เป็นมั้ยมีโปรโมชั่น ลด แลก แจก แถมทีไรอดใจไม่ซื้อไม่ได้สักที ทั้งๆ ทีไม่จำเป็นหรือเป็นของที่มีอยู่แล้ว หัวใจจะอ่อนยวบ เมื่อเจอป้าย SALE ซึ่งนั่นทำให้เราหมดเงินไปกับการซื้อของที่ไม่จำเป็น ยิ่งตอนนี้จะซื้ออะไรก็แสนง่ายดายเพราะซื้อผ่านออนไลน์ได้แบบชิวๆ ถึงการซื้อแต่ละครั้งอาจจะเป็นเงินแค่หลักร้อย แต่ถ้าลองเอามาบวกรวมกันสิ อาจกลายเป็นหลักพันหรือหลักหมื่น! คือมารู้ตัวอีกทีว่าช้อปกระจายเมื่อได้รับใบแจ้งหนี้บัตรเครดิตมาถึง บทความนี้เราขอนำเสนอ 5 เทคนิคที่จะช่วยให้คุณซื้อของอย่างฉลาดมีสติ ซื้อของเฉพาะที่จำเป็นจริงๆ และซื้อได้ในราคาที่คุ้มค่า มาฝากกัน

1. ใช้เวลาดูสินค้าประเภทเดียวกันจากหลายๆ เจ้า

คุณอาจบอกว่าวิธีนี้ก็เป็นวิธีที่ทำอยู่แล้ว แต่ในการซื้อของ ราคาเป็นเรื่องสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการซื้อของใหญ่ๆ อย่างรถยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า ไปจนถึงของกินของใช้เล็กๆ น้อยที่จำเป็น และในยุคนี้การเปรียบเทียบราคาก็ทำได้ง่ายมาก หาข้อมูลได้ง่ายๆ จากโลกออนไลน์ ง่ายขึ้นมากที่จะบอกว่าคุณซื้อสินค้าชิ้นนั้นๆ ได้ในราคาที่ดีที่สุดหรือไม่ นอกจากนั้นการหาข้อมูลมากๆ ก่อนตัดสินใจซื้อยังช่วยให้คุณคิดมากขึ้นว่าสินค้านั้นๆ จำเป็นจริงๆ หรือไม่อีกด้วย

2. วางแผนล่วงหน้าก่อนการซื้อ

วางแผนก่อนการซื้อ และทำรายการของที่ต้องซื้อ ว่ามีของใช้อะไรที่หมดแล้วบ้าง จะทำให้คุณโฟกัสการซื้อเฉพาะของที่ต้องซื้อจริงๆ แทนที่จะไปเดินซุปเปอร์มาเก็ตโดยที่ไม่รู้ว่าจริงๆแล้วต้องการอะไร จนกลายเป็นว่ากลับได้ของที่ยังไม่ถึงเวลาต้องซื้อเพียงเพราะมีโปรโมชั่น หรือแค่รู้สึกว่าสินค้าเหล่านั้นน่ากิน น่าใช้ วิธีการคือทำลิสต์สินค้าที่จำเป็นต้องซื้อในแต่ละสัปดาห์ เพื่อหลีกเลี่ยงการซื้อของที่ยังมีอยู่หรือไม่จำเป็นออกไป นอกจากนั้นการทำลิสต์สินค้าประจำสัปดาห์ยังทำให้คุณเห็นภาพการใช้จ่ายรายเดือนได้ชัดเจนขึ้นด้วย

3. ลดการรับข้อมูลจากร้านค้า

แน่นอนว่าปัจจุบันเราซื้อสินค้าผ่านออนไลน์มากขึ้นเรื่อยๆ ในการซื้อแต่ละครั้งร้านค้ามักจะมีช่องให้เราคลิกว่ายินดีรับข้อมูลโปรโมชั่น ส่วนลดพิเศษ หรือข้อมูลสินค้าใหม่ๆ หรือไม่ หรือแม้กระทั่งการเป็นเพื่อนกับร้านค้าบน LINE ซึ่งร้านค้ามักจะส่งโปรโมชั่นยั่วใจเรามาอย่างสม่ำเสมอ ดังนั้นการจำกัดการรับข้อมูลให้เหลือเฉพาะจากร้านค้าที่จำเป็นจริงๆ จะช่วยทำให้เราจับจ่ายซื้อของที่ไม่จำเป็นน้อยลงได้

