลากหลายรูปแบบไว้ ซึ่งอาจเป็นระยะสั้นรายเดือนหรือรายสัปดาห์ ไม่ควรจำกัดที่สัญญาระยะยาวรายปีอีกต่อไป เนื่องจากกลุ่มคนวัยนี้ มีแนวโน้มชอบแสวงหา “ประสบการณ์” แปลกใหม่ตลอดเวลามากกว่าปักหลักอยู่แต่ในที่เดิม

ที่มา

https://www.bot.or.th/Thai/MonetaryPolicy/EconomicConditions/AAA/SharingEconomy_V8.pdf

https://www.marketwatch.com/story/this-depressing-chart-shows-the-jaw-dropping-wealth-gap-between-millennials-and-boomers-2019-12-04

https://iq.hse.ru/en/news/388202439.html

https://www.mobilemarketer.com/news/forrester-millennials-boost-growth-of-sharing-economy/515851/