1. รายการส่งเสริมการขาย “A PREMIER INVITATION คำเชิญสู่เอกสิทธิ์ระดับพรีเมียร์” สำหรับลูกค้ารายใหม่ SCB FIRST (“รายการส่งเสริมการขาย”) นี้ มีระยะเวลาตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2568 ถึงวันที่ 31 ตุลาคม 2568 (“ระยะเวลารายการส่งเสริมการขาย”)
2. ลูกค้าที่มีสิทธิเข้าร่วมรายการส่งเสริมการขาย จะต้องมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้
   • 2.1 เป็นลูกค้าประเภทบุคคลธรรมดา แต่ยังไม่มีสถานะเป็น SCB PRIVATE หรือ SCB FIRST ของธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) (“ธนาคาร”) ณ วันที่ 31 กรกฎาคม 2568
   • 2.2 มีบัญชีกองทุนหรือเปิดบัญชีกองทุนใหม่กับบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ไทยพาณิชย์ จำกัด (“SCBAM”) ประเภทบัญชีเดี่ยวที่เปิดผ่านช่องทางของธนาคารในนามของตนเองเท่านั้น ภายในวันที่ 31 ตุลาคม 2568 ทั้งนี้ ธนาคารจะพิจารณาจากเลขประจำตัวประชาชนของเจ้าของบัญชีกองทุน ซึ่งจะต้องเป็นเลขเดียวกันกับเลขประจำตัวประชาชนของลูกค้าตามข้อ 2.1
   • 2.3 ลูกค้าจะต้องมีสถานะเป็น SCB FIRST หรือต้องมีสินทรัพย์รวม* กับธนาคารตามเงื่อนไขสถานะการเป็นลูกค้า SCB FIRST ณ วันที่ 31 ตุลาคม 2568
   • 2.4 ลูกค้ารายใหม่ SCB FIRST (ตามข้อ 2.3) จะต้องดำเนินการตามเงื่อนไขดังต่อไปนี้
     • 2.4.1 ลูกค้าต้องมีสถานะเป็นลูกค้า SCB FIRST โดยการเพิ่มยอดสินทรัพย์รวมกับธนาคารตั้งแต่ 15 ล้านบาทขึ้นไป ภายในระยะเวลารายการส่งเสริมการขาย และ
     • 2.4.2 ลูกค้าต้องถือครองยอดสินทรัพย์ที่เพิ่มขึ้นดังกล่าวไว้เป็นมูลค่าเฉลี่ยในแต่ละเดือนไม่น้อยกว่า 15 ล้านบาท (เงื่อนไขการคำนวณมูลค่าการถือครองยอดสินทรัพย์ที่ระบุในข้อ 2.5) เป็นระยะเวลา 4 เดือนติดต่อกัน นับจากเดือนที่มีการเพิ่มยอดสินทรัพย์รวมครบ 15 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับวันที่ 31 กรกฎาคม 2568
     • 2.4.3 ธนาคารจะคำนวณยอดสินทรัพย์รวม ณ วันที่ 31 กรกฎาคม 2568 เพื่อเปรียบเทียบกับค่าเฉลี่ยสินทรัพย์รวมในช่วงระยะเวลา 4 เดือนติดต่อกัน โดยลูกค้าจะต้องมียอดสินทรัพย์ที่เพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 15 ล้านบาท
   • 2.5 ลูกค้าที่ปฏิบัติตามเงื่อนไขในข้อ 2.4 จะมีสิทธิได้รับ Fund Back หน่วยลงทุน SCBDBOND(A) หรือ SCBMONEY(A) มูลค่าสูงสุดไม่เกิน 40,000 บาท ต่อลูกค้า 1 ราย ตามเงื่อนไขดังต่อไปนี้
     • 2.5.1 ลูกค้าที่รับความเสี่ยงได้ตั้งแต่ระดับ 2 ขึ้นไป และเคยมีประสบการณ์ลงทุนกับธนาคาร จะได้รับหน่วยลงทุน SCBDBOND(A)
