เรียนรู้สิ่งนี้ไว้ เมื่อกม.อสังหาฯ เปิดรับต่างชาติเป็นเพื่อนบ้านคุณ

เมื่อโลกการค้าเสรียังมีผลต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจแต่ละประเทศมหาศาล ในยุควิกฤตโรคระบาดแบบนี้ยิ่งย้ำให้เห็นชัดๆ ว่า เมื่อการเดินทางติดต่อหยุดชะงักลงไปนั้นมีผลให้เศรษฐกิจจับไข้สั่นสะท้านกันแค่ไหน ดังนั้น หลายประเทศจึงพลิกสารพัดตำราฝ่ามรสุม ผ่อนกฎเกณฑ์เพื่อดึงดูดให้คนต่างชาติเข้ามาลงทุนจับจ่ายในประเทศตัวเอง เพื่อเป็นน้ำเลี้ยงช่วยฟื้นเศรษฐกิจที่ฟุบให้ฟู่ฟ่าอีกครั้ง


บางประเทศใช้วิธีดึงดูดคนเก่งเข้ามาแลกเปลี่ยนและพัฒนาทักษะให้กับคนในบ้าน รวมถึงประเทศไทยที่เตรียมใช้นโยบายดึงดูดเศรษฐีต่างชาติ ผู้เกษียณอายุ พนักงานและผู้เชี่ยวชาญพิเศษ จูงใจด้วยวีซ่ายาว 10 ปี พร้อมสิทธิพิเศษอนุญาตทำงานอัตโนมัติ และสิทธิครอบครองอสังหาริมทรัพย์ และหากบ้านเราเปิดประตูรับเพื่อนบ้านต่างชาติเพิ่มขึ้นจริงๆ สิ่งที่เราต้องรู้และเตรียมความพร้อมไว้ มีอะไรบ้าง


1. เมื่อเทรนด์การรอนแรมจากบ้านเกิดกำลังมา


ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่อีกต่อไปสำหรับมนุษย์งานคนหนึ่งที่จะไปใช้ชีวิตในต่างแดนที่ไม่ใช่บ้านเกิดเมืองนอน และไม่ได้ไปแค่การพักผ่อนรายวันหรือสัปดาห์เท่านั้น โดยเฉพาะในยุคดิจิทัลที่คนทำงานจากไหนก็ได้โดยใช้เทคโนโลยีสื่อสารช่วย หรือที่เรียกว่า Digital Nomad ดังนั้น จงเริ่มทำตัวให้ชินกับคนต่างชาติที่จะกลายมาเป็นขาประจำพำนักยาวนานมากขึ้น หากเราเป็นเจ้าของธุรกิจหรือกิจการที่ได้ประโยชน์ เช่น มีความต้องการจ้างผู้เชี่ยวชาญพิเศษ ก็อาจใช้ประโยชน์จากนโยบายรัฐข้อนี้ แล้วหาวิธีเตรียมไว้ว่าจะรับการถ่ายทอดความรู้อย่างไรได้บ้าง


2. เริ่มมีเพื่อนบ้านชาวต่างชาติมากขึ้น


กฎหมายไทยอยู่ระหว่างพิจารณาข้อกำหนดผ่อนปรนให้ชาวต่างชาติ 4 กลุ่มสามารถอยู่เมืองไทยได้มากขึ้น อาจจะซื้อบ้านราคา 10 ล้านบาทขึ้นไปได้ รวมถึงอัตราส่วนการเป็นเจ้าของคอนโดบางแห่งที่เคยกำหนดโควต้าผู้ซื้อชาวต่างชาติไว้ที่ 49% ของจำนวนยูนิตทั้งหมด อาจต้องปรับเปลี่ยนเพิ่มขึ้น ดังนั้นเป็นไปได้ว่า อนาคตเพื่อนบ้านร่วมตึก หรือสิ่งแวดล้อมรอบตัวคุณ อาจกลายเป็นชุมชนชาวต่างชาติหนาแน่นกว่าเดิม แน่นอนว่าอาจกระทบเรื่องของวัฒนธรรมในการอยู่ร่วมกัน แต่หากพิจารณาให้ดีทุกวันนี้ ชุมชนคอนโดใจกลางเมืองก็แทบจะกลายเป็นศูนย์กลางชาวต่างชาติอยู่แล้ว เพียงแต่พวกเขาพักอาศัยในรูปแบบเช่าเป็นส่วนใหญ่


3. ได้แลกเปลี่ยนทักษะและ Know-How


ทุกอย่างมี 2 มุมเสมอ หลายคนอาจวิตกว่าคนต่างชาติจะมาแย่งงานในประเทศ ทว่าข้อดีที่ปฏิเสธไม่ได้คือเราจะได้การแลกเปลี่ยนทักษะ โนฮาว และความเชี่ยวชาญใหม่ๆ ได้ขัดเกลาเหลาฝีมือไปอีกขั้น ปูทางสู่การคิดค้นนวัตกรรมที่ผ่านการปรับแต่งในเป็นบริบทของตัวเอง จนทำให้เกิด สินค้าใหม่ การบริการใหม่ เทคโนโลยีใหม่ หรือวิถีการใช้ชีวิตแบบใหม่ขึ้นมา มองในแง่ดีก็เหมือนได้จูนโลกเข้ามาอยู่ใกล้ตัว แบบไม่ต้องลงแรงเดินทางไปเอง


