40+ กระชากวัย ต้องใช้เงิน

พออายุเข้าหลักสี่ ส่องกระจกแต่ละทีแล้วปวดใจ ทำไมหน้าเรามาไกลขนาดนี้ ยิ่งหยิบรูปสมัยยังใสเมื่อ 10 กว่าปีก่อนมาเปรียบเทียบ โอ้ว “แก่ได้ขนาดนี้เลย” เจ็บหนักขึ้นไปอีกเวลาต้องถ่ายรูปหมู่ รูปคู่กับเด็กๆ น้องๆ ที่ทำงาน เพราะความสูงวัยมันสะท้อนออกมาบนใบหน้าอย่างชัดเจน ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าใครเป็น “ป้า”  หนำซ้ำยังถูกจำแนกให้อยู่ในกลุ่มผู้หญิงที่เรียกว่า “สาวใหญ่” แค่ได้ยินก็รู้สึกแปล๊บๆ


ไม่ว่าสมัยยังสาวเราจะเคยสวยเป๊ะแค่ไหน แต่เมื่อเวลาผ่านไป ผู้ชนะตัวจริงคือคนที่ยืนระยะความสวยได้นานกว่า แบบที่เรียกว่า “เวลาทำอะไรไม่ได้” ใคร ๆ ก็จะชื่นชมในความสวยคงเส้นคงวาของพวกนางและความสามารถในการเมนเทนตัวเองให้สาวตลอดกาล ในอีกมุมของสนามสาวใหญ่วัย 40++ จำนวนมากกลับถูกพูดถึงว่า สมัยก่อนเค้า “เคย” สวย เคยน่ารักมากเลยนะ ผอมหุ่นดีเลย แต่ตอนนี้ เอิ่ม..คงไม่ต้องถามว่าสาวๆ สวนใหญ่อยากจะถูกพูดถึงแบบไหน เพราะแน่นอนว่าผู้หญิงทุกคนก็อยากจะสวยทนสวยนาน เป็นสาวสองพันสามพันปีกันทั้งนั้นแหละ แต่จะยืนระยะความสวยได้แบบนั้นต้องดูแลตัวเองอย่างจริงจัง สม่ำเสมอและต้องทำตลอดไป!  ยิ่งวัยเกินสี่สิบ คอลลาเจนก็โบกมือลา โกรทฮอร์โมนส์แทบไม่ทำงาน น้ำหนักที่เพิ่มขึ้นพรวดๆ ความร่วงโรย หย่อนคล้อยบนใบหน้าก็มาเยือนอย่างชัดเจน ไล่ไปตั้งแต่ผิวหน้าไม่เรียบกระชับ รูขุมขนกว้าง ริ้วรอยบนหน้าผาก ขมับลึก ตีนกา หนังตาตก ใต้ตาดำลึกโบ๋ ร่องน้ำหมาก แก้มหาย ใบหน้าหย่อนคล้อยไม่ได้รูป ไปจนถึงเหนียงและรอยย่นบริเวณลำคอ ร่องรอยแห่งความสูงวัยที่กำลังทำลายความสวย ความมั่นใจ ความสุข ความสนุกในการแต่งตัว เราควรจะชะลอมันหันมารักและดูแลตัวเอง ลงทุนกับตัวเองกันเถอะ ความสวย ความสาว ความมั่นใจที่หายไปจะกลับมาเป็นของเราได้และใช้เวลาไม่นาน!


แน่นอนว่าความแก่ ความร่วงโรยเป็นเรื่องธรรมชาติ แต่ ณ วันนี้มีวิธีการทันสมัยที่ช่วยเราได้ เราแก่ช้าลงได้ หรือแม้กระทั่งสาวขึ้นได้เป็น10 ปี ด้วยเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ไฮเทค ริ้วรอยแห่งวัยหายวับ ความหย่อนคล้อยก็ยกกระชับขึ้นได้ภายในข้ามคืน! ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น ทำเสร็จในเวลาไม่ถึงชั่วโมงก็กลับไปทำงาน ไปใช้ชีวิตได้ตามปกติแล้ว บทความนี้เราจะแนะนำวิธีกระชากวัยให้สาว 40+ กลับมาสวยสดใส อ่อนกว่าวัย อย่างปลอดภัยกัน ขอบอกว่าทั้งตัวเราและคนรอบข้างเคยทำมาแล้ว ผลลัพธ์เป็นที่น่าพอใจมาก!

