Pay it Forward: I am a Businesswoman แบบ ปอย-ตรีชฎา

ทุกการลงทุนล้วนมีความหมายต่อชีวิต และทุกชีวิตล้วนมีเรื่องราวเบื้องหลังมากมาย คุณปอย ตรีชฎา เพชรรัตน์ ก็เช่นกัน เบื้องหลังความสวยงามในวงการบันเทิง ใครจะรู้ว่าเธอ คือ นักธุรกิจหญิงผู้แข็งแกร่ง  ที่สู้ไม่ถอยกับการทำธุรกิจที่ตัวเธอรักจนประสบความสำเร็จ  พบกับการเปิดใจครั้งแรกในฐานะของผู้บริหาร 3 บริษัทจาก 3 ธุรกิจ ที่จะมาแชร์มุมมองแนวคิดในการบริหารธุรกิจ ตลอดจนส่งต่อประสบการณ์อันเป็นประโยชน์จากการวางแผนการเงินในแบบปอย-ตรีชฎา

poyd-info

จากดาราสาวสู่เส้นทางนักธุรกิจหญิง

ถ้าพูดถึงดาราสาวมากฝีมือเป็นที่รู้จักทั้งในประเทศและต่างประเทศโดยเฉพาะในฮ่องกงและจีนแผ่นดินใหญ่ต้องมีชื่อของคุณปอยอยู่ในลิสต์อย่างแน่นอน  คุณปอยได้เล่าถึงจุดเริ่มต้นของบทบาทการเป็นนักธุรกิจหญิงว่าเป็นคนชอบจินตนาการ  ชอบทำสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ให้เป็นจริง  ตอนคิดจะสร้างแบรนด์คุณปอยรู้ดีว่าจุดแข็งของผลิตภัณฑ์คือเป็นสินค้าที่มีคุณภาพเหนือกว่าระดับมาตรฐาน  เมื่อเป็นเช่นนั้นเป้าหมายในการสร้างแบรนด์จึงไม่ใช่การขายภายในประเทศเพียงอย่างเดียวจะต้องสร้างให้เป็น Global  Brand ให้ได้  แต่จะทำอย่างไรที่จะเพิ่มขีดความสามารถและเสริมศักยภาพของแบรนด์ให้แข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิม   ด้วยเหตุนี้เองขึ้นจึงมุ่งหน้าไปที่บริษัท Ogilvy เอเจนซี่อันดับหนึ่งของไทย  เพราะรู้ดีว่าไม่ใช่ทุกเรื่องที่เชี่ยวชาญจึงต้องพึ่งพามืออาชีพมาช่วยสร้างแบรนด์และวางกลยุทธ์ PR จนสามารถปักหลักวางรากฐานแบรนด์ได้สำเร็จ  คุณปอยยังมองอีกว่าการพัฒนาแบรนด์ที่แท้จริงคือ  การพัฒนาคุณภาพสินค้าให้ดี   เมื่อสินค้าดีแล้วก็จะขายตัวมันเองได้  ไม่ใช่สินค้าขายได้เพราะการทำมาร์เก็ตติ้งเพียงอย่างเดียว  จากความคิดตั้งแต่เริ่มต้นทำธุรกิจในการวางรากฐานแบรนด์ให้แข็งแกร่ง  คุณปอยบอกว่า ตั้งแต่เปิดบริษัท เฟอร์ฟู แปซิฟิก จำกัด  ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจากสมุนไพร เมื่อปี 2554 จนถึงปัจจุบันค่าใช้จ่ายในการทำมาร์เก็ตติ้งน้อยมาก ทำให้สามารถมีเวลาไปดูแลลูกค้าเก่าและพัฒนาในเรื่องคุณภาพสินค้าให้ดีมากกว่าเดิม