     • 2.5.2 ลูกค้าที่ไม่เคยมีประสบการณ์ลงทุนกับธนาคาร ไม่ว่าจะมีความเสี่ยงในระดับใด หรือเคยมีประสบการณ์การลงทุน แต่รับความเสี่ยงได้น้อยกว่าระดับ 2 จะได้รับหน่วยลงทุน SCBMONEY(A)
     • 2.5.3 ลูกค้าที่มียอดสินทรัพย์ที่เพิ่มขึ้นตั้งแต่ 15 ล้านบาท แต่ไม่ถึง 30 ล้านบาท จะมีสิทธิได้รับ Fund Back หน่วยลงทุนมูลค่าไม่เกิน 15,000 บาท
     • 2.5.4 ลูกค้าที่มียอดสินทรัพย์ที่เพิ่มขึ้นตั้งแต่ 30 ล้านบาทขึ้นไป จะมีสิทธิได้รับ Fund Back หน่วยลงทุนมูลค่าไม่เกิน 40,000 บาท
   • 2.6 การคำนวณมูลค่าการถือครองยอดสินทรัพย์เพื่อรับ Fund Back หน่วยลงทุน SCBDBOND(A) หรือ SCBMONEY(A) ตามรายการส่งเสริมการขายนี้ จะใช้การคำนวณตามหลักเกณฑ์และวิธีการดังต่อไปนี้
     • 2.6.1 การถือครองยอดสินทรัพย์ไว้เป็นมูลค่าเฉลี่ยในแต่ละเดือน ให้คำนวณจากมูลค่ายอดสินทรัพย์รวมของลูกค้า ณ สิ้นวันทุกวันของเดือนนั้น ๆ หารด้วยจำนวนวันของเดือนนั้น ๆ โดยจะต้องมีมูลค่าเฉลี่ยไม่น้อยกว่า 15 ล้านบาทในแต่ละเดือน
     • 2.6.2 ตัวอย่าง
       นาย ก. มีสินทรัพย์รวม ณ วันที่ 31 กรกฎาคม 2568 มูลค่า 1 ล้านบาท ต่อมาในเดือนสิงหาคม 2568 นาย ก. นำเงินฝากเข้าบัญชีเงินฝากประจำ 6 เดือนเป็นจำนวนเงิน 5 ล้านบาท และฝากเข้าบัญชีเงินฝากออมทรัพย์เป็นจำนวนเงิน 10 ล้านบาท ดังนั้น นาย ก. จะมียอดสินทรัพย์รวม ณ วันที่ 31 สิงหาคม 2568 เป็นมูลค่าเท่ากับ 16 ล้านบาท
       ในเดือนกันยายน 2568 นาย ก. ไม่มีธุรกรรมทางการเงิน และมียอดสินทรัพย์รวม ณ วันที่ 30 กันยายน 2568 เป็นมูลค่าเท่ากับ 16 ล้านบาท ซึ่งเป็นไปตามเงื่อนไขการถือครองยอดสินทรัพย์ที่เพิ่มขึ้นไว้ไม่น้อยกว่า 15 ล้านบาท
       ในเดือนตุลาคม 2568 นาย ก. ไม่มีธุรกรรมทางการเงิน และมียอดสินทรัพย์รวม ณ วันที่ 31ตุลาคม 2568 เป็นมูลค่าเท่ากับ 16 ล้านบาท ซึ่งเป็นไปตามเงื่อนไขการถือครองยอดสินทรัพย์ที่เพิ่มขึ้นไว้ไม่น้อยกว่า 15 ล้านบาท
       ในเดือนพฤศจิกายน 2568นาย ก. ได้มีการทำธุรกรรมบัญชีเงินฝาก ดังนี้
       • วันที่ 5 พฤศจิกายน ถอนเงินจากบัญชีเงินฝากออมทรัพย์เป็นจำนวนเงิน 1 ล้านบาท
       • วันที่ 15 พฤศจิกายน ถอนเงินจากบัญชีเงินฝากออมทรัพย์เป็นจำนวนเงิน 1 ล้านบาท
       • วันที่ 26 พฤศจิกายน ฝากเงินเข้าบัญชีเงินฝากออมทรัพย์เป็นจำนวนเงิน 6 ล้านบาท
