จ่ายบิลผิด ชีวิตยังมีทางออก

การทำธุรกรรมการเงินผิดพลาดที่พบเจอกันได้บ่อยคือ “การจ่ายบิลผิด” ซึ่งมีที่มาจากหลายสาเหตุ เช่น การค้นหาชื่อบริษัท (Biller) แล้วเลือกจ่ายบิลผิด Biller, การใส่เลขบัญชีไม่ถูกต้อง (กรอกตัวเลขสลับกัน กรอกไม่ครบ) หรือระบุ Comp Code / Reference ไม่ถูกต้อง  รวมถึงความรีบร้อนในการทำรายการจนลืมตรวจสอบชื่อ Biller ปลายทางก่อนกดยืนยันการจ่ายบิล ซึ่งเมื่อเกิดการจ่ายบิลผิด Biller แล้ว หากไม่เคยทำธุรกรรมกับ Biller รายนั้น ท่านอาจจะต้องเสียเวลาในการติดต่อประสานงานกับ Biller หรือผู้รับเงินอีกด้วย


สำหรับการจ่ายบิลผิด ตามกฎหมายแล้ว ธนาคารจะไม่สามารถโอนเงินคืนให้แก่ผู้ชำระ หาก Biller หรือผู้รับเงินไม่ยินยอม เพราะธนาคารไม่มีสิทธิ์ในการดึงเงินออกจากบัญชีโดยพลการ อย่างไรก็ตาม ธนาคารจะเป็นตัวกลางช่วยประสานงานขอคืนเงินให้ ซึ่งหากท่านเป็นผู้ชำระ และต้องการให้ธนาคารช่วยประสานงาน สามารถทำได้ดังนี้

bill-payment

เงื่อนไขการให้บริการ

1. ท่านจะต้องนำส่งเอกสารหลักฐานประกอบการขอเงินคืนจากผู้รับเงินตามที่ระบุไว้ในตารางด้านล่างนี้ พร้อมลงลายมือชื่อรับรองสำเนาถูกต้องให้แก่ธนาคาร โดยท่านขอรับรองว่า เอกสารที่ให้ไว้ต่อธนาคารตามรายละเอียดด้านล่างนี้ ถูกต้อง ครบถ้วน และเป็นจริงทุกประการ

กรณีบุคคลธรรมดา กรณีนิติบุคคล
  • ใบแจ้งหนี้ / ใบแจ้งยอดชำระเงิน (Pay-In)
  • หลักฐานการทำรายการ เช่น ภาพหน้าจอการทำรายการ หรือ Slip เป็นต้น
  • สำเนาเอกสารแสดงตน เช่น บัตรประจำตัวประชาชน หรือ หนังสือเดินทาง เป็นต้น (โดยขอให้ปิดทับข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว ได้แก่ ศาสนา และกรุ๊ปเลือด ที่ปรากฏในเอกสารดังกล่าว (ถ้ามี) ก่อนนำส่งให้ธนาคาร)
  • ใบแจ้งหนี้ / ใบแจ้งยอดชำระเงิน (Pay-In)
  • หลักฐานการทำรายการ เช่น ภาพหน้าจอการทำรายการ หรือ Slip เป็นต้น
  • สำเนาเอกสารแสดงตนของกรรมการผู้มีอำนาจลงนาม หรือผู้รับมอบอำนาจ เช่น บัตรประจำตัวประชาชน หรือ หนังสือเดินทาง เป็นต้น (โดยขอให้ปิดทับข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว ได้แก่ ศาสนา และกรุ๊ปเลือด ที่ปรากฏในเอกสารดังกล่าว (ถ้ามี) ก่อนนำส่งให้ธนาคาร)
  • สำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล (อายุไม่เกิน 6 เดือน)

กรณีบุคคลธรรมดา: กรุณาส่งเอกสารหลักฐานประกอบการขอเงินคืนตามข้อ (1) มายังธนาคาร ภายใน 3 วันทำการ โดยท่านสามารถส่งเอกสารมายังช่องทางต่อไปนี้ E-mail : Customer_Service@scb.co.th, LINE SCB Connect หรือ Fax 02-7776767 กด 4

กรณีนิติบุคคล: กรุณาส่งเอกสารหลักฐานประกอบการขอเงินคืนตามข้อ (1) มายังธนาคาร ภายใน 3 วันทำการ โดยท่านสามารถส่งเอกสารมาที่ E-mail : contact_business@email.scb.co.th

2. ธนาคารไม่มีอำนาจระงับการเบิกถอนเงินในบัญชีเงินฝากของผู้รับเงิน หรือให้ข้อมูลเกี่ยวกับผู้รับเงินแก่ท่านแต่อย่างใด


