ผลการค้นหา "{{keyword}}" ไม่ปรากฎแต่อย่างใด
การใช้และการจัดการคุกกี้
ธนาคารมีการใช้เทคโนโลยี เช่น คุกกี้ (cookies) และเทคโนโลยีที่คล้ายคลึงกันบนเว็บไซต์ของธนาคาร เพื่อสร้างประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของท่านให้ดียิ่งขึ้น โปรดอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมที่ นโยบายการใช้คุกกี้ของธนาคาร
การใช้และการจัดการคุกกี้
ธนาคารมีการใช้เทคโนโลยี เช่น คุกกี้ (cookies) และเทคโนโลยีที่คล้ายคลึงกันบนเว็บไซต์ของธนาคาร เพื่อสร้างประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของท่านให้ดียิ่งขึ้น โปรดอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมที่ นโยบายการใช้คุกกี้ของธนาคาร
คนโสดทำประกันแบบไหนดี
ในวงสนทนาของกลุ่มเพื่อนเก่าเพื่อนแก่สมัยมหาวิทยาลัยที่น้าน นานจะหาเวลามาเจอกันครบๆ ได้สักครั้ง ก็รุ่นใหญ่วัย 40 บวกอย่างพวกเรา ต่างคนต่างก็มีเรื่องราวในชีวิตมากมายที่ต้องจัดการ กลุ่มของเรามีกัน 9 คน มีทั้งคนที่มีครอบครัวมีลูกมีสามี คนที่มีสามีแต่ไม่มีลูก และคน “โสด” ที่เป็นสมาชิกส่วนใหญ่ของกลุ่มเรา
คนวัยเกินครึ่งชีวิตมาแล้วอย่างพวกเราก็หนีไม่พ้นการบ่นเรื่องงาน
เรื่องครอบครัว
และเรื่องการสร้างความมั่นคงให้กับชีวิตในยามบั้นปลายที่ใกล้เข้ามาทุกที
พวกเรามีทั้งคนที่รอบคอบโดยวางแผนเรื่องความมั่นคงในอนาคตมาตั้งแต่อายุยี่สิบปลายๆ
สมาชิกในกลุ่มเราที่เป็นสไตล์นี้เป็นคนที่มีครอบครัวแล้ว
ส่วนกลุ่มที่โสดสโมสรนั้นเป็นพวก “มีความสุขกับปัจจุบัน”
คือมีเท่าไหร่ก็ใช้หาความสุขในวันนี้ เรื่องเงินเก็บเงินออม
การวางแผนการเงินเพื่ออนาคตแทบไม่เคยอยู่ในสมอง
โอ๊ต คุณแม่ลูกหนึ่ง ผู้ที่พวกเรายกย่องว่ารอบคอบในการใช้ชีวิตมากที่สุดในกลุ่ม
พูดขึ้นมาก่อนว่า “แก แก แกและแก แก่กันขนาดนี้แล้วมีเงินเก็บกันมั่งรึยัง
ซื้อกองทุน ซื้อประกัน กันบ้างรึปล่าว เอาจริงๆ นะ
พวกแกก็ไม่ใช่ว่าที่บ้านร่ำรวยมีมรดกอะไรเยอะแยะ เจ็บปวดหนักๆ ขึ้นมา
ทำงานไม่ได้ หรือพอเกษียณไม่มีเงินเดือนแล้วจะทำยังไง ฉันไม่ช่วยนะย่ะ”
ฟ้า สาวเท่ โสดสนิท ผู้ที่เงินเดือนแทบไม่เคยพอใช้ เพราะต้องซื้อทุกอย่างที่อินเทรนด์ ตอบอย่างเร็วว่า “โอ้ยแกจะอะไรกับฉัน ฉันโสดไม่ได้มีลูก มีภาระเหมือนหล่อนนิ จะเก็บอะไรไว้ให้ใคร ลูกหลานก็ไม่มี ประกันยิ่งไม่ต้องพูดเลยไม่มีประโยชน์ ประกันสุขภาพที่ทำงานก็มีให้อยู่แล้วจะทำทำไมอีก ” เอก เพื่อนหนุ่มนิสัยหวาน รีบเสริม “ใช่ ฉันอะลูกคนเดียว พี่น้องก็ไม่มี จะทำประกันจะเก็บอะไรไว้ให้ใครละ เดี๋ยวก็ตายแล้ว”
โอ๊ต ส่ายหน้าแบบเอื่อมๆ
“พวกแกก็เป็นซะอย่างนี้ตั้งแต่สมัยเรียนจนอายุปูนนี้แล้วยังคิดไม่ได้อีก”
คร่าวนี้ โอ๊ตพูดต่อเป็นฉากๆ “ถึงแกจะโสด แต่เอกแกเป็นลูกคนเดียว
พ่อแกก็เสียนานแล้ว แกต้องเป็นเสาหลักของแม่ถูกมั้ย แม่แกก็ไม่มีรายได้
ไม่ได้มีสมบัติอะไร ลองคิดดูถ้าแกเป็นอะไรไปใครจะดูแลแม่ละ
แม่จะเอาเงินที่ไหนใช้” เอกดูเงียบลงเหมือนจะคิดตาม
ฉันได้ทีเลยเสริมโอ๊ตบ้าง “เอกนอกจากเรื่องแม่ ทุกปีแกก็ต้องจ่ายภาษี
ค่าเบี้ยประกันชีวิตถ้าแกจะทำเพื่อเป็นหลักประกันให้แม่น่ะ