       ดังนั้น นาย ก. จะมียอดสินทรัพย์รวม ณ วันที่ 30 พฤศจิกายน 2568 เป็นมูลค่าเท่ากับ 20 ล้านบาท แต่จะมีการถือครองยอดสินทรัพย์ไว้เป็นมูลค่าเฉลี่ยในเดือนพฤศจิกายน 2568 เป็นจำนวนเงิน 16 ล้านบาท ซึ่งเป็นไปตามเงื่อนไขการถือครองยอดสินทรัพย์ที่เพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 15 ล้านบาท 
       ในเดือนธันวาคม 2568นาย ก. ได้มีการทำธุรกรรมบัญชีเงินฝาก ดังนี้
       • วันที่ 5 ธันวาคม ฝากเงินเข้าบัญชีเงินฝากออมทรัพย์เป็นจำนวนเงิน 1 ล้านบาท
       • วันที่ 15 ธันวาคม ฝากเงินเข้าบัญชีเงินฝากออมทรัพย์เป็นจำนวนเงิน 2 ล้านบาท
       • วันที่ 26 ธันวาคม ถอนเงินจากบัญชีเงินฝากออมทรัพย์เป็นจำนวนเงิน 3 ล้านบาท
       ดังนั้น นาย ก. จะมียอดสินทรัพย์รวม ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2568 เป็นมูลค่าเท่ากับ 20 ล้านบาท แต่จะมีการถือครองยอดสินทรัพย์ไว้เป็นมูลค่าเฉลี่ยในเดือนธันวาคม 2568 เป็นจำนวนเงิน 21 ล้านบาท ซึ่งเป็นไปตามเงื่อนไขการถือครองยอดสินทรัพย์ที่เพิ่มขึ้นไว้ไม่น้อยกว่า 15 ล้านบาท
       
       กรณีนี้ นาย ก. จึงมีสิทธิได้รับ Fund Back หน่วยลงทุน SCBDBOND(A) หรือ SCBMONEY(A) ตามรายการส่งเสริมการขายนี้ เนื่องจากนาย ก. มีการถือครองยอดสินทรัพย์ไว้เป็นมูลค่าเฉลี่ยในเดือนกันยายน 2568 ถึงเดือนธันวาคม 2568 ในแต่ละเดือน ไม่น้อยกว่า 15 ล้านบาท
   • 2.7 ตัวอย่างการนับช่วงเวลาการเพิ่มยอดสินทรัพย์รวมกับธนาคาร และระยะเวลาถือครองสินทรัพย์ตามเงื่อนไขรายการส่งเสริมการขาย

     เดือนที่ลูกค้าเพิ่มยอดสินทรัพย์รวมครบ 15 ล้านบาท ตามเงื่อนไขรายการส่งเสริมการขาย	ช่วงเวลาการถือครองสินทรัพย์รวมเพิ่มขึ้นกับธนาคารเป็นระยะเวลาติดต่อกัน 4 เดือน (โดยในแต่ละเดือนต้องมียอดสินทรัพย์รวมต่อเดือนเพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 15 ล้านบาท)
     	เดือนที่ 1	เดือนที่ 2	เดือนที่ 3	เดือนที่ 4
     สิงหาคม 2568	กันยายน 2568	ตุลาคม 2568	พฤศจิกายน 2568	ธันวาคม 2568
     กันยายน 2568	ตุลาคม 2568	พฤศจิกายน 2568	ธันวาคม 2568	มกราคม 2569
     ตุลาคม 2568	พฤศจิกายน 2568	ธันวาคม 2568	มกราคม 2569	กุมภาพันธ์ 2569

3. ธนาคารจะจัดสรรหน่วยลงทุนของกองทุนเปิดไทยพาณิชย์ Dynamic Bond (ชนิดสะสมมูลค่า) - SCBDBOND(A) หรือกองทุนเปิดไทยพาณิชย์ ตราสารตลาดเงิน (ชนิดสะสมมูลค่า) – SCBMONEY(A) ให้แก่ลูกค้าที่ปฏิบัติตามเงื่อนไขครบถ้วนภายใน 60 วัน นับจากวันสุดท้ายของเดือนสุดท้ายที่ลูกค้าถือครองสินทรัพย์ตามเงื่อนไขของรายการส่งเสริมการขายนี้ ทั้งนี้ ในกรณีที่ลูกค้ามีบัญชีกองทุนมากกว่า 1 บัญชี ธนาคารขอสงวนสิทธิ์ในการจัดสรรหน่วยลงทุนในบัญชีกองทุนล่าสุดที่ลูกค้ามีการทำรายการ
