สมัยเป็นเด็ก เราอาจเคยเล่นตัวต่อหรือเลโก้เพื่อก่อร่างจินตนาการให้เป็นรูปร่าง แต่เมื่อก้าวสู่โลกของผู้ใหญ่ เลโก้อาจทำได้มากกว่าเป็นของเล่น เพราะมันอาจเป็นผู้ช่วยประสานความสัมพันธ์ระหว่างครอบครัว มิตรสหายที่ทำงาน หรือแม้แต่การพูดคุยกับตัวเองเพื่อปลดล็อกปัญหาที่คาใจ เพื่อให้ได้ข้อสรุปและโฟกัสกับเป้าหมายได้ชัดเจน

1. จากของเล่นสู่เครื่องมือสื่อสาร

การต่อเลโก้คือการปล่อยจินตนาการของเด็กให้โลดแล่น  แต่สำหรับผู้ใหญ่ เลโก้เป็นเครื่องมือสะท้อนความคิด ช่วยถ่ายทอดตามสัญชาตญานออกมา เป็นสัญลักษณ์ในการสื่อสารแทนการใช้คำพูดหรือความไม่กล้าแสดงออก เพื่อให้ทุกได้เห็นเป็นภาพที่ชัดเจน

2. หนุนใช้ความคิดแก้ไขปัญหา

การต่อเลโก้ เปิดโอกาสให้ลองผิดลองถูก เพราะตัวที่เลือกมาต่ออาจไม่ได้อย่างใจคิดทันที การจับเข้าออกจนกว่าจะเจอชิ้นที่เหมาะสม จะทำให้รู้จักวางแผนบริหารจัดการเป็นขั้นตอนว่า รู้จักแยกเลโก้แต่ละส่วนให้ชัดเจนก่อน ยิ่งถ้าเลโก้มีจำนวนจำกัด ยิ่งทำให้ต้องแก้ปัญหาและบริหารจัดการว่าจะต่ออย่างไรตอบโจทย์ที่ต้องการสื่อสารออกมา

3.  สร้างภาพด้วยมือ ดีถึงสมอง

การดึงภาพในความคิดออกมาสู่มือที่ลองต่อเลโก้เป็นรูปเป็นร่าง ถือเป็นการฝึกการประสานกล้ามเนื้อให้คล่องแคล่ว จนทำให้ระบบประสาทมีการเชื่อมโยงที่ดี นำไปสู่การประสานการทำงานของสมองได้ดีขึ้นด้วย ซึ่งจะเห็นตัวอย่างจากคนที่ผลิตงานคราฟท์ออกมาได้สวยงาม

4. สอนให้อดทน

ไม่ใช่ทุกครั้งที่เราจะประกอบเลโก้ออกมาได้ตามที่คาดหวังหลายครั้งต่อแล้วไม่ได้องค์ประกอบก็ต้องรื้อใหม่เพื่อให้ผลงานอย่างที่ต้องการ หรือบางครั้งต่อแล้วเกิดความไม่ระวัง ทำให้ชิ้นงานหล่นหรือพังครืน แต่ให้เชื่อเถอะว่า ทุกครั้งที่ล้มเหลวหรือต้องรื้อออก การต่อในครั้งใหม่ย่อมจะดีกว่าเดิมเสมอ

5. สร้างความภาคภูมิใจ

ทุกครั้งที่ประกอบเลโก้สำเร็จ ผลงานที่อยู่ตรงหน้าจะช่วยสร้างความภาคภูมิใจเล็กๆ ให้กับผู้เล่น เหมือนเป็นรางวัลตอบแทนในความพยายาม พร้อมช่วยสร้างความมั่นใจให้อีกด้วย

6.สร้างทีมเวิร์กในที่ทำงาน

การให้เพื่อนร่วมทีมมีกิจกรรมผ่อนคลาย ช่วยกันต่อเลโก้ตามโจทย์ที่กำหนดและภายในเวลาที่จำกัด ยังช่วยละลายพฤติกรรม ทำให้ทุกคนได้ระดมความคิดสร้างสรรค์จากตัวต่อที่มี หลายครั้งเมื่อได้ทำกิจกรรมนี้ร่วมกัน ความสามัคคีและเห็นอกเห็นใจจะถูกก่อตัวตามขึ้นมาด้วย

