มี 6 คุณสมบัติแบบนี้ เริ่มเป็นผู้บริหารสตาร์ทอัพที่ดีแน่

นับถอยหลังสู่การเริ่มต้นสตาร์ทอัพทั้งที มาเช็กลิสต์กันดู ว่ามีอะไรที่คุณควรเก็บไว้เป็นคาถาท่องจำสำหรับการดำเนินธุรกิจให้ราบรื่น บทความนี้จะช่วยตอกย้ำถึงคุณสมบัติผู้นำที่จะจูงมือธุรกิจของคุณไปสู่ดวงดาว วิธีส่งมอบประสบการณ์ และทำให้การระดมทุนครั้งใหม่ไม่ต้องปาดเหงื่อ

1. มีวิธีคิดแบบเติบโต (Growth Mindset)

ในโลกยุคดิจิทัล ดิสรัปชั่น (Digital Disruption) ความเปลี่ยนแปลงเป็นสิ่งที่สามารถเกิดขึ้นได้เสมอ ทักษะและความรู้ที่เคยสำคัญในอดีต อาจกลายเป็นสิ่งล้าสมัยภายในเวลาไม่นาน วิธีคิดแบบเติบโต หรือ Growth Mindset จึงเป็นคุณสมบัติสำคัญของผู้บริหารสตาร์ทอัพ เพราะนั่นจะทำให้คุณพร้อมปรับตัวตลอดเวลา ไม่ยึดติดกับองค์ความรู้เดิม และช่วยให้สามารถมองปัญหาพร้อมทั้งหาโซลูชั่น พาทีมก้าวไปสู่ความสำเร็จได้

2 .มีวิสัยทัศน์และเปิดกว้าง (Open-minded)

เนื่องจากโมเดลธุรกิจของสตาร์ทอัพแต่ละราย มักเป็นโมเดลธุรกิจที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ผู้บริหารสตาร์ทอัพจึงต้องมีวิสัยทัศน์กว้างไกล มองเห็น “ภาพใหญ่” ว่าสตาร์ทอัพของตัวเองต้องการทีมแบบไหนมาร่วมงาน ต้องทำอะไรเพิ่มเติมบ้างเพื่อจะเดินไปให้ถึงเป้าหมาย และขณะที่ตัวเองกำลังคุมภาพใหญ่ กำลังสร้างแรงบันดาลใจให้กับทีม ก็ต้องเปิดกว้างรับฟังรายละเอียดหรือ “ภาพย่อย” จากทีมและผู้อื่นด้วย เพื่อให้สามารถพัฒนาโมเดลธุรกิจในฝันให้กลายเป็นจริงได้

3. มีบุคลิกแบบนักการตลาด

แม้ในหนึ่งธุรกิจสตาร์ทอัพอาจจะมีผู้ร่วมก่อตั้งหลายคนหลายตำแหน่ง ทั้งนักพัฒนาระบบ (Developer) นักออกแบบ (Designer) แต่บุคลิกที่จำเป็นมากในกลุ่มผู้บริหารสตาร์ทอัพคือ “นักการตลาด” (Marketer) เพราะต่อให้พัฒนาระบบหลังบ้านไว้แข็งแรงแค่ไหน ออกแบบดีอย่างไร แต่ถ้าตัวสตาร์ทอัพไม่เป็นที่รู้จักในหมู่คนทั่วไป เวลาจะไปคุยกับนักลงทุนเพื่อเชิญชวนให้เขาลงทุนในสตาร์ทอัพ ก็จะกลายเป็นเรื่องยาก บรรดาผู้ร่วมก่อตั้ง โดยเฉพาะคนที่เป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) จึงมักต้องมีบุคลิกแบบนักการตลาด หาวิธีโปรโมทผลงานของสตาร์ทอัพให้เป็นที่รู้จักในตลาดเป้าหมาย เวลาออกไปเจอผู้คนก็ต้องสามารถแลกเปลี่ยนเรื่องราวในแวดวง รวมถึงแนะนำสตาร์ทอัพของตัวเองให้เป็นที่รู้จักได้

