ผู้สูงอายุในภาพจำแบบเดิม คือปู่ย่าตายายที่อยู่บ้านช่วยเลี้ยงหลาน ปลูกต้นไม้ รำไทเก๊ก ทว่าคนกลุ่มเบบี้ บูมเมอร์ ในศตวรรษที่ 21 ที่เพิ่งถอดเครื่องแบบเกษียณจากวัยทำงาน ยังมีทั้ง “กำลังกาย” และ “กำลังทรัพย์” ที่สำคัญคือ “เวลา” ที่เหลือเฟือเกินกว่าจะจำกัดตัวเองอยู่ในกิจกรรมแบบเดิมๆ

เมื่อคนรุ่นลูกกำลังพันตูกับหน้าที่การงานแสนยุ่งเหยิง บริการทัวร์สำหรับผู้สูงอายุ จึงกลายเป็นทางเลือกที่ผุดขึ้นมาให้อุ่นใจว่า หากปล่อยพ่อแม่ไปเดินทางท่องเที่ยวเอง จะมีความปลอดภัยและเหมาะกับช่วงวัยที่ต้องการการดูแลเป็นพิเศษ แต่ควรจะต้องมีอะไรบ้างนั้น ตามมาดูกัน

1. แหล่งท่องเที่ยวเป็นมิตรกับวัยเก๋า

แหล่งท่องเที่ยวที่คัดสรรมา ต้องผ่านการสำรวจสถานที่จากบริษัทนำเที่ยวให้ถี่ถ้วนก่อนว่า มีทางเดิน ทางลาด และจุดนั่งพัก ที่เป็นมิตรต่อนักท่องเที่ยวที่ไม่คล่องแคล่วเท่าคนหนุ่มสาวหรือไม่ แต่ละจุดควรมีป้ายบอกทางชัดเจน มีระบบดูแลความปลอดภัยต่างๆ ครบครัน หรือมีมัคคุเทศก์คอยให้ข้อมูล และที่สำคัญควรมีบริการห้องน้ำสะอาดในเส้นทางอย่างสม่ำเสมอ โดยโปรแกรมนำเที่ยว ควรจัดการแวะพักสุขามากกว่ากรุ๊ปทัวร์ทั่วไป

2. เน้นคุณภาพความปลอดภัยมากกว่าราคา

กลุ่มลูกค้าสูงวัยมักให้ความสำคัญกับคุณภาพ ความปลอดภัย ที่คุ้มค่ากับเงินที่จ่าย มากกว่าพิจารณาราคาถูกเป็นที่ตั้ง บริการทัวร์หลายแห่งที่จับกระแสเป็น จะรู้จักชูจุดเด่นรับเพื่อตลาดนี้โดยเฉพาะเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม เช่น รายการอาหารที่เหมาะกับผู้สูงอายุ งดไขมัน ลดเค็ม ลดหวาน จัดปริมาณให้เหมาะสม และมีคุณค่าทางโภชนาการครบ บางโปรแกรมอาจจัดรถบัสที่มีความหนาแน่นของที่นั่งน้อยลง จำกัดความเร็วของรถ และจัดให้พนักงานประจำกรุ๊ปทัวร์มีความรู้เรื่องการปฐมพยาบาลเบื้องต้นโรคยอดฮิตในกลุ่มผู้สูงวัยด้วย

3. ทัวร์ไม่แน่น เดินทางไม่โหด

สถานที่ท่องเที่ยวแต่ละแห่ง ไม่ควรห่างจากตัวเมือง และไม่ควรมีที่ตั้งแต่ละจุดห่างกันจนต้องนั่งรถยาวนานเกินไป หากเป็นทัวร์ที่ต้องพักค้างแรม มากที่สุดคือ 3 วัน 2 คืน และเลือกโรงแรมที่เน้นความปลอดภัยสูง จัดตารางให้ออกเดินทางช่วงเช้า และกลับเข้าที่พักเร็วขึ้น เพื่อให้ผู้สูงวัยได้พักผ่อนซ่อมร่างเต็มที่

จุดหมายควรเน้นแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติสวยงาม มีเรื่องราวประวัติศาสตร์ ศิลปวัฒนธรรม ประเพณีวิถีชีวิตท้องถิ่น ที่มักโดนใจผู้สูงวัยมากกว่าสถานที่ยอดนิยมแต่แออัด แต่อย่าลืมสอดแทรกแหล่งค้าขาย ให้นักท่องเที่ยวกระเป๋าหนักได้ละลายทรัพย์ จับจ่ายของฝากไปให้ลูกหลานที่บ้าน อันนับเป็นความสุขอย่างหนึ่งของพวกเขา

4. โปรแกรมทัวร์ประทับใจ พาย้อนวัยรำลึกความหลัง

จากการสำรวจพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวสูงวัย มีจำนวนไม่น้อยระบุว่า ตัวเองชื่นชอบการเดินทางระยะสั้น และได้ไปเยี่ยมเยียนสถานที่เดิมๆ ที่มีความทรงจำมากกว่าแสวงหาแหล่งท่องเที่ยวแปลกใหม่ ดังนั้น หากโปรแกรมทัวร์ไหนตอบสนองความต้องการนี้ พาย้อนวันวานที่คนรุ่นนี้อาจหลงลืมไปแล้ว อาจสร้างความสุขเรียบง่ายแต่ประทับใจได้เช่นกัน

5. มีกิจกรรมสร้างความสุขจากการแบ่งปัน

เนื่องจากคนวัยนี้มีทั้งประสบการณ์ ความรู้ กำลังทรัพย์ และมีหัวใจที่ยังกระตือรือร้น อยากมีส่วนแบ่งปันสิ่งเหล่านั้นให้กับสังคม ดังนั้นโปรแกรมทัวร์ที่ชูจุดขายเรื่องนี้ จึงได้รับความสนใจไม่แพ้กัน โดยเฉพาะการสอดแทรกกิจกรรมจิตอาสา ที่สร้างความหมายและคุณค่าให้กับการเดินทาง เช่น การบริจาค การนำต้นกล้าลงปลูกในพื้นที่ป่า การสอนหนังสือให้เด็กๆ ในโรงเรียนหรือชุมชนต่างๆ เป็นต้น

แม้ว่าทัวร์ผู้สูงอายุจะเติมเต็มความสุขในวันว่าง ขณะที่ลูกหลานสบายใจในเรื่องความปลอดภัยได้ แต่อย่าลืมว่าการได้ออกเดินทางท่องเที่ยวด้วยกันแบบครอบครัว ย่อมเป็นสิ่งที่เติมเต็มจิตใจผู้สูงอายุได้อิ่มเอมกว่าการไปเที่ยวเองเป็นไหนๆ

ที่มา
http://www.sri.cmu.ac.th/~ctrd/uploads/files/file_20171206_1512542336.pdf