7. สร้างกลยุทธ์ให้การทำงาน

เวลาต้องการระดมความคิดภายใต้โจทย์เดียวกัน หากลองให้แต่ละคนต่างต่อเลโก้ได้ตามความคิดอิสระของตัวเอง และนำเสนอผลงานให้เพื่อนตีความว่า เห็นอะไรจากภาพเลโก้นั้น โดยไม่เน้นการตัดสินว่าถูกหรือผิด และสุดท้ายให้ผู้ต่อเป็นคนนำว่าวัตถุประสงค์ของการต่อครั้งนี้ต้องการสื่อสารอะไร

วิธีนี้อาจช่วยเปิดใจและทำให้เกิดการรับฟังของคนในทีม เวลาต้องการระดมสมองเพื่อหากลยุทธ์ และช่วยลดการปะทะกันมากกว่าการพรีเซนต์ด้วยการพูดเพียงอย่างเดียว

8. สานสัมพันธ์ครอบครัว

การชวนสมาชิกในบ้านมาต่อเลโก้ เป็นการถามไถ่ความคิดกันโดยไม่ต้องพูดได้เช่นกัน สิ่งที่ออกมาอาจช่วยบอกใบ้ว่าพวกเขามีปัญหาอะไรอยู่ในใจหรือไม่ เพราะภาพที่ต่อออกมามักสะท้อนจากจิตใต้สำนึกถึงสิ่งที่เขากำลังเผชิญอยู่ บางทีสามารถช่วยแก้ความสัมพันธ์ที่ต่างหมกหมุ่นกับหน้าที่การงานของตัวเอง จนลืมเลือนคนใกล้ตัวในบ้านไปบ้าง

9. เพื่อเรียกสติปลดล็อกปัญหา

ถ้าไม่รู้จะแก้ไขกับปัญหาหรือเรื่องราวที่หมกหมุ่นอยู่ในหัวอย่างไร การต่อเลโก้ถือเป็นตัวเรียกสมาธิได้อย่างดี เมื่อได้จดจ่อกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า ภาพของการต่อเลโก้ที่เสร็จ อาจเป็นคำตอบของวิธีที่จะแก้ไขปัญหาออกมาก็ได้

10. จากสร้างภาพด้วยมือสู่การลงมือทำ

ระหว่างที่ดึงความคิดนามธรรมแปลงร่างต่อยอดออกมาเป็นภาพ ควรจดจำความรู้สึกระหว่างที่ต่อเลโก้พร้อมจำภาพเลโก้ที่สำเร็จแล้วไว้ให้ดี เพราะจะช่วยทำให้โฟกัสกับเป้าหมายได้ดีขึ้น เพราะอะไรก็ไม่สำคัญเท่ากับการริเริ่มลงมือทำบางอย่างให้เป็นรูปเป็นร่าง

เลโก้ช่วยสร้างสรรค์จินตนาการสำหรับวัยเด็ก และสิ่งนี้ยังกลายมาเป็นเครื่องมือช่วยแปลความคิดของผู้ใหญ่ที่มีเรื่องราวในใจและข้อจำกัดในชีวิตมากมาย จนไม่อาจถ่ายทอดเป็นคำพูดได้อย่างตรงไปตรงมา อย่ามองข้ามของเล่นคุ้นเคยในวัยเด็กชิ้นนี้ เพราะมันอาจปลดล็อกความรู้สึกได้มากกว่าที่คุณคิด

ที่มา
https://www.the101.world/playing-with-brick/#
https://medium.com/@paradius/lego-ตัวต่อที่มีดีมากกว่าแค่เล่น-3bd83fbf6c50
https://www.posttoday.com/life/healthy/481911
https://th.hrnote.asia/orgdevelopment/190429-jackpoomlsp/