โบท็อก (Botox)

การฉีดโบท็อกอาจพูดได้ว่าเป็นวิธีทางการแพทย์เพื่อลดริ้วรอย ฟื้นฟูผิวและปรับรูปหน้าที่เบสิคที่สุด แพร่หลายที่สุด และที่สำคัญได้ผลเร็ว เจ็บน้อย ปลอดภัย แทบไม่มีรอยให้เห็นหลังฉีด นอกจากนั้นราคาก็ไม่แพงเมื่อเทียบกับวิธีการอื่นๆ  ดังนั้นจึงเหมาะกับมือใหม่ที่ยังไม่เคยทำสวย ลองเริ่มที่โบท็อกก่อนได้เลย คำถามต่อมาคือโบท็อกช่วยเรื่องอะไรได้บ้าง สำหรับสาวสี่สิบ ขอบอกว่าเหมาะมากเพราะ    โบท็อกเหมาะที่สุดในการลบรอยตีนกา ริ้วรอยใต้ตา เส้นริ้วบนหน้าผาก รอยย่นเวลาขมวดคิ้ว รวมทั้งคนที่มีปัญหาหน้าบาน กรามใหญ่ โบท็อกสามารถช่วยปรับรูปหน้าให้เรียวสวยได้รูป  ส่วนเรื่องราคานั้นขึ้นอยู่กับว่าฉีดบริเวณไหนบ้าง ริ้วรอยมากน้อยแค่ไหน เป็นมากก็ต้องใช้ปริมาณมากขึ้น นอกจากนั้นราคายังขึ้นกับว่าใช้โบท็อกยี่ห้อใด ปัจจุบันในบ้านเรามีโบท็อกให้เลือกมากมายทั้งของ U.S.A ซึ่งมีราคาสูงสุด คือหนึ่งขวดขนาด 100 ยู ราคาอยู่ประมาณ 20,000 บาท ส่วนโบท็อกเกาหลีทั่วไป 100 ยู ราคาประมาณ 10,000 บาท โดยโบท็อก U.S.A ซึ่งราคาสูงกว่า แต่ให้ผลการรักษาที่นานกว่าเช่นกัน โดยผลอยู่ได้ประมาณ 8 – 12 เดือน ในขณะที่ของเกาหลีจะอยู่ได้ประมาณ 4-6 เดือน ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองของแต่ละคนด้วย

ฟิลเลอร์ (Filler)