แกยังเอาไปลดหย่อนภาษีได้อีกด้วย คิดดูว่ามันคุ้มแค่ไหน
แล้วลองคิดต่อไปนะถ้าหากแกไม่ตายเร็วอย่างที่แกคิดอะ บำนาญแกก็ไม่มี
สมบัติพ่อแม่ก็ไม่มี แล้วเกษียณจะเอาที่ไหนใช้ถามหน่อย เงินเก็บก็ไม่มีอีก
ทำประกันสะสมทรัพย์ไว้ด้วยดีกว่ามั้ย ได้ทั้งเก็บเงินแล้วก็ลดหย่อนภาษีไปในตัว”
โอ๊ตช่วยเสริมต่อ “ชั้นเองก็ทำประกันเพื่อลูกนะ ตัวหนึ่งที่ทำคือ
"ประกันแบบตลอดชีพ"
เบี้ยมันไม่สูงนักเมื่อเทียบกับความคุ้มครองที่ได้รับแบบยาวๆ เกิดฉันเป็นอะไรไป
ลูกฉัน พ่อแม่ฉันจะได้ไม่ลำบาก
ซึ่งฉันว่าแกก็น่าจะทำตัวนี้ไว้เพื่อแม่แกเหมือนกันนะเอก
ชีวิตไม่มีอะไรแน่แกก็รู้”
มันก็จริงที่คนโสดไม่มีภาระ ไม่มีลูกต้องเลี้ยงดู แต่ในทางกลับกันพอเราแก่ลง
เราก็ไม่มีลูกมาคอยดูแลเราเหมือนกัน ก็ต้องดูแลตัวเองต่อไป
ซึ่งจะนานแค่ไหนก็ไม่สามารถจะบอกได้ จะหวังพึ่งหลานก็คงยากเพราะหลานๆ
เองเค้าคงต้องดูแลพ่อแม่เค้าก่อน ดังนั้นตนเป็นที่พึ่งแห่งตนคือวิธีที่ดีที่สุด
คนโสด เมื่อไม่มีลูก จึงต้องเตรียมเก็บเงิน
หรือวางแผนเกษียณให้ดี การเก็บเงินเตรียมเกษียณ
ก็ทำได้หลายรูปแบบไม่ว่าจะลงทุนในหุ้น ตราสารหนี้ กองทุนรวม
และการลงทุนในสินทรัพย์ประเภทต่าง ๆ
แต่การลงทุนเหล่านี้ก็ยังมีความเสี่ยงว่าอาจจะไม่ได้ผลตอบแทนตามที่คาดไว้หรือมีโอกาสที่จะขาดทุนอีกด้วย
การทำประกันจึงเป็นทางเลือกหนึ่งที่ช่วยตอบโจทย์หรือเติมเต็มการวางแผนเกษียณได้
เพราะการันตีผลตอบแทนเมื่อครบสัญญา
“ฟ้า ตอนนี้แกอาจจะรู้สึกว่าไม่จำเป็นต้องเก็บเงิน ไม่ต้องทำประกัน
แต่สมมตินะถ้าแกเกิดป่วยหรือเกิดอุบัติเหตุหนักๆ ขึ้นมา
ประกันสุขภาพที่ที่ทำงานให้มันก็ไม่ได้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายทั้งหมด
แล้วส่วนต่างแกจะเอาที่ไหนมาจ่าย สมมติว่าแย่ไปกว่านั้น
เกิดแกเป็นมะเร็งหรือโรคร้ายแรงขึ้นมา ทีนี้ละจะทำยังไงค่ารักษาแพงขนาดนั้น
แกเองก็เคยบอกเองว่าประกันสุขภาพของที่ทำงานให้ไม่เยอะ
แล้วถ้าเป็นหนักต้องรักษาตัวนานๆ จนบริษัทเชิญให้ออกจากงาน จะทำยังไงต่อ
จะขอเงินพ่อ แม่ใช้เหรอ” ฟ้านั่งฟังเงียบๆ ไม่ได้รีบเถียงต่อเหมือนเคย
โอ๊ตพูดต่อ “ฉันว่าแกควรทำประกันสุขภาพเพิ่มเติมเพื่อเสริมจากที่บริษัททำให้
เลือกประกันชีวิตแบบคุ้มครองสุขภาพและชดเชยรายได้
ถ้ามีเงินพอก็อยากให้ทำประกันโรคร้ายไว้ด้วยเลย
เพราะตอนนี้แกก็เห็นอยู่ว่าคนรุ่นเราเป็นมะเร็ง เป็นโรคร้ายแรงกันเยอะมาก
เสียน้อยดีกว่าเสียยากนะ ทำประกันไว้อุ่นใจกว่า ฉันก็ทำแล้ว เพราะกลัวจริงๆ
”
ฉันเสริมต่อ “ฉันเองก็ทำประกันไว้หลายตัว หลักๆ ก็เพื่อเก็บเงินและลดหย่อนภาษี รีบเก็บรีบทำตอนนี้เถอะ จะได้มีเงินพอใช้หลังเกษียณ ยิ่งพวกแกทำช้าเท่าไหร่เบี้ยประกันก็ยิ่งแพง เดี๋ยวจะจ่ายไม่ไหว เงินนะไม่ใช่สิ่งสำคัญที่สุดในชีวิตหรอก แต่ไม่มีเงินชีวิตมันเครียด แล้วฉันก็ไม่อยากจะเครียดตอนแก่ แต่พอฟังโอ๊ตพูดคงต้องซื้อประกันโรคร้ายด้วย ไม่อยากหมดตัวเพราะต้องเอาเงินทั้งหมดที่มีไปจ่ายค่ารักษา”
การสร้างหลักประกันและความมั่นคงเพื่ออนาคตเป็นสิ่งจำเป็น ไม่ว่าจะโสด
หรือมีครอบครัว เราต่างก็มี ”ความเสี่ยง” และความไม่แน่นอนในชีวิตเหมือนกัน
จะสเตตัสไหนทำประกันไว้เถอะอุ่นใจ ไร้กังวล