4. มีความสามารถในการบริหารจัดการทีม

สังเกตได้ว่าในการแข่งขัน Startup Pitching ทุกเวที จะมีเรื่องหนึ่งที่ต้องนำเสนอให้กรรมการและนักลงทุนฟังด้วยเสมอคือเรื่อง “ทีม” เพราะหน้าตาของทีม ความสัมพันธ์ของคนในทีม ความสัมพันธ์ของผู้ร่วมก่อตั้ง คือหนึ่งในประเด็นสำคัญที่ชี้วัดว่าสตาร์ทอัพรายนั้นๆ จะสามารถก้าวไปถึงเป้าหมายได้หรือไม่ สตาร์ทอัพหลายรายเผชิญภาวะตกม้าตายเพราะ “ทีมแตก” จนต้องแยกย้ายทั้งที่ยังไปไม่ถึงฝัน ความสามารถในการจัดการความสัมพันธ์กับผู้ร่วมก่อตั้ง การดูแลรักษาคนเก่ง พาทีมให้ก้าวไปสู่เป้าหมายเดียวกัน จึงเป็นเรื่องสำคัญมาก

5. มีความทะเยอทะยาน

กรุงโรมไม่ได้สร้างขึ้นใน 7 วันฉันใด โมเดลสตาร์ทอัพใหม่ๆ ก็อาจไม่ได้ประสบความสำเร็จใน 7 วันฉันนั้น เนื่องจากสตาร์ทอัพกำลังมุ่งสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ที่ไม่เคยมีมาก่อน การจะเปลี่ยนแปลงตลาด เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมเดิมของผู้บริโภค รวมถึงโน้มน้าวนักลงทุนให้มาสนใจ จึงอาจไม่ใช่เรื่องง่ายนัก ผู้บริหารสตาร์ทอัพที่ดีจึงต้องทะเยอทะยานพอ จนกว่าจะถึงวันที่ประสบความสำเร็จ

6. เป็นนักทำลายกฎ

สตาร์ทอัพเปรียบเสมือนผู้สร้างสรรค์ เป็นผู้เข้าใจเทรนด์ของตลาดและพฤติกรรมดั้งเดิม แต่ก็พร้อมจะสร้างเทรนด์ใหม่ แทนที่จะก้าวไปตามเทรนด์เหล่านั้น ผู้บริหารสตาร์ทอัพที่ดี ต้องไม่กลัวกำแพงใดๆ ก็ตามที่เข้ามาขวางเส้นทางสู่ความสำเร็จ และพร้อมจะทำลายมันเพื่อสร้างเส้นทางใหม่ๆ ขึ้นมา


ไม่ใช่ทุกคนที่จะมีคุณสมบัติครบทุกอย่างตั้งแต่เริ่มต้น หากคุณมีความสนใจในการก่อตั้งสตาร์ทอัพและยังขาดคุณสมบัติข้อไหนไป คุณยังมีโอกาสและสามารถฝึกฝนตัวเองให้มีคุณสมบัติที่ดีเหล่านั้นได้ เพราะเราเชื่อว่าหากคุณมุ่งมั่น คุณจะสามารถเป็นผู้บริหารสตาร์ทอัพที่ดีได้เช่นกัน!

อ้างอิง

https://www.startupthailand.org/wp-content/uploads/2018/05/Startup_Thailand_Magazine_no7_jan_2018.pdf

https://brandinside.asia/what-kind-startup-vc-looking-for/

https://www.tokiomarine.com/th/th/personal/learn/blog/4-Types-of-People-You-Need.html

https://www.startupist.com/2014/11/10-important-personality-traits-for-entrepreneurs/

https://techsauce.co/saucy-thoughts/startup-is-not-side-project

https://www.leading-brains.com/do-you-have-startup-personality/

https://www.success.com/the-9-personalities-a-startup-needs-to-be-successful/