4.  มั่นใจในความเป็นตัวเองและเปิดรับความต่าง


หมดยุคที่เจอชาวต่างชาติแล้วจะวิ่งหนี เพราะโอกาสดีๆ จะลับหายตามไปด้วย จงสลัดทิ้งความขวยเขินไม่กล้าสื่อสารความคิดของเรา เพราะทัศนคติของผู้คนในโลกตะวันตกนั้น เขาพร้อมที่จะรับฟังอยู่แล้ว และอาจยินดีที่จะได้เรียนรู้ แลกเปลี่ยน นำไปสู่การยอมรับความแตกต่างระหว่างกันให้ได้ ทั้งวิธีคิด กระบวนการทำงาน หรือวัฒนธรรม

foreign-next-door-01

5. โลกนี้ไม่มีมีใครด้อยกว่าใคร มีแต่ความหลากหลาย


บางครั้งคนจากต่างถิ่นอาจเติบโตมาในบริบทสิ่งแวดล้อมไม่เหมือนกัน ฝั่งนั้นพร้อมกระโจนสู่สิ่งใหม่ ขณะที่อีกฝั่งยังรักษาคุณค่าฉบับดั้งเดิมไว้ แต่เมื่อผู้คนทั้ง 2 โลกต้องมาอยู่ร่วมกัน โปรดอย่ามองว่าเขาเหนือล้ำหรือด้อยกว่าเรา หรืออย่ามองว่าเรามีการพัฒนาที่ช้ากว่า เพราะแท้จริงไม่มีใครเหมือนใครได้กันไปได้ทุกอย่าง แต่ลองเฟ้นหาข้อดีของแต่ละฝ่ายมาปรับจูน สิ่งที่ดีให้รับมา แต่สิ่งไหนที่เราคิดว่ายังมีค่าก็ต้องถนอมรักษาไว้ให้แน่นๆ


6. แลกเปลี่ยนได้ แต่ไม่ได้เอาเปรียบกัน


ไม่ว่าจะเป็นเจ้าบ้านหรือแขกที่เข้ามาในประเทศ ถ้ายืนบนพื้นฐานที่ต่างช่วยเหลือกันมากกว่าคอยเอาประโยชน์หรือจ้องแต่จะเอาเปรียบกัน ก็จะอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข เพราะถ้ามัวคิดถึงแต่ผลตอบแทน อาจทำให้เราพลาดสิ่งที่เงินทองซื้อไม่ได้ เช่น เพื่อนใหม่ หรือมิตรภาพ ความประทับใจระยะยาวที่อาจจำเป็นและเราต้องพึ่งพาในอนาคต เมื่อถึงคราวต้องติดต่อสื่อสารไปยังบ้านของเขา บางครั้งการที่ยอมได้ประโยชน์น้อยกว่าในวันนี้ อาจกลายเป็นสิ่งที่มีคุณค่าในระยะยาวก็เป็นได้


7. ได้เพิ่มงานอดิเรกหรืออาชีพใหม่


การเข้ามาอาศัยของชาวต่างชาติ ทำให้ได้เรียนรู้วัฒนธรรม พฤติกรรมและวิถีชีวิต จนเห็นว่าอะไรคือสิ่งจำเป็นที่จะมาช่วยตอบโจทย์ในชีวิตประจำวัน วันหนึ่งอาจกลายเป็นแรงผลักดันทำให้เกิดไอเดียใหม่ ผลิตสิ่งที่มาตอบความต้องการให้กับแขกที่มาเยือนได้ จนกลายเป็นงานอดิเรกที่ช่วยสร้างรายได้เสริม หรือเห็นช่องทางในการสร้างอาชีพใหม่ได้เช่นกัน


จะเห็นได้ว่า การเปลี่ยนแปลงของผู้มาเยือนนั้น อาจเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้พัฒนาทักษะของตัวเองและสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ขึ้นมาบนโลกนี้ ขอแค่อย่ากลัว และตั้งรับดีๆ โอกาสใหม่ๆ ในด้านธุรกิจและคุณค่าอื่นๆ ที่จับต้องไม่ได้ แต่มีความหมายต่อชีวิตจะเดินเข้ามาแน่นอน


ที่มา
https://www.prachachat.net/property/news-684609
https://workpointtoday.com/explainer0920/
https://thestandard.co/foreign-real-estate-ownership-in-thailand/
https://www.ddproperty.com/คู่มือซื้อขาย/ต่างชาติ-4-กลุ่มหลัก-ซื้อที่ดินในไทยได้-49920