เทคนิคคนธรรมดา ส่งสินค้าขึ้นแท่นดาราใน e-Commerce

เมื่อ Marketplace หรือตลาดซื้อขายแบบอีคอมเมิร์ซ (e-Commerce) ขี่ม้าขาวเข้ามาช่วยให้พ่อค้าแม่ขายคนธรรมดาได้สวมบทเป็นผู้ขาย มีลูกค้าหลักล้านหมุนเวียนมาเยี่ยมชม แต่หากเดิมดุ่มแบบไร้กลยุทธ์ คงจะเสียงดังไม่พอสู้กับนักขายมือทองหรือเหล่าคนมีชื่อเสียง แล้วจะทำอย่างไรให้สินค้าของเราเฉิดฉายเหมือนมีสปอตไลท์ส่อง ลองมาโฟกัสกับหมากเดินในแบบฉบับของตัวเองกันดีกว่า


1. วิเคราะห์ตัวเองให้นิ่ง เพื่อยิงตรงสู่กลุ่มเป้าหมาย


อันดับแรกคือการสำรวจตัวเองให้แน่ชัดว่า มีความเข้าใจตัวสินค้าดีพอหรือยัง ควรรู้ทั้งข้อดีหรือข้อจำกัด และบ่งชี้ความแตกต่างจากผู้ขายรายอื่นได้ เพราะข้อมูลเหล่านี้จะทำให้เห็นภาพต่อเนื่องว่า เหมาะกับกลุ่มลูกค้ารายไหน


2. ตกผลึกสินค้าตัวเอง แล้ววางตำแหน่งให้ถูก


อยากให้รับรู้เรื่องราวหรือผลิตภัณฑ์ หรือเน้นสร้างยอดขาย เป็นสินค้าสไตล์แตกต่างหรือเป็นสินค้าในกระแสความต้องการ คุณควรวางตำแหน่งให้ถูกก่อน จากนั้นหาวิธีการไปถึงเป้า เช่น ปรับวิธีการขายเป็นสไตล์ หรือสร้างตัวตนให้ผู้บริโภคจดจำ  จากนั้นเน้นการโปรโมตต่อเนื่อง โดยวางแผนช่องทางในการนำเสนอที่เข้าถึงกลุ่มลูกค้า

how-to-become-ecommerce-star-01

3.เลือกแพลตฟอร์มออนไลน์ที่ใช่


เพราะแต่ละแพลตฟอร์มมีเทคนิคการทำตลาดและนำเสนอข้อมูลต่างกันออกไป ต้องตีโจทย์ให้ชัดว่า จะสร้างการจดจำหรือสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จัก เน้นความน่าเชื่อถือ หรือมุ่งที่การเรียกยอดขาย เป้าหมายที่ต่างกันจะนำไปสู่การเลือกช่องทางที่เหมาะสม เช่น สินค้าที่ลงในสื่อสังคมออนไลน์ อาจลงรูปภาพหรือคำโฆษณาเรียกยอดขายได้ แต่ทางที่ดีควรมีเว็บไซต์ของตัวเอง เพื่อให้ลูกค้าดูข้อมูลเชิงลึกประกอบการตัดสินใจ รวมถึงควรใช้เครื่องมือที่แต่ละแพลตฟอร์มมีให้ครบ เช่น สตอรีในเฟสบุ๊กและอินสตราแกรม จะช่วยเจาะฐานลูกค้าใหม่ได้ดี


4.นำเสนอสินค้าอย่างดึงดูดและสะดุดใจ


ยิ่งมีต้นทุนเรื่องชื่อเสียงที่น้อยกว่าคนอื่นอยู่แล้ว ดังนั้น ควรให้ความสำคัญกับรูปภาพที่สื่อสารได้ดีที่สุด หรือคอนเทนต์ข้อความที่ตรงและกระชับ สร้างสรรค์ได้อย่างแตกต่างแต่น่าสนใจ จนทำให้คนที่กำลังเลื่อนดูข้อมูลหลากหลายต้องสะดุดกับสิ่งที่เรานำเสนอ อาจใช้เครื่องหมายแฮชแท็กเพื่อไม่ให้การโพสต์หรือการขายจมไปกับสินค้าที่มีความคล้ายกัน


5.กำหนดเป้าหมายสร้างออร่าให้ตัวเอง


อยากให้ลองตั้งเป้าสร้างออร่าให้ตัวเอง เช่น ลองเป็นผู้มีอิทธิพลทางความคิดในออนไลน์ โดยกำหนดเป้าผู้ติดตาม เพราะการสร้างความท้าทายและวัดผลได้ เช่น เริ่มต้นการเป็น Nano Influencer มีผู้ติดตาม 1,000–5,000 ราย ภายในระยะเวลาที่กำหนด แล้วมุ่งสู่ระดับ Micro Influencer ที่มีผู้ติดตาม 5,000–100,000 ราย หรือ Macro Influencer มีผู้ติดตามตั้งแต่ 100,000 รายขึ้นไป ซึ่งปกติ Influencer มีความเกี่ยวข้องเรื่องไลฟ์สไตล์เป็นหลัก ไม่แน่ว่าสิ่งที่ได้ทดลองครั้งนี้ อาจทำให้คุณขึ้นแท่นผู้มีอิทธิพลชี้นำความคิด (Key Opinion Leader) หรือ KOL ซึ่งมีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านก็ได้ ถึงเวลานั้น จะตะลุยตลาดอีคอมเมิร์ซเหมือนคนมีชื่อเสียงก็คงไม่ยากเกินไป

7. ไม่ทิ้งโปรโมชั่นนาทีทองของ Marketplace


แม้เราจะเป็นคนจะแสนธรรมดา ไม่ได้อยู่ในตารางที่เป็นคลับเซเลบริตี้ให้มาโชว์ซื้อขายสินค้าช่วงนาทีทอง แต่ต้องเตรียมตัวสร้างแคมเปญด้วยตัวเอง และไม่หลุดกระแสโปรโมชั่นในวาระสำคัญที่ Marketplace จัดอยู่เรื่อยๆ อย่างช่วง 11.11 หรือ 12.12 เพราะไม่อย่างนั้นขาช้อปที่กวาดตามองหาโปรโมชั่น อาจเลื่อนผ่านคุณไปง่ายๆ


ที่ผ่านมาโอกาสของโลกอีคอมเมิร์ซได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า คนธรรมดาคนหนึ่งก็กลายเป็นนักขายมือทองได้ ปัจจัยความสำเร็จร่วมสู่การเป็นนักขายมืออาชีพ คือการสร้างจุดขายที่ไม่เหมือนใคร และมีความเข้าใจในสินค้าที่ตัวเองกำลังนำเสนอ ด้วยการบอกเล่าเรื่องราวที่น่าสนใจผ่านช่องทางออนไลน์ต่างๆ ที่มีอยู่ได้อย่างเหมาะสม


ที่มา

https://www.thaibusinesssearch.com/marketing/influencer-marketing
https://ecommerce-platforms.com/th/ecommerce-selling-advice/ultimate-epic-guide-successful-online-shop
https://today.line.me/th/v2/article/kJg9v1
https://brandinside.asia/influencer-online-marketing-replacement
https://undubzapp.com/เทคนิค-เซเลบig
https://www.primal.co.th/th/social/what-is-kols/