วันเดย์ทริป เที่ยวอย่างมีสไตล์ ณ เมืองละโว้

เมืองละโว้หรือลพบุรีแม้จะเป็นจังหวัดเล็กๆ แต่แหล่งท่องเที่ยวไม่เป็นสองรองใคร ทั้งแบบธรรมชาติสวยใสกลางทุ่งทานตะวัน หรือใครจะท่องประวัติศาสตร์ก็มีสถานที่สำคัญอยู่เต็มเมือง หมุดหมายการเที่ยวครั้งนี้ไม่มีอะไรมาก เราจะไปเที่ยวอย่างมีสไตล์ที่เมืองละโว้ ประหนึ่งเหมือนได้ย้อนกลับไปอยู่ในยุคสมัยสมเด็จพระนารายณ์กันเลย


พระนารายณ์ราชนิเวศน์

พระราชวังแห่งนี้สมเด็จพระนารายณ์มหาราชโปรดให้สร้างขึ้นมาสำหรับเป็นที่แปรพระราชฐาน โดยให้สถาปนิกชาวฝรั่งเศสและอิตาลีเป็นคนออกแบบก่อสร้าง มีลักษณะทางสถาปัตยกรรมแบบไทยผสมตะวันตกที่สวยงามโดดเด่นอันแสดงถึงความรุ่งเรืองสูงสุด ถึงกับมีการพูดกันว่า นอกจากพระราชวังที่กรุงศรีอยุธยาแล้วไม่มีที่ใดงดงามเท่าที่นี่อีกแล้ว พระองค์จึงโปรดพระราชวังแห่งนี้มากถึงกับเสด็จมาประทับปีละ 8-9 เดือน ทรงมาประทับและว่าราชการงานเมืองด้วย เสมือนเป็นราชธานีที่สองรองจากกรุงศรีอยุธยา ทำให้เมืองลพบุรีกลับมามีบทบาทความสำคัญขึ้นอีกครั้ง จนกระทั่งพระองค์เสด็จสวรรคต พระราชวังแห่งนี้ก็ไม่มีพระมหากษัตริย์พระองค์ใดเสด็จมาประทับ จากพระราชวังที่ใหญ่โตสวยงามจึงถูกทิ้งร้างทรุดโทรมนับแต่บัดนั้นเป็นต้นมา จวบจนถึงรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 โปรดเกล้าฯ ให้บูรณะซ่อมแซมสร้างพระที่นั่งขึ้นใหม่ และพระราชทานนามว่า พระนารายณ์ราชนิเวศน์

พระราชวังแห่งนี้มีถึงสามชั้นด้วยกัน  เขตพระราชฐานชั้นนอกนั้นมีตึกพระเจ้าเหา อาคารสิบสองท้องพระคลัง ตึกเลี้ยงแขกเมือง อ่างเก็บน้ำ และโรงช้างหลวง


เขตพระราชฐานชั้นกลาง โดยบันทึกของชาวฝรั่งเศสกล่าวว่า เขตพระราชฐานชั้นกลางนั้นสวยงามกว่าเขตพระราชฐานชั้นนอกอย่างหาที่เปรียบมิได้ มีพระที่นั่งในสมัยนั้นเพียง 2 องค์คือ พระที่นั่งจันทรพิศาลเป็นที่ประทับออกว่าราชการแผ่นดินและเป็นที่ประชุมองคมนตรี พระที่นั่งดุสิตสวรรค์ธัญญมหาปราสาทมีลักษณะเป็นท้องพระโรง พระที่นั่งองค์นี้มีความโอ่อ่าวิจิตรตระการตา เพราะเป็นสถานที่เสด็จออกเพื่อต้อนรับคณะราชทูตต่างประเทศและเจ้านายประเทศราชใกล้เคียง


ส่วนเขตพระราชฐานชั้นในจะมีพระที่นั่งสุทธาสวรรย์อันเป็นที่ประทับส่วนพระองค์และฝ่ายใน พระองค์ประชวรและเสด็จสวรรคต ณ พระที่นั่งแห่งนี้ด้วย ปัจจุบันพระนารายณ์ราชนิเวศน์ได้ปรับเป็นพิพิธสถานแห่งชาติแห่งที่ 3 ของประเทศไทย แสดงพระราชประวัติสมเด็จพระนารายณ์มหาราช โบราณวัตถุ เรื่องราวเกี่ยวกับเมือง และคนลพบุรี และอีกหลายๆ เรื่องราว


บ้านหลวงรับราชทูต หรือบ้านวิชาเยนทร์

ออกจากพระนารายณ์ราชนิเวศน์เราเดินชิลๆ สบายๆ ไปทางทิศเหนือเพื่อไปต่อยังบ้านหลวงรับราชทูตหรือบ้านวิชาเยนทร์ที่อยู่ไม่ห่างไกลกันนัก วันนี้บ้านหลวงรับราชทูตยังมีเหลือร่องรอยปรากฏให้เห็นพอให้จินตนาการได้บ้าง สถานที่แห่งนี้ทรงสร้างขึ้นเพื่อให้เป็นที่พักสำหรับคณะราชทูตและคณะบาทหลวงชุดแรกที่เข้ามาเจริญสัมพันธ์ไมตรี ต่อมาในปลายรัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช คอนสแตนติน ฟอลคอน ซึ่งเป็นบุคคลในประวัติศาสตร์ที่มีความน่าสนใจไม่น้อยคนหนึ่ง ชายหนุ่มชาวกรีกผู้นี้ได้เข้ามารับราชการในราชสำนักเป็นจนเป็นที่โปรดปรานยิ่งนัก และได้ความดีความชอบทรงแต่งตั้งให้เป็นเจ้าพระยาวิชาเยนทร์อันเป็นตำแหน่งที่สูงสำหรับเสนาบดีในเวลาอันรวดเร็ว พร้อมพระราชทานที่พักอาศัยให้ทางทิศตะวันตกของบ้านหลวงรับราชทูตด้วย