3. ธนาคารเป็นเพียงผู้ประสานงานไปยังผู้รับเงินเท่านั้น หากธนาคารได้ติดต่อและประสานงานไปยังผู้รับเงินแล้ว แต่ไม่ได้รับเงินจากผู้รับเงิน ไม่ว่าด้วยเหตุใดก็ตาม ท่านจะต้องเรียกร้องหรือขอเงินคืนกับผู้รับเงินด้วยตนเอง โดยหากท่านมีข้อต่อสู้ และ/หรือสิทธิเรียกร้องใด ๆ ต่อผู้รับเงิน ท่านตกลงจะไปว่ากล่าวกับผู้รับเงินโดยตรง


4. ท่านจะต้องปฏิบัติตามระเบียบและวิธีปฏิบัติที่เกี่ยวข้องของธนาคารสำหรับการดำเนินการตามความประสงค์ของท่าน ซึ่งรวมถึงการชำระค่าธรรมเนียม หรือค่าบริการ (ถ้ามี) ทุกประการ


5. หากเกิดความเสียหายใด ๆ กับธนาคาร อันเนื่องจากการที่ธนาคารดำเนินการตามความประสงค์ของท่าน ท่านจะต้องยินยอมรับผิดชอบในความเสียหายที่เกิดขึ้นทั้งสิ้น


6. ธนาคารจะมีการเปิดเผยข้อมูล และเอกสารหลักฐานประกอบการขอเงินคืนของท่านตามข้อ (1) ให้แก่ผู้รับเงิน เพื่อประกอบการพิจารณาขอคืนเงิน โปรดอ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับประกาศนโยบายความเป็นส่วนตัวของธนาคารอย่างละเอียด เพื่อเข้าใจถึงวิธีการที่ธนาคารเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลและสิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ธนาคารประกาศผ่านทางเว็บไซต์ของธนาคารที่ www.scb.co.th และ/หรือช่องทางที่ธนาคารจะเปลี่ยนแปลงในภายหน้า ทั้งนี้ กรณีที่ท่านได้มีการให้ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลอื่น ท่านมีหน้าที่แจ้งให้บุคคลดังกล่าวทราบถึงรายละเอียดการเก็บรวบรวม การใช้ และการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลและสิทธิตามประกาศนโยบายความเป็นส่วนตัวดังกล่าว


7. ในกรณีที่ท่านได้ลงนามและนำส่งเอกสารใด ๆ ให้แก่ธนาคารโดยวิธีการ Scan หรือส่งมายัง E-mail Address, LINE SCB Connect หรือเครื่องโทรสารของธนาคาร ตามที่ธนาคารแจ้งให้ทราบ ท่านตกลงให้ธนาคารมีสิทธิดำเนินการตามเอกสารที่ธนาคารได้รับโดยวิธีการดังกล่าวนั้นทันที โดยท่านตกลงว่าเอกสารดังกล่าวเสมือนเป็นต้นฉบับทุกประการ

ขั้นตอนการดำเนินการ


เมื่อธนาคารได้รับข้อมูลครบถ้วนแล้ว ธนาคารจะช่วยประสานงานกับ Biller หรือผู้รับเงิน ภายใน 14 วันทำการ เมื่อครบกำหนด ธนาคารจะติดต่อท่านเพื่อแจ้งผลการดำเนินการ ดังนี้

  • กรณี Biller ยินยอมคืนเงิน : ธนาคารจะโอนเงินคืนเข้าบัญชีของท่านที่ใช้ชำระเงิน

  • กรณี Biller ไม่ยินยอมคืนเงิน/ไม่สามารถติดต่อได้ : ธนาคารจะแนะนำขั้นตอนถัดไปให้ท่านทราบ

ข้อแนะนำจากธนาคาร

วิธีป้องกันการจ่ายบิลผิด Biller ที่ดีที่สุด ก็คือการสแกนจ่ายจากใบแจ้งยอดชำระเงินที่ทาง Biller จัดส่งให้ เมื่อสแกนจ่ายแล้ว ธนาคารแนะนำให้ท่านตรวจสอบชื่อ Biller, หมายเลขอ้างอิงหรือหมายเลขบัญชี, และจำนวนเงินที่ต้องการชำระเงินให้ถูกต้องทุกครั้งก่อนกดยืนยันเพื่อทำรายการ  นอกจากนี้ เมื่อสแกนจ่ายสำเร็จแล้ว ธนาคารแนะนำให้ท่านบันทึกรายการชำระบิลเหล่านั้นเป็นรายการโปรด เพื่อความสะดวก รวดเร็ว และความถูกต้องสำหรับการชำระในครั้งถัดๆ ไป