ฟิลเลอร์ เรียกได้ว่าเป็นราชินีแห่งการเติมเต็มความอ่อนเยาว์ เพราะช่วยแก้ปัญหาได้ดีที่สุดในบริเวณเนื้อผิวที่เคยเต่งตึงกลับหายไป ทั้งปัญหาใต้ตาลึก ขมับตอบ แก้มยุบ ร่องน้ำหมาก หน้าผากแบน คางตัดไม่ได้รูป สาวๆ คนไหนมีปัญหาเหล่านี้ฟิลเลอร์คือคำตอบที่ตรงที่สุดของคุณ ความดีงามของฟิลเลอร์คือ ฉีดปุ๊ปเห็นผลเลย ผิวจะอิ่มเต็ม อ่อนเยาว์ทันที และที่สำคัญปลอดภัย เพราะจริงๆ แล้วฟิลเลอร์คือสาร ไฮยารูรอนิคแอซิด (HA) ซึ่งเป็นสารธรรมชาติที่มีอยู่ในผิวของเราอยู่แล้ว แต่เมื่ออายุมากขึ้นปริมาณที่เคยมีก็ลดลงจนกระทั่งแทบจะหมดไป นอกจากนั้นฟิลเลอร์เองจะไม่สะสมในร่างกายแต่จะค่อยๆ สลายไปเองตามธรรมชาติ การฉีดใช้เวลาไม่ถึงชั่วโมง และไม่เจ็บเพราะแพทย์จะโป๊ะยาชาให้ก่อนฉีดอยู่แล้ว ฉีดเสร็จกลับบ้านไปใช้ชีวิตได้ตามปกติ โดยทั่วไปจะไม่มีรอยเขียวช้ำ หรือบางเคสอาจมีรอยช้ำจากเข็มบ้างแต่จะหายไปในหนึ่งถึงสองสัปดาห์ สามารถใช้การแต่งหน้าปกปิดรอยช้ำที่เกิดขึ้นได้ ฟิลเลอร์จะมีราคาแพงกว่า    โบท็อกแต่ผลการรักษาจะนานกว่าเช่นกัน โดยจะคงความอ่อนวัยได้นานประมาณ 1-2 ปี ค่าใช้จ่ายในการฉีดแต่ครั้งก็ขึ้นกับอาการและบริเวณที่ฉีด รวมทั้งยี่ห้อที่เลือกใช้ ปัจจุบันฟิลเลอร์มีให้เลือกหลายยี่ห้อและหลายชนิด โดยแต่ละชนิดก็จะเหมาะกับการฉีดแต่ละส่วน เช่น ถ้าฉีดใต้ตาต้องใช้ฟิลเลอร์ที่เนื้อเหลว แต่ถ้าฉีดขมับหรือคางต้องใช้ฟิลเลอร์เนื้อแข็งกว่าเป็นต้น ราคาฟิลเลอร์โดยเฉลี่ย 1 CC ประมาณ 15,000 – 20,000 บาท ยกตัวอย่าง ฉีดใต้ตาสองข้าง  1 CC ฉีดขมับสองข้าง 2 CC ฉีดร่องน้ำหมากสองข้างอีก  1 CC ก็ลองบวกราคากันดู

ไฮฟู (High Intensity Focus Ultrasound)

สำหรับใครที่มีปัญหาผิวหน้าหย่อนคล้อย ไม่กระชับ โครงหน้าไม่ได้ได้รูป และมีงบประมาณไม่มากนักบวกกลัวเข็ม กลัวเจ็บ HIFU เป็นทางเลือกที่เหมาะสำหรับคุณ เพราะเมื่อเทียบกับเครื่องยกกระชับแบบไม่ใช้เข็มตัวอื่นๆ HIFU เจ็บน้อยสุดและจ่ายเบาสุด แต่ผลอยู่ได้แค่ประมาณ  4-6 เดือน ดังนั้นก็ต้องคอยทำบ่อยๆ แต่ดีคือตอนทำเจ็บไม่มาก หมอจะแค่ใช้ก้อนน้ำแข็งประคบให้ชาๆ ก็ยิงได้เลย ทำเสร็จไม่มีรอยเข็มเหมือนโบท็อกกับฟิลเลอร์ แต่ทำ HIFU ต้องใจเย็นนิดเพราะจะเห็นผลการรักษาเต็มที่ใน 1 เดือน กรอบหน้าจะชัดสวยได้รูปขึ้น บริเวณแก้ม คิ้ว จะยกขึ้น ค่าใช้จ่ายในการทำ HIFU ขึ้นอยู่กับว่ารักษาบริเวณใดบ้างบางคลินิกจะคิดราคาแยกเป็นส่วนๆ เช่น ส่วนเหนือคิ้วขึ้นไป ส่วนกลางใบหน้า ส่วนล่างของใบหน้าคือใต้จมูกถึงใต้ลำคอ เป็นต้น โดยในแต่ละโซนอาจจะยิงประมาณ 300 ช็อต ซึ่งโดยเฉลี่ย 300 ช็อต ราคาอยู่ประมาณ 10,000 บาท ถ้าเจอราคาที่ถูกมาก เช่น 3,000 บาท  ก็ขอให้ตั้งข้อสังเกตไว้ก่อนว่าอาจใช้เครื่องคุณภาพต่ำ ทำไปแทบไม่ได้ผลหรือได้ผลสั้นมากไม่ถึงสองเดือนก็กลับมาเหมือนเดิม

