พลิกเกมแพ็กเกจจิ้ง กู้วิกฤตร้านอาหารเดลิเวอรี่

ในยามที่ธุรกิจร้านอาหารต้องเปลี่ยนมาบริการลูกค้าด้วยการเดลิเวอรี่ ทำให้ภาชนะบรรจุภัณฑ์หรือแพ็กเกจจิ้งกลายเป็นของจำเป็นที่ต้องใช้บรรจุอาหารให้ไรเดอร์นำพาไปส่งให้ถึงมือลูกค้า หลายคนคนอาจมองว่าแพคเกจจิ้งเป็นต้นทุนที่ต้องแบกรับเพิ่มขึ้น แต่ถ้ามองให้ดี แพ็กเกจจิ้งที่ดีสามารถช่วยสร้างประโยชน์ให้ร้านค้าได้อย่างมาก คุณปฐมพงศ์ ดีปัญญา กรรมการผู้จัดการบริษัท Dezpax หรือคุณตั้ม ผู้นำด้าน Packaging Solution มาพูดคุยถึงการต่อยอดใช้แพ็กเกจจิ้งสร้างจุดขายที่แตกต่าง


ทำไมแพ็กเกจจิ้งจึงสำคัญ


ในมุมมองของคุณตั้ม แพ็กเกจจิ้งหรือบรรจุภัณฑ์มีความสำคัญ ปกป้องอาหาร บรรจุภัณฑ์ที่ดีต้องปกป้องแบรนด์ของร้านอาหารได้ด้วย เช่น ถ้าเปิดร้านอาหารแล้ว ลูกค้ามาทานที่ร้าน แบรนด์ของร้านคือทุกอย่าง ตั้งแต่ลูกค้าเดินเข้าร้าน การต้อนรับลูกค้า การบริการ สีสันของร้าน การจัดแต่งจาน ฯลฯ แต่พอเปลี่ยนมาเป็นเดลิเวอรี่ สิ่งที่อยู่ต่อหน้าลูกค้ามี 2 อย่างคืออาหารและบรรจุภัณฑ์เท่านั้น ถ้าแพ็กเกจจิ้งไม่ดี ก็แปลว่า 50% ไม่ดีแล้ว ซึ่งหน้าที่ของแพ็กเกจจิ้งที่ดี คือ

1) ปลอดภัย : เลือกบรรจุภัณฑ์ที่ปลอดภัยต่อผู้บริโภค เป็นความรับผิดชอบของร้านอาหาร

2) ปกป้องอาหาร : ปกป้องให้หน้าตาของอาหารตั้งแต่ออกจากร้านไปถึงมือลูกค้ายังคงเหมือนที่ร้าน เป็นหน้าที่ของบรรจุภัณฑ์ที่ดี

3) สื่อสาร : ทำหน้าที่สื่อสารเรื่องราวเราที่อยากบอกกับลูกค้า เช่นส่วนประกอบการอาหาร ฯลฯ

4) สร้างแบรนด์ : บรรจุภัณฑ์สวยงาม แตกต่าง ทำให้ลูกค้าจดจำแบรนด์ของร้าน

5) รักษาสิ่งแวดล้อม : ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมไปด้วย ย่อยสลายง่าย หรือรีไซเคิลได้

packaging-key-to-crisis-relief-01

เลือกแพ็กเกจจิ้งอย่างไร


ทั่วไปสามารถแบ่งแพ็กเกจจิ้งตามการใช้งานเป็น 3 ประเภทหลัก ได้แก่ 1) Street Food ตามร้านรถเข็น ตลาดนัด Food Event จะเป็นบรรจุภัณฑ์ที่ใช้งานได้ง่าย ไม่ต้องมีฝาปิด ใส่แล้วกินได้เลย 2) Take Home ลูกค้ามาที่ร้านของเรา แล้วสั่งเอากลับบ้าน บรรจุภัณฑ์ไม่จำเป็นต้องแข็งแรงมาก เพราะระยะทางจากร้านถึงบ้านอาจไม่ไกลนัก ต้องมีฝาปิดแต่ไม่ต้องล็อคมากมาย 3) Food Delivery ใช้กันเยอะมาก ต้องเข้าใจ Journey ของอาหารว่า Rider เป็นคนส่ง ซึ่งต้องผ่านการเรียงซ้อนหลายชั้น อยู่บนมอเตอร์ไซด์ขับซอกแซกไปตามถนน บรรจุภัณฑ์จึงต้องป้องกันอย่างดีไม่ให้อาหารหก ฝาต้องปิดสนิท


ถ้าแบ่งประเภทตามวัสดุที่ใช้ผลิต แพคเกจจิ้งที่ใช้กันทั่วไปก็มี  กล่องโฟม กล่องกระดาษ Eco  กล่องเยื่อธรรมชาติ (ชานอ้อย) กล่องพลาสติก Premium ซึ่งแต่ละแบบจะมีคุณสมบัติ ความแข็งแรงและราคาแตกต่างกันไป ต้องพิจารณาเลือกให้เหมาะกับอาหาร และการขนส่ง โดยมีเทคนิคดังนี้

1) เลือกรูปแบบบรรจุภัณฑ์ให้เหมาะกับอาหาร และสร้างตัวตนด้วยบรรจุภัณฑ์ 

2) สร้างชื่อร้านให้เป็นที่จดจำ ผ่านการพิมพ์สติ๊กเกอร์ หรือสายคาด สามารถบอกเรื่องราวของร้านตรงนี้ได้

3) อย่าลืมช่องทางการติดต่อ เพื่อสร้างลูกค้าประจำ พวก Social Media, Facebook, IG สร้างโอกาสให้ลูกค้าซื้อซ้ำในอนาคต

