ห้องเรียน-ห้องประชุมเสมือนจริง แบบไหนตรงใจคุณมากกว่า

เบื่อห้องประชุมหรือ? ปัจจุบันสามารถเราสามารถเรียนรู้ทักษะนอกห้องเรียนและนั่งทำงานอยู่ส่วนไหนของโลกก็ได้ทั้งสิ้น มีสถิติระบุว่าภายใน 2035 คนที่มีไลฟ์สไตล์ทำงานตามสถานที่ต่างๆ ทั่วโลกขอเพียงแค่มีอินเทอร์เน็ต (Digital Nomad)  จะสูงกว่า 1,000 ล้านคนทั่วโลก


ไม่ว่าคุณจะต้องหันมาใช้แพลตฟอร์มการประชุมสัมมนา ด้วยความจำเป็นด้านการเว้นระยะห่างทางสังคม ในภาวะที่มีโรคติดต่อระบาดมาประชิด หรือเป็นเพียงการใช้เทคโนโลยีมาช่วยอำนวยความสะดวกเพิ่มประสิทธิภาพ  แต่ไหนๆ จะต้องพึ่งพาเครื่องมือเหล่านี้ทั้งทีแล้ว การเลือกให้ตอบโจทย์ตรงความต้องการย่อมมีชัยไปกว่าครึ่ง


1 .Online Meeting ประชุมระดับอบอุ่นปานกลาง


การประชุมแบบออนไลน์ ระหว่างต้องเก็บตัวทำงานอยู่ที่บ้าน น่าจะเป็นเรื่องคุ้นชินของหลายคนไปแล้ว โดยปัจจุบันมีโปรแกรมรับผู้เข้าร่วมตั้งแต่หลักหน่วยไปถึงหลักร้อย แพลตฟอร์มวิดีโอคอนเฟอเรนซ์สำหรับประชุมทางไกล มีเพียงอินเทอร์เน็ตและสมาร์ทโฟนก็สามารถรับส่งข้อมูล ภาพ และเสียงบนหน้าจอได้ แถมแชร์หน้าจอของเราให้ทุกคนดูได้ ขณะที่ทุกคนสามารถโต้ตอบระหว่างกัน ไม่ว่าจะเป็น Microsoft Teams, Google Hangouts หรือ ZOOM ฯลฯ แต่ละหน่วยงานจะเลือกใช้แบบฟังก์ชั่นฟรีหรือแบบเสียสตางค์ตามความต้องการพิเศษเฉพาะ แต่รายละเอียดความแตกต่างของแอปพลิเคชันก็จะครอบคลุมต่างกันไป ข้อจำกัดสำหรับการใช้สิ่งนี้น่าจะเป็นเรื่องการบริหารจัดการเวลาส่วนตัวมากกว่า เพราะทำงานได้ทุกที่ก็แสดงว่าพร้อมประชุมได้ทุกเวลานั่นแหละ

virtual-meeting-01

2. Live Streaming เรียนรู้แบบไม่มีความลับ


ถือเป็นการปฏิวัติการสื่อสารที่ทำให้ทุกพื้นที่สามารถจัดรายการสดได้อย่างไร้ขอบเขต ไร้ข้อจำกัดด้านเวลาหรือสถาน สามารถสื่อสารได้แบบเรียลไทม์ ถือเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับคนที่ต้องที่การพัฒนาทักษะ เรียนรู้สิ่งที่อยู่นอกห้องเรียนเพิ่มเติมได้ไม่มีกำหนด ที่สำคัญคือจะกลับมาดูซ้ำกี่รอบก็ได้ ยิ่งทำให้เห็นรายละเอียดหรือมุมมองที่มากขึ้น แต่ข้อจำกัดอาจอยู่ตรงที่ไม่มีความเป็นส่วนตัวในการตอบหรือถามคำถามต่างๆ และทุกอย่างจะถูกบันทึกไปในทันที


3.  Webinar สำหรับคนสนใจหัวข้อที่ตรงจุด


ชื่อเป็นตัวบอกที่ชัดเจนแล้วว่า เหมาะสำหรับคนที่สนใจและร่วมเข้าฟังสัมมนาในหัวข้อเดียวกัน โดยผู้จัดจะให้ล็อกอินสำหรับคนคอเดียวกัน ร่วมฟังทั้งแบบถ่ายทอดสดที่ให้โต้ตอบกันได้เลย หรือทั้งแบบมาย้อนดูภายหลังก็แล้วแต่ผู้จัดงาน แต่ในรูปแบบนี้ ฟังก์ชั่นการโต้ตอบจากคนทางบ้านอาจไม่ได้รับการตอบสนองมากนัก เพราะหัวใจหลักอยู่กับหัวข้อและผู้พูดมากกว่า

4 .ออนไลน์มากแค่ไหน อย่าลืมออฟไลน์ชีวิต


แม้เทคโนโลยีทำให้การเรียนรู้หรือการประชุมสะดวกทุกที่ทุกเวลา แต่การเพื่อเจอกันแบบตัวเป็นๆ ได้เห็นหน้าค่าตา ได้สนทนาตัวต่อตัวระหว่างเพื่อนร่วมงาน หัวหน้า หรือผู้แนะนำการสอน สร้างปฏิสัมพันธ์แลกเปลี่ยน ย่อมดีกว่าแน่นอน เพราะยังมีภาษากาย บริบทของท่าทาง การเคลื่อนไหว และบรรยากาศการเรียนหรือการประชุมที่มีชีวิตชีวากระตุ้นความสนใจของสมาชิกได้มากกว่าเป็นไหนๆ อย่าลืมหาเวลาพบเจอกันแบบออฟไลน์บ้าง เพราะเสน่ห์ของสิ่งมีชีวิต คือการได้เห็นชีวิตแสดงออกและเคลื่อนไหวเป็นสำคัญ


เมื่อเราปฏิเสธโลกออนไลน์ไม่ได้ อย่างน้อยการเลือกใช้โลกออนไลน์ให้เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตเราได้ตรงกับความต้องการ และรู้เท่าทัน ก็น่าจะทำให้ชีวิตออนไลน์และออฟไลน์ของแต่ละคนสมดุลกันได้อย่างดีทีเดียว


ที่มา
https://www.facebook.com/thailivestream/posts/520320121458553
https://today.line.me/th/v2/article/ระบบ+Video+Conference+ที่ดีสำหรับการทำงานจากที่บ้าน+Work+from+Home+มีอะไรบ้าง-YNr1Bj
https://www.anet.net.th/a/46524
https://onceinlife.co/digital-nomad
http://teleconferencemethod.blogspot.com/2014/10/webinar.html