อัลเทอร่า (Ultherapy)

เป็นการยกระชับผิว ลดริ้วรอยด้วยคลื่นอัลตราซาวนด์ลงลึกถึงชั้นกล้ามเนื้อส่วนบนใต้ผิวหนัง ชั้นเดียวกับการผ่าตัดศัลยกรรมเพื่อดึงหน้าให้ยกกระชับ โดยคลื่นอัลตราซาวนด์นี้จะถูกเปลี่ยนเป็นความร้อน ซึ่งทำให้เส้นใยคอลลาเจนเดิมที่หย่อนคล้อยเริ่มหดตัวกระชับขึ้น และยังช่วยกระตุ้นกระบวนการสร้างคอลลาเจนใหม่ขึ้นมา ทำให้ผิวแลดูอ่อนเยาว์อย่างเป็นธรรมชาติ โดยไม่ต้องผ่าตัด ฟังดูอาจคล้ายกับ HIFU เพราะใช้คลื่นอัลตราซาวน์เหมือนกัน แต่อัลเทอร่าเป็นเครื่องจากอเมริกา ในขณะที่ HIFU เป็นของเกาหลี โดยอัลเทอร่าจะให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าและอยู่ได้นานกว่า คือผลการรักษาจะอยู่ได้ 1-2 ปี เลยทีเดียว แต่ราคาก็สูงกว่ามากเช่นกัน คือถ้ายกกระชับทั่วไปหน้าไล่ตั้งแต่คิ้วตก หนังตาตก ไปจนยกกระชับแก้ม ร่องแก้ม และสร้างกรอบหน้าให้สวยเป๊ะราคาจะอยู่ที่ประมาณ 60,000 บาท แต่อย่างที่บอกจ่ายครั้งเดียวสวยทนถึงสองปี ไม่ต้องมานั่งทำบ่อยๆ  แต่ผลที่อยู่ได้นานก็มาจากคลื่นที่เข้มข้นขึ้นด้วย ดังนั้นจะสวยต้องยอมเจ็บสักนิด ทำอัลเทอร่าจะเจ็บกว่าการทำ HIFU แต่ก็ไม่ได้เกินกว่าที่จะทนได้แน่นอน เพราะมีการทายาชาก่อน ดังนั้นใครมีปัญหาผิวที่หย่อนคล้อยมาก แต่ไม่มีปัญหาเรื่องไขมันบนใบหน้า รวมทั้งไม่อยากเสียเวลาทำบ่อยๆ อัลเทอร่าเป็นทางเลือกที่เหมาะ

เทอร์มาจ (Thermage)

เป็นอีกวิธีในการลดริ้วรอย ยกกระชับ ปรับรูปหน้า และสร้างคอลลาเจนให้ผิว โดยไม่ต้องผ่าตัดและไม่ต้องใช้เข็มเช่นเดียวกับไฮฟูและ  อัลเทอร่า แต่ต่างกันที่เทอร์มาจใช้คลื่นวิทยุในการสร้างความร้อนใต้ผิวหนัง และเหมาะกับคนที่มีไขมันบนใบหน้าเยอะ เพราะเทอร์มาจจะช่วยเรื่องลดไขมันบนใบหน้าได้ดีกว่าอัทเทอร่า ที่จะเด่นเรื่องยกกระชับเฉพาะจุดมากกว่า เทอร์มาจราคาสูงพอๆ กับอัลเทอร่า เป็นเทคโนโลยีของอเมริกาเช่นกัน ให้ผลการรักษาที่นานเหมือนกันคือ 1-2 ปี ราคาโดยเฉลี่ยทำทั่วใบหน้าประมาณ 60,000 บาท และเช่นเดียวกับอัลเทอร่าคือจะเห็นผลการรักษาเต็มที่ภายใน 3 เดือน ระหว่างทำก็เจ็บพอๆ กับอัลเทอร่า ดังนั้นจะเลือกตัวไหนระหว่าง  เทอร์มาจกับอัลเทอร่าก็ดูตามปัญหาที่มี พูดง่ายๆ ใครหน้าบาน แก้มห้อย ไขมันบนหน้าเยอะเลือกเทอร์มาจ ใครหน้าผอมแต่เริ่มหย่อนคล้อย หนังตาตก แก้มตก ก็จัดอัลเทอร่าไป