ส่วนอื่นของบ้านก็มี ตึกที่มีห้องใต้ดินติดกับที่พักของเจ้าพระยาวิชาเยนทร์ ว่ากันว่าเป็นที่เก็บไวน์ ส่วนด้านหลังจะเป็นโรงอบขนมปังของท้าวทองกีมาร์ภริยาของเจ้าพระยาวิชาเยนทร์ บริเวณตรงกลางจะเป็นโบสถ์กับหอระฆัง และทางด้านทิศตะวันออกจะเป็นที่พักของคณะราชทูต


วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ

จากบ้านหลวงรับราชทูตไม่ไกลกันนักจะมีวัดสำคัญอีกแห่งมีชื่อว่า วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ หรือวัดพระธาตุ แม้จะเหลือเพียงซากปรักหักพังแต่สถานที่นี้ก็สร้างความตื่นตะลึงได้เช่นกัน ภายในวัดเต็มไปด้วยเจดีย์จำนวนมาก และมีสวนที่รื่นรมย์ ต้นลั่นทมขนาดใหญ่และงดงามมาก

สร้างในยุคใดไม่ปรากฏหลักฐานแน่ชัด แต่ได้รับการบูรณะมาหลายยุคสมัย รวมถึงสมัยสมเด็จพระนาราย์มหาราชด้วยที่ทรงให้บูรณะและสร้างเจดีย์ ระเบียงคต วิหารเพิ่มเติมจากของเดิมที่มี ปัจจุบันไปเที่ยวชมวัดแห่งนี้ง่ายมากเพราะตั้งอยู่ตรงข้ามสถานีรถไฟลพบุรี พอลงรถไฟเดินข้ามถนนมาก็จะถึงตัววัดเลย


พระที่นั่งไกรสรสีหราช

สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกแห่งคือ พระที่นั่งไกรสรสีหราช หรือพระที่นั่งเย็น หรือตำหนักทะเลชุบศร แต่จะห่างจากพระนารายณ์ราชนิเวศน์ออกไปราวๆ 4 กิโลเมตร สมเด็จพระนารายณ์มหาราชโปรดให้สร้างขึ้นกลางทะเลชุบศร เพื่อใช้เป็นสถานที่พักผ่อนอิริยาบถในช่วงฤดูร้อน ต้อนรับแขกเมือง ส่วนหน้าเป็นห้องโถงมีมุขเด็จยื่นออกมาและมีสีหบัญชรตรงกลางสำหรับเสด็จออกให้ขุนนางเข้าเฝ้า และเป็นสถานที่ทอดพระเนตรจันทรุปราคา สุริยุปราคาร่วมกับข้าราชบริพาร คณะราชทูตและคณะบาทหลวงจากประเทศฝรั่งเศส นอกจากนั้นบางตำราสันนิษฐานว่ามีเรื่องราวสำคัญเกิดขึ้นที่นี่คือ เป็นสถานที่ที่พระเพทราชาไต่สวนกล่าวโทษเจ้าพระยาวิชาเยนทร์ หลังจากนั้นได้นำไปประหารที่ทะเลชุบศรนอกเขตพระตำหนัก


พระปรางค์สามยอด

พระปรางค์สามยอดถือเป็นสัญลักษณ์อีกอย่างหนึ่งของลพบุรีก็ว่าได้ ตั้งตระหง่านอยู่กลางเมืองและแวดล้อมไปด้วยลิงอันเป็นสัญลักษณ์ของเมืองเต็มไปหมด พระปรางค์แห่งนี้มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์มายาวนานมาก เป็นโบราณสถานที่สร้างด้วยศิลาแลงกลิ่นอายสถาปัตยกรรมแบบเขมร มีลักษณะเป็นปราสาทเรียงต่อกัน 3 องค์ สร้างขึ้นสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ปัจจุบันยังปรากฏร่องรอยให้เห็นเด่นชัด


ศาลเจ้าพ่อพระกาฬ

จากนั้นข้ามถนนเข้าไปกราบสักการะขอพรจากเจ้าพ่อพระกาฬเทวรูปโบราณยุคขอมเรืองอำนาจที่ศาลพระกาฬ เทวสถานศักดิ์สิทธิ์คู่เมืองลพบุรีให้โชคดีมีชัย แต่เดิมโบราณนั้น ศาลพระกาฬตั้งอยู่บนฐานศิลาแลงขนาดใหญ่ ต่อมาเริ่มชำรุดทรุดโทรมจึงได้สร้างขึ้นใหม่อย่างที่เห็นในปัจจุบัน และว่ากันว่าในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราชทรงให้สร้างศาลเทพารักษ์ขึ้นมาด้วย เปรียบเสมือนศาลประจำเมือง โดยภายในศาลเทพารักษ์จะมีทับหลังนารายณ์บรรทมสินธุ์และเทวรูปองค์ดำ

เพียงแค่มาเที่ยววันเดียว  ก็อดติดใจเมืองละโว้แผ่นดินสมเด็จพระนารายณ์  จนใครต่อใครต้องมาซ้ำที่เมืองนี้อีกเป็นแน่  มันดีงามจริงๆ

ททท. ลพบุรี โทรศัพท์ 036-770-096-7

สำนักศิลปากรที่ 4 ลพบุรี โทรศัพท์ 036-412-510