ชวนแม่-ลูกมอบความห่วงใยด้วยผลิตภัณฑ์ประกัน ตอบโจทย์ความมั่นคงในอนาคต

ในช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน การวางรากฐานความมั่นคงให้อนาคตของลูกก็เป็นเรื่องที่คนเป็นแม่ยิ่งให้ความสำคัญและต้องการตัวช่วยในการตัดสินใจสำหรับทางเลือกที่หลากหลาย เช่น การฝากเงิน การซื้อกองทุน การซื้อพันธบัตรรัฐบาล หรือบางทีอาจเป็นการลงทุนในทรัพย์สินทางเลือกอื่นที่อาจเพิ่มมูลค่าในอนาคตได้อย่างที่ดินและทองคำ เป็นต้น


‘ประกันชีวิต’ ตอบโจทย์ความอุ่นใจ ดูแลอนาคตลูกได้ทั้งสุขภาพกายและสุขภาพการเงิน


หนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับคุณแม่ กับแนวทางการสร้างเงินก้อนเล็กเป็นเงินก้อนโตได้ พร้อมเป็นหลักประกันที่มั่นคงให้กับลูก นั่นคือ ‘ประกันชีวิต’ คำถามที่พบบ่อยคือ แล้วจะเลือกประกันแบบไหน ในเมื่อในตลาดมีประกันหลายแบบเต็มไปหมด


คำแนะนำคือ ให้ตั้งต้นจากวัตถุประสงค์ก่อนว่าคุณแม่ต้องการอะไรจากประกันชีวิต หากคำตอบคือต้องการสร้างมรดกให้กับลูกยามเมื่อแม่ลาจาก ขอแนะนำ ประกันแบบตลอดชีพ เพราะประกันแบบนี้คุ้มครองระยะยาว เบี้ยประกันภัยค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับผลประโยชน์ที่ได้รับ เช่น ประกันที่ให้ความคุ้มครอง 99 ปี จ่ายเบี้ยระยะสั้น 5 ปี และได้รับเงินคืนเมื่ออายุ 99 ปี หรือเสียชีวิตก่อน ซึ่งประกันประเภทนี้จะมีเบี้ยประกันไม่สูงมาก แต่เมื่อเทียบกับเงินคืนเมื่อครบสัญญา หรือเงินความคุ้มครองเมื่อเสียชีวิต เรียกได้ว่ามีสัดส่วนที่สูงทีเดียว


หากต้องการเก็บเงินให้ลูกเพื่อเป็นทุนเรียนต่อปริญญาโท แนะนำ ประกันแบบสะสมทรัพย์ ที่มีระยะเวลาในการลงทุนใกล้เคียงกับจำนวนปีที่ลูกจะเข้าศึกษาระดับปริญญาโท เช่น ลูกอายุ 10 ปี จะศึกษาต่อเมื่ออายุ 25 ปี ก็สามารถเลือกแบบประกันที่ให้ความคุ้มครอง 15 ปี เพื่อเป็นหลักประกันการศึกษา ผลิตภัณฑ์ประกันแบบสะสมทรัพย์ยังสามารถเลือกแบบที่มีเงินคืนให้ระหว่างปี เพื่อจะได้นำเงินบางส่วนมาใช้ เมื่อครบกำหนดสัญญาก็ได้เงินครบกำหนด ที่จะช่วยสร้างความมั่นใจในผลประโยชน์ที่จะได้รับเป็นก้อนเมื่อเราได้วางแผนเพื่อตอบสนองต่อความจำเป็นใช้เงินในปีดังกล่าว


ข้อดีของประกันชีวิตคือคุณสามารถมั่นใจได้ว่าจะได้รับผลประโยชน์เต็มจำนวนอย่างที่ตั้งใจแน่นอน

daughter-and-mother-insurance-investment-01

ประกันสุขภาพ’ คุ้มครองร่างกายแม่ บรรเทาภาระลูก


ส่วนคุณแม่ที่กังวลเรื่องสุขภาพ ก็จะมีประกันสุขภาพที่ให้ความคุ้มครองหลากหลาย ซึ่งสามารถเลือกได้ตรงกับความต้องการ ในปัจจุบันนี้มีประกันสุขภาพคุ้มครองโรคร้ายแรง หรือค่ารักษาพยาบาลจากการเจ็บป่วยซึ่งมีแนวโน้มที่จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ประกันสุขภาพจะเข้ามาช่วยบรรเทาภาระในการรักษาตัว ในบางครอบครัวที่มีประวัติการเป็นโรคร้าย หากกังวลว่าจะเกิดมากกว่าหนึ่งโรค สามารถเลือกประกันที่ให้ความคุ้มครองโรคร้ายที่สามารถเคลมได้หลายครั้งจากการเจ็บป่วยกลุ่มโรคร้ายที่แตกต่างกัน เมื่อเคลมกลุ่มใดแล้วยังคงให้ความคุ้มครองต่อในโรคร้ายกลุ่มอื่นๆ ที่ยังไม่ได้เคลม หรือหากไม่เจ็บป่วยจากโรคร้ายก็ยังได้เบี้ยประกันภัยคืนเต็มจำนวน ก็จะเป็นแบบประกันที่ให้ความคุ้มครองที่คุ้มค่ามาก


‘สุดที่รัก
’ ของลูกตั้งแต่เล็กจนเติบใหญ่ คนที่ดูแลเราจะเป็นใครถ้าไม่ใช่แม่ ความจริงที่เราหนีไม่พ้น นั่นคือยิ่งเราโตขึ้นเท่าไร แม่ก็ยิ่งแก่ชราขึ้นเท่านั้น เราไม่อาจซื้อเวลาให้แม่อยู่กับเราตลอดไปได้ แต่เราสามารถซื้อความคุ้มครองสุขภาพให้กับคุณแม่ได้ โดยปัจจุบันนี้มีการยกระดับคุณภาพการรักษา เพื่อให้คุณแม่ได้เลือกใช้บริการจากโรงพยาบาลที่ไว้วางใจ


สำหรับท่านที่คิดว่าประกันสุขภาพเวลามีการเคลมประกันเมื่อเข้ารับการรักษามักคิดแยกค่าใช้จ่ายจุกจิก ต้องจ่ายเงินเพิ่มตลอด ปัจจุบันมีประกันสุขภาพแบบเหมาจ่ายตามผลประโยชน์สูงสุดต่อปี ช่วยให้ไม่ต้องจ่ายค่ารักษาเพิ่มหากค่าใช้จ่ายยังอยู่ในวงเงินผลประโยชน์ต่อปี ประกันสุขภาพลักษณะนี้จะมีความคุ้มครองทั้งกรณีเป็นผู้ป่วยนอก OPD หรือผู้ป่วยใน IPD ครบจบในกรมธรรม์เดียว เพื่อให้ความมั่นใจในการดูแลสุขภาพ


อีกหนึ่งประโยชน์ของลูกกตัญญูเมื่อซื้อประกันสุขภาพให้คุณแม่ คือสามารถนำเบี้ยประกันภัยมาลดหย่อนภาษีบุคคลธรรมดาได้ปีละไม่เกิน 15,000 บาท ตามประกาศกรมสรรพากรอีกด้วย


หมายเหตุ:
ผู้ซื้อควรทำความเข้าใจรายละเอียดความคุ้มครองและเงื่อนไขกรมธรรม์ก่อนตัดสินใจทำประกันทุกครั้ง


บทความโดย คุณณาตยา สุขุม EVP, ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงาน ผลิตภัณฑ์ประกัน สายงาน Bancassurance กลุ่มธุรกิจประกัน