จากวิธีการทางการแพทย์ที่แนะมาทั้งหมดข้างบน เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของวิทยาการในการชะลอวัยเท่านั้น แต่ทั้ง 5 ตัวที่คัดมาเป็นวิธีที่เหมาะกับการยกกระชับ ลดริ้วรอยที่ปลอดภัยและเหมาะกับปัญหาของสาว 40 บวกมากที่สุด บางตัวสามารถทำร่วมกันได้เลย เช่น เราสามารถฉีดโบท็อกเพื่อลบตีนตา พร้อมกับฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ร่องแก้มไปพร้อมกันได้ หรือทำ HIFU แล้วต่อด้วยโบท็อกก็ได้อีก ทั้งนี้ขึ้นกับการพิจารณาของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ


อ่านมาถึงตรงนี้หลายๆ คนอาจจะเริ่มคิดว่าแพงจังจะเอาเงินที่ไหนมาทำ หรือบางคนอาจจะบอกว่าเคยเห็นโฆษณาจากบางที่ราคาถูกกว่าที่บอกตั้งเยอะ อยากย้ำตรงนี้ว่าใบหน้าของเรา ร่างกายของเรา อย่าเสี่ยงเพียงเพราะเห็นแก่ราคาเลย มันจะไม่คุ้ม อันตรายหน้าพังแล้วจะเสียใจหนักทีหลัง ขอให้เลือกคลินิกที่เชื่อถือได้ ใช้ตัวยาแท้ ใช้เครื่องมือที่มีคุณภาพสูง เลือกแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ มีประสบการณ์สูง ก่อนจะตัดสินใจทำทีไหนศึกษาข้อมูลเยอะๆ อ่านรีวิวหลายๆ ที่ คลินิกที่ใช้ของแท้ ของดี และมีคุณหมอที่เก่งๆ ฝีมือดี ทำออกมาสวย มักจะมีค่าบริการที่สูงตาม แต่นั่นถือว่าคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไป และจริงๆ แล้วเรื่องค่าใช้จ่ายก็ไม่ใช่ปัญหา


เดี๋ยวนี้ธนาคารก็มีตัวช่วยให้คุณสวยได้อย่างปลอดภัยได้ทันที ทั้งรูปแบบการจ่ายผ่านบัตรเครดิตไปก่อนแล้วขอเปลี่ยนยอดนั้นเป็นการผ่อนชำระรายเดือนกับ SCB ดีจัง หรือกรณีที่บางคลินิกที่ไม่รับบัตรเครดิตหรืออาจมีส่วนลดเพิ่มถ้าจ่ายเงินสดก็สามารถขอเปลี่ยนวงเงินที่เหลือในบัตรเครดิตของคุณเป็นเงินสดและยังสามารถเลือกผ่อนชำระเป็นรายเดือนได้ด้วย หรือจะกู้เงินสดดอกเบี้ยต่ำ ผ่อนเบาๆ กับ สินเชื่อ UP ก็เป็นอีกทางเลือกที่ช่วยให้คุณย้อนวัย กลับมาสวยกลับมามั่นใจ ได้อย่างปลอดภัย โดยไม่ต้องรอเก็บเงิน ใครที่เป็นลูกค้า SCB อยู่แล้วสามารถสมัครด้วยตัวเองง่ายๆ ผ่าน SCB EASY App ได้เลย

รักตัวเอง ดูแลตัวเอง รับรองโอกาสดีๆ วิ่งมาหาคุณแน่นอน เรื่องความสวยให้  SCB ช่วยนะคะ