4) ใช้บรรจุภัณฑ์ที่สามารถย่อยสลายหรือ Recycle ได้


แพ็กเกจจิ้งเป็นมากกว่าที่ใส่อาหาร


หลายร้านที่ทำเดลิเวอรี่ ใช้ภาพอาหารในบรรจุภัณฑ์มาโชว์ให้ลูกค้าเป็นเครื่องมือสื่อสารทำการตลาดสร้างจุดขายอย่างหนึ่ง เพราะภาพอาหารในบรรจุภัณฑ์ที่สวยงามเหมาะสมทำให้อาหารดูมีความน่าทาน ลูกค้าที่กำลังตัดสินใจจะสั่งก็ได้เห็นว่าอาหารที่จะมาส่งจะหน้าตาสวยงามน่ากินเหมือนในรูป นอกจากนี้แพ็กเกจจิ้งที่ดียังช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับอาหารได้  แม้บรรจุภัณฑ์ที่ดีจะต้นทุนสูงกว่า แต่ทำให้สามารถตั้งราคาขายได้สูงขึ้น และส่วนกำไรเพิ่มขึ้นตามด้วย ถือเป็นการเพิ่มต้นทุนเล็กน้อยเพื่อให้อาหารของเรามีเอกลักษณ์แตกต่างจากร้านอื่น และสามารถแข่งขันได้ดีขึ้น


ทั้งนี้ ปัจจัยที่ส่งผลต่อการเลือกใช้บรรจุภัณฑ์มี 3 ข้อ ได้แก่

1)  ต้นทุน-การสื่อสาร : ต้องดูว่าลูกค้าเป้าหมายคือใคร จะตั้งราคาขายเท่าไร แล้วต้นทุนเท่าไรที่ยอมรับได้ ถ้าจะขายลูกค้าที่มีกำลังซื้อ ตั้งราคาขายสูงขึ้นมา ก็เลือกบรรจุภัณฑ์ที่ทำให้ลูกค้ารู้สึกสินค้าที่ซื้อไปมีความคุ้มค่า ลค.ไม่ได้อยากซื้อของราคาถูกเสมอไป แต่อยากได้ของที่มีความคุ้มค่า  ต้นทุนกับราคาขายต้องพิจารณาให้ดี

2) การใช้งาน ชนิดอาหาร วิธีขนส่ง วิธีการรับประทาน : อาหารของเราเป็นอะไร  เช่นขายไก่ทอดร้อนๆ ก็ต้องเลือกกล่องที่ระบายอากาศได้ดี ถ้าอาหารต้องเข้าไมโครเวฟก่อน ก็ต้องเลือกกล่องที่เข้าไมโครเวฟได้ เป็นต้น

3) การสื่อสาร : วิธีการสร้างแบรนด์ ข้อมูลที่ต้องการสื่อสาร ความสวยงามดึงดูด  ช่วยสร้างแบรนด์ บอกเล่าเรื่องราวให้ลูกค้ารู้จักตัวตนของแบรนด์เรา เป็นโอกาสสร้างลูกค้าประจำให้กับร้าน 

เว็บไซต์ www.dezpax.com เจำหน่ายบรรจุภัณฑ์ทั้งอาหารและเครื่องดื่ม ความพิเศษของ Dezpax คือเจ้าของร้านสามารถสั่งพิมพ์โลโก้ลงบนแพคเกจจิ้งได้ด้วย เช่นโลโก้ร้านบนแก้วกาแฟที่เวลาคนมาซื้อกาแฟก็จะถ่ายภาพลงโซเชี่ยลกัน วิธีการทำไม่ยาก แค่อัพโหลดโลโก้ขึ้นเว็บ ระบบก็จะคำนวณราคาให้แล้วกดสั่งซื้อได้เลย การมีโลโก้บนบรรจุภัณฑ์จะช่วยเพิ่ม visibility ให้แบรนด์ด้วย สำหรับ Robinhood Merchants จะได้  Promo Code เมื่อซื้อบรรจุภัณฑ์จาก www.dezpax.com และส่วนลดต่างๆ อีกมากมาย สอบถามเพิ่มเติมที่ LINE : @dezpax


หลายคนคิดว่าแพ็กเกจจิ้งเป็นของสิ้นเปลือง เป็นต้นทุนที่ต้องแบกรับ แต่ในความเป็นจริงสำหรับการเดลิเวอรี่อาหารแล้วแพคเกจจิ้งสำคัญมาก เพราะเป็นเครื่องมือที่ร้านใช้สื่อสาร สร้างประสบการณ์ที่ดีให้ลูกค้า ทั้งนี้ แพ็กเกจจิ้งที่ดีไม่ใช่เรื่องที่ต้องลงทุนสูงแต่เป็นเรื่องของความใส่ใจมากกว่า ร้านอาหารบางเจ้าใช้แค่ตรายางประทับ บางร้านเขียนด้วยลายมือเป็นข้อความสั้นๆ บนกล่องให้ลูกค้า ไม่ได้มีต้นทุนอะไรเลย แค่อยากให้ลูกค้าจำเขาได้ และมีความสุขในการกินอาหารของเขา “แพ็กเกจจิ้งเป็นเรื่องของความใส่ใจ ไม่ใช่แค่เรื่องต้นทุนอย่างเดียวเสมอไป ซึ่งความใส่ใจที่จะถ่ายทอดผ่านอาหารของเราให้ลูกค้ามีความสุข” คุณตั้มกล่าวปิดท้าย


ที่มา : งานสัมมนา Restaurant Warrior กับ 7 วิทยากรตัวจริง ผู้พิชิตธุรกิจร้านอาหาร ออกอากาศทาง Facebook SCB Thailand วันที่ 7 มิถุนายน 2564 ดูย้อนหลังได้ที่นี่