ไม่คุ้นเส้นทาง ย่อมหลงทางเป็นธรรมดา

สี่เท้ายังรู้พลาด นักปราชญ์ยังรู้พลั้ง แล้วคนที่ไม่เคยมีประสบการณ์ในการทำธุรกิจย่อมต้องเจอกับอุปสรรคเป็นธรรมดา  คุณปอยก็เช่นเดียวกันได้เล่าถึงบทเรียนอันล้ำค่าที่หาไม่ได้จากในตำรา  ตอนที่เปิดตัวขายสินค้าครั้งแรกคุณปอยคิดแค่ว่าจะขายสินค้าเองแบบ B to C ทำโปรโมทชั่นผ่าน Instagram ให้คนในออฟฟิศ 2 คนเป็น Call Center มี 10 คู่สายโทรศัพท์  ทำลิสต์คำถามคำตอบเตรียมไว้  ปรากฏว่าคู่สายเต็มสินค้าขายหมดทันที  ส่วนอีเมลที่เตรียมให้ลูกค้าส่งหลักฐานการโอนเงินก็เกิด Error เพราะมีมากกว่า 5 หมื่นฉบับ  ทำให้ได้เรียนรู้ข้อผิดพลาดว่าต้องบริหารเรื่องช่องทางการขายให้มีประสิทธิภาพกว่าเดิม


ต่อมาได้มีบริษัทมาขอเป็นตัวแทนจำหน่ายและกระจายสินค้า  ตอนแรกคุณปอยมองว่าดีเพราะตัดปัญหาในเรื่องช่องทางการขาย  ไม่ต้องติดต่อลูกค้าหรือจัดส่งสินค้าเอง  ได้รับเงินก้อนแล้วสามารถนำไปต่อยอดลงทุนได้  แต่ความจริงไม่ได้เป็นอย่างที่คิด  แม้ว่าปัญหาเรื่องช่องทางการขายจะหมดไป   แต่ปัญหาใหม่ก็เดินตามเข้ามา เพราะไม่สามารถควบคุมเรื่องราคาสินค้าและการสื่อสารผลิตภัณฑ์ได้  ทำให้คุณปอยต้องออกมาตั้งหลักใหม่อีกครั้ง   ในครั้งนี้จึงมองรอบด้านหาโซลูชั่นเพื่อแก้ปัญหาที่ผ่านมา  โดยสร้างช่องทางการขาย   2   ช่องทางได้แก่   e-Commerce ที่มีระบบให้ลูกค้าสามารถซื้อสินค้าได้โดยตรง  แก้ปัญหาการขายผ่านตัวแทนที่ไม่สามารถควบคุมได้  และขายผ่าน Modern Trade  เช่น  Watson  Eve&Boy  และร้านขายยาชั้นนำ


การจะก้าวเข้าไปสู่  Modern Trade ไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับธุรกิจ SMEs  แล้วมีเทคนิคอะไรถึงประสบความสำเร็จ  คุณปอยเล่าว่า  ตั้งแต่เริ่มตั้งบริษัทได้วางแนวทางเอาไว้ว่าจะเป็น SMEs ที่มีมาตรฐานมากที่สุด  เวลาสร้างโปรดักส์จะนึกเสมอว่าต้องทำสินค้าให้เกินกว่ามาตรฐานทั่วไป  เปรียบเหมือนอาคารหลังเล็กๆ ที่ไม่มีฝุ่นละอองเลยทุกซอกทุกมุม  อาคารยิ่งเล็กยิ่งดี  เพราะสามารถควบคุมได้ทั้งหมด  พอต้องเอาสินค้าไปเสนอขายกับ Modern Trade ทำให้ไม่ต้องปรับอะไรใหม่  เพราะตัวสินค้าได้มาตรฐานเหนือกว่าสินค้าทั่วไปอยู่แล้ว    และคุณปอยยังได้สร้างความน่าเชื่อถือให้สินค้ามากขึ้นไปอีก ด้วยการนำผลิตภัณฑ์ไปผ่านการรับรองคุณภาพจากสถาบันชั้นนำทั้งของภาครัฐและเอกชนที่ได้รับการยอมรับจากกระทรวงสาธารณะสุข  ทำให้เวลาไปยื่นเสนอขายที่ Modern Trade แทบไม่ต้องทำอะไรเลย  ที่สำคัญเวลาออกโปรดักส์จะเลือกทำสิ่งที่ใหม่  ที่เมืองไทยไม่เคยทำมาก่อน  เพราะอะไรยิ่งยากมากเท่าไหร่   โอกาสที่จะเกิดคู่แข่งหรือมีคนทำตามน้อยมาก  นี่คือเคล็ดลับที่ทำให้การทำธุรกิจประสบความสำเร็จมากว่า 10 ปี