4. ซื้อสินค้าแฟชั่นที่ต้องใส่เมื่อลดราคาเท่านั้น

สินค้าแฟชั่นประเภทที่เราต้องใส่เป็นประจำ อาจจะเป็นเสื้อเชิ้ต กางเกงยีนส์ สูทใส่ไปทำงาน ชุดดำเพื่อใส่ไปงานศพ หรือสินค้าแฟชั่นประเภทอื่นๆ ที่ใส่ได้นานๆ ไม่ล้าสมัย ที่จำเป็นสำหรับแต่ละคน ควรซื้อตอนที่ลดราคา และร้านแฟชั่นต่างๆ เหล่านี้มีการลดราคาเป็นประจำทุกปีอยู่แล้ว ตั้งแต่ 50% ไปจนถึง 80% ก็มี ทำไมต้องรีบซื้อของแบบเดียวกันในราคาที่แพงกว่า การรอเพื่อให้ได้ราคาที่ถูกที่สุดจะช่วยให้ประหยัดเงินได้มาก

5. ใช้เวลารอก่อนตัดสินใจซื้อ

อย่าด่วนซื้ออย่างใจร้อนด้วยความรู้สึกแค่อยากได้ เพราะเราจะใช้อารมณ์ในการตัดสินใจล้วนๆ แน่นอนว่าการยับยั้งช่างใจไม่ให้ซื้อของที่อยากได้นั้นทำไม่ง่ายเลย ซึ่งทำให้เราตกลงบนกับดักของความอยาก แต่เมื่อเราซื้อมันมาแล้วและมันมากองอยู่ที่บ้านความตื่นเต้นที่เคยอยากได้จะหมดไปและถูกแทนที่ด้วยความรู้สึกเสียดายเงินแทน แนะนำว่าให้ใช้เวลา 24 ชั่วโมงหรือ 1 วันเต็มๆ ไตร่ตรองว่าคุณต้องการสิ่งนั้นจริงๆ หรือไม่ อาจจะแคปภาพสินค้านั้นไว้ในโทรศัพท์มือถือและไตร่ตรอง วิธีการนี้จำทำให้เราตัดอารมณ์อยากได้แบบชั่ววูบหรือที่เรียกว่า FOMO ออกไป และได้คิดอย่างรอบคอบจริงๆก่อนตัดสินใจซื้อ

ทักษะทั้ง 5 ข้อไม่ใช่ว่าจะสามารถทำได้ทันที ต้องใช้การฝึกฝน โดยเฉพาะฝึกใจตัวเอง แต่ถ้าทำบ่อยๆ ก็จะกลายเป็นความเคยชินเป็นนิสัยที่ติดตัว ซึ่งนั่นจะช่วยให้เราใช้เงินซื้อของอย่างฉลาดและประหยัดเงินได้มากขึ้นเยอะและมีเงินเก็บเพื่อใช้ในการซื้อของชิ้นใหญ่ที่มีความจำเป็น เช่น นำเงินนั้นไปดาวน์รถยนต์หรือใช้เงินเก็บจากการประหยัดไปเที่ยวทริปในฝันเพื่อเปิดประสบการณ์ชีวิต แม้กระทั่งนำไปลงทุนให้เงินงอกเงย  สนใจนำเงินที่เก็บออมมาต่อยอดเพื่อเพิ่ม passive income สามารถเริ่มลงทุนในกองทุนรวมได้อย่างสะดวกง่ายดายกับฟีเจอร์ WEALTH4U บน SCB EASY App ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.scb.co.th/th/personal-banking/digital-banking/scb-easy/wealth-for-you-info.html