4. ในกรณีที่ลูกค้าไม่เปิดบัญชีกองทุนกับ SCBAM ภายในวันที่ 31 ตุลาคม 2568 หรือในกรณีที่ลูกค้าสิ้นสุดสถานะการเป็นลูกค้า SCB FIRST ของธนาคารในระยะเวลารายการส่งเสริมการขาย หรือก่อนครบกำหนดระยะเวลา 60 วันหลังจากระยะเวลาถือครองสินทรัพย์ตามเงื่อนไขเป็นระยะเวลาติดต่อกัน 4 เดือนสิ้นสุดลง หรือในกรณีที่ลูกค้าไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขของรายการส่งเสริมการขายนี้ (แล้วแต่กรณี) ธนาคารขอสงวนสิทธิ์ไม่มอบ Fund Back ตามรายการส่งเสริมการขายนี้ให้แก่ลูกค้ารายดังกล่าว
5. ในกรณีที่มีรายการส่งเสริมการขายหลายรายการในช่วงเวลาเดียวกัน (ซึ่งรวมถึงรายการส่งเสริมการขายของ SCBAM) และลูกค้าเข้าเงื่อนไขที่จะได้รับของกำนัล และ/หรือสิทธิประโยชน์จากรายการส่งเสริมการขายหลายรายการ (ซึ่งรวมถึงรายการส่งเสริมการขายของ SCBAM) ลูกค้ามีสิทธิได้รับของกำนัล และ/หรือสิทธิประโยชน์ที่มีมูลค่าสูงสุดเพียง 1 รายการเท่านั้น และของกำนัล และ/หรือสิทธิประโยชน์ดังกล่าว จะต้องไม่เกินร้อยละ 0.2 ของยอดเงินลงทุนทั้งหมดที่ลูกค้าลงทุนตลอดช่วงระยะเวลารายการส่งเสริมการขาย
6. มูลค่าของของกำนัลที่ลูกค้าจะได้รับ คิดเป็นอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นของยอดเงินฝากรวมเฉลี่ยส่วนเพิ่ม ตามเงื่อนไขของรายการส่งเสริมการขายนี้ เทียบเท่าอัตราดอกเบี้ยรายปี (Annual Percentage Rate : APR) โดยมีรายละเอียดดังนี้
   • 6.1 ในกรณีที่ลูกค้ามียอดเงินฝากรวมเฉลี่ยส่วนเพิ่ม ตั้งแต่ 15 ล้านบาทขึ้นไป แต่ไม่ถึง 30 ล้านบาท มูลค่าของของกำนัลจะคิดเป็นอัตราดอกเบี้ยไม่เกินร้อยละ 0.10 ต่อปี
   • 6.2 ในกรณีที่ลูกค้ามียอดเงินฝากรวมเฉลี่ยส่วนเพิ่ม ตั้งแต่ 30 ล้านบาทขึ้นไป มูลค่าของของกำนัลจะคิดเป็นอัตราดอกเบี้ยไม่เกินร้อยละ 0.13 ต่อปี
7. ของกำนัลไม่สามารถแลกเปลี่ยนเป็นเงินสดหรือของกำนัลอื่นได้ และไม่สามารถโอนสิทธิในการรับของกำนัลให้แก่บุคคลอื่นได้ เว้นแต่จะได้รับความยินยอมจากธนาคารเป็นลายลักษณ์อักษร
8. ในกรณีที่ลูกค้ามีคุณสมบัติไม่ถูกต้อง ไม่ครบถ้วน และ/หรือไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดและเงื่อนไขที่ธนาคารกำหนด หรือข้อมูลของลูกค้าเป็นเท็จหรือไม่ถูกต้อง หรือลูกค้าปฏิบัติฝ่าฝืนข้อกำหนดและเงื่อนไขนี้ไม่ว่าด้วยเหตุใด ลูกค้าตกลงให้ธนาคารมีสิทธิที่จะระงับ และ/หรือยุติ และ/หรือตัดสิทธิของลูกค้าในการรับของกำนัลได้ทันที โดยคำตัดสินของธนาคารเป็นที่สุด
9. ธนาคารมีสิทธิเรียกให้ลูกค้าคืนของกำนัล และ/หรือให้ชำระเงินตามมูลค่าของของกำนัล ในกรณีที่ตรวจพบในภายหลังว่า ลูกค้ามีคุณสมบัติไม่ถูกต้องครบถ้วน และ/หรือไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดและเงื่อนไขที่ธนาคารกำหนด
10. ธนาคารมีสิทธิที่จะแก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อกำหนดและเงื่อนไขนี้ และ/หรือสิทธิประโยชน์ และ/หรือรายละเอียดต่าง ๆ และ/หรือระงับ หรือยกเลิกรายการส่งเสริมการขายนี้ได้ ตามที่หน่วยงานทางการ และ/หรือหน่วยงานที่มีอำนาจตามกฎหมายกำหนด และ/หรือตามการพิจารณาของธนาคาร โดยจะแจ้งให้ทราบล่วงหน้าอย่างน้อย 7 วันก่อนวันมีผลใช้บังคับ เว้นแต่ในกรณีที่มีเหตุสุดวิสัยหรือเหตุจำเป็นอื่นที่ไม่อาจแจ้งล่วงหน้าได้ ธนาคารจะแจ้งให้ทราบโดยเร็วที่สุดเท่าที่สามารถทำได้
11. กรณีมีข้อขัดแย้ง และ/หรือข้อขัดข้อง และ/หรือข้อพิพาท ให้ถือคำตัดสินของธนาคารเป็นที่สุด
12. ธนาคารจะมีการเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า เพื่อวัตถุประสงค์ในการดำเนินรายการส่งเสริมการขาย และวัตถุประสงค์อื่นตามที่ระบุในประกาศนโยบายความเป็นส่วนตัวของธนาคาร รวมถึงเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าให้แก่ SCBAM เพื่อวัตถุประสงค์ในการดำเนินรายการส่งเสริมการขายตามเงื่อนไขนี้ โดยลูกค้าสามารถอ่านเพิ่มเติมเพื่อเข้าใจถึงวิธีการที่ธนาคารและ SCBAM เก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล และเข้าใจสิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ที่ประกาศนโยบายความเป็นส่วนตัวที่เว็บไซต์ www.scb.co.th สำหรับของธนาคาร และที่ www.scbam.com สำหรับของ SCBAM
13. สอบถามรายละเอียดและข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ SCB Call Center โทร. 02-777-7777

*สินทรัพย์รวมกับธนาคาร หมายถึง ยอดรวมในบัญชีเงินฝาก และ/หรือ เงินลงทุนผ่านช่องทางของธนาคารในกองทุนรวมภายใต้การบริหารของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนไทยพาณิชย์ จำกัด รวมถึงกองทุนภายใต้โครงการขายแบบเปิด (Open Architecture) ทั้งหมด และ/หรือ ตั๋วแลกเงินที่ออกโดยธนาคาร และ/หรือหุ้นกู้ที่ออกโดยธนาคาร และ/หรือบริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) ที่มีระยะเวลา 6 เดือนขึ้นไป (ไม่นับรวมหุ้นกู้ด้อยสิทธิอื่น ๆ) และ/หรือหุ้นกู้ที่มีอนุพันธ์แฝง (Structure Notes) ที่ออกโดยบริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด จากการแนะนำของพนักงานธนาคารเท่านั้น และ/หรือค่าเบี้ยประกันชีวิตที่ชำระในปีปัจจุบัน