ใช้ฟรีแลนซ์ช่วยสร้าง Super Productive

การก่อตั้งบริษัทย่อมต้องมีพนักงานประจำเป็นขุมกำลังในการขับเคลื่อนให้ไปสู่เป้าหมาย  แต่สำหรับคุณปอย คิดในมุมต่าง  เพราะบทเรียนในอดีตจากความผิดพลาดในการบริหารทรัพยากรบุคคล  พบว่าแทนที่ผู้จัดการจะดูเรื่องผลงานกลับโฟกัสในเรื่องขาดลามาสาย  ซึ่งไม่มีประโยชน์ต่อธุรกิจ  ทำให้ต้องมารีเซ็ทใหม่  หาวิธีการใหม่  ซึ่งจากการเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับหลายแบรนด์ ประกอบกับเป็นคนใฝ่หาความรู้จากการทำงานจึงขอโอกาสเข้าไปร่วมประชุมกับผู้บริหาร  ทำให้เรียนรู้ว่าการใช้ฟรีแลนซ์ในการขับเคลื่อนบริษัทช่วยสร้าง  Super Productive มากกว่าพนักงานแบบ Full Time  จนปัจจุบันบริษัทมีพนักงาน Full Time เพียงแค่  20% นอกนั้นจะเป็นฟรีแลนซ์  และในอนาคตจะให้ทำงานแบบ Work from Home เพราะได้เซ็ทระบบทั้งหมดไว้แล้วสามารถ Cross Check งานต่างๆ ได้ทันที  ตอนนี้เพียงแค่ดูภาพรวมที่ออกมาเท่านั้น

 

จากผู้ผลิตอาหารเสริมสู่ถนนสาย Bio Pharma

ด้วยความเป็นคนที่ชอบคิดนอกกรอบและจากการรู้จักอาจารย์ที่เป็นนักวิจัย รวมถึงมีเพื่อนที่อยู่ในวงการเภสัชกรรมและวิทยาศาสตร์ ทำให้มีแนวคิดในการทำธุรกิจวิจัยยาและอุปกรณ์ทางการแพทย์  คุณปอยได้เล่าไอเดียที่คิดตั้งบริษัทว่า  เริ่มจากประเทศไทยมีจุดแข็งที่เกษตรกรรม  มีพืชสมุนไพรนานาชนิด  มีบริการทางการแพทย์ที่ได้รับการยอมรับในระดับโลก  ประกอบกับไทยมีผลงานวิจัยที่เกี่ยวกับนวัตกรรมและเทคโนโลยีสามารถต่อยอดทำเป็นธุรกิจได้  และจากแบ็กกราวด์ที่สำเร็จการศึกษาจากคณะวิทยาศาสตร์ สาขาเทคโนโลยีเครื่องสำอาง ม.นอร์ทเชียงใหม่  และได้เสริมความรู้เพิ่มเติมในหลายหลักสูตร เช่น  ประกาศนียบัตรประสารทวิทยาศาสตร์  หลักสูตรวิศวกรรมพันธุกรรม ทำให้มีกลุ่มอาจารย์และเพื่อนที่เป็นเครือข่ายในด้านเหล่านี้ได้มาพูดคุยและเกิดไอเดียทำธุรกิจ  จึงรวมตัวกันตั้งบริษัท Bio Pharma Tech ขึ้นมาโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อการวิจัยพัฒนายาและอุปกรณ์ทางการแพทย์  และได้ร่วมมือกับหลายสถาบันทั้งในประเทศและต่างประเทศ   เช่น   นายแพทย์ Erik H.Fleischman  ในการร่วมทำวิจัยผลิตภัณฑ์ , สถาบันเภสัชศาสตร์ ม.รังสิต,  ศูนย์วิจัยสุขภาพและความงามมาโนเซ่, ห้องแลปจากเวียดนาม และในอนาคตหลังจากโควิดสิ้นสุดคุณปอยตั้งเป้าว่าจะไปขอจดสิทธิบัตรยาหรือ FDA ที่สหรัฐอเมริกา เพื่อทำธุรกิจนี้ให้เป็นระดับ Global ต่อไป  เส้นทางธุรกิจในสาย Bio Pharmaceutical  ของคุณปอยจะเป็นอย่างไรคงต้องติดตามกันในเร็วๆ นี้

ถนนอีกสายสู่นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์

ด้วยภาพลักษณ์ที่ดูเรียบร้อยนุ่มนวล  ทำให้หลายคนนึกไม่ถึงว่าธุรกิจตัวถัดมาที่คุณปอยได้จับคือการเป็นนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่จังหวัดภูเก็ต  ซึ่งเป็นสมรภูมิเดือดที่หากใครไม่รู้ลึกรู้จริงในพื้นที่โอกาสพลาดมีสูงมาก  แต่สำหรับคุณปอยได้พิสูจน์แล้วว่า  เธอสามารถก้าวมาเป็นนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์มือทองได้อย่างงดงามการันตีจาก 4 โครงการระดับ Hi-End ที่ Sold Out  เส้นทางการเป็นนักพัฒนาอสังหาฯ เกิดขึ้นได้อย่างไร  คุณปอยเล่าว่าเพราะพื้นเพเป็นคนภูเก็ตทำให้เข้าใจลักษณะของทำเลที่นี่ได้ดี  ประกอบกับได้เดินทางไปต่างประเทศบ่อยทำให้เข้าใจ Insight ความต้องการของชาวต่างชาติว่าชื่นชอบอะไร ทำให้มองเห็นโอกาสทำธุรกิจและรู้ว่า คือ น่านน้ำสีฟ้าที่หาคู่แข่งได้ยาก


แม้คุณปอยจะบอกว่าธุรกิจนี้เป็นเพียงแค่งานอดิเรก  แต่ด้วยความที่ต้องรู้ลึกรู้จริงในสิ่งที่ทำ  ก่อนลงทุนจะเข้าไปลุยด้วยตัวเองเสียก่อน  ใช้เรดาร์ตั้งแต่การหาทำเลที่ตั้ง  ห่างไกลชุมชน  มีต้นไม้ใหญ่  ดูคุณภาพดิน  การเลือกใช้โครงสร้างอาคารฯลฯ  รวมทั้งการหาข้อมูลเชิงลึกที่เกี่ยวข้องกับภาครัฐ  ทั้งราคาประเมินที่ดิน กฎหมายข้อห้าม  ข้อจำกัดต่างๆ  ระบบสาธารณูปโภค  ที่ดินติดกับใคร  และสถาบันการเงิน  เรียกได้ว่าคุณปอยมีเช็คลิสต์ยาวเป็นหางว่าวเพื่อมองหาทำเลที่ต้องการอย่างแท้จริง  เพราะความใฝ่เรียนรู้และลงมือทำจริงด้วยตัวเอง  ทำให้คุณปอยสามารถวิเคราะห์โครงการ ประเมินความเสี่ยงและหาความเป็นไปได้ในธุรกิจ จนประสบความสำเร็จในฐานะนักพัฒนาอสังหาริทรัพย์

Wealth Management  แบบปอย-ตรีชฎา

หลายคนสามารถหาเงินได้มาก  แต่จะมีสักกี่คนที่สามารถบริหารเงินให้งอกเงยหรือสร้าง Passive Income โดยไม่ต้องลงแรงให้เหนื่อย  ในส่วนคุณปอยที่มีรายได้เข้ามาหลายทางทั้งจากงานในวงการบันเทิงและการจับธุรกิจที่หลากหลาก  ทำให้อยากรู้ว่าในเรื่องการบริหารความมั่งคั่ง หรือ Wealth Management ในแบบคุณปอยเป็นอย่างไร  เธอเล่าว่าได้ค้นพบความมหัศจรรย์ในเรื่อง  Financial Literacy  จากการอ่านหนังสือ “พ่อรวยสอนลูก” หรือ Rich Dad Poor Dad ของ Robert Kiyosaki หนังสือขึ้นหิ้งด้านการเงินการลงทุน  ที่ได้จุดประกายให้เห็นความสำคัญของหนี้สินและทรัพย์สินว่าแตกต่างกันอย่างไร  ทำให้หันมาทบทวนวงจรการเงินของตัวเองอย่างรอบคอบ  วิเคราะห์งบดุลชีวิต  เรียนรู้ที่จะสร้างวินัยทางการเงินและรู้จักการลงทุนให้เงินงอกเงย  พร้อมส่งต่อความรู้ไปยังคนในครอบครัวซึ่งก็คือน้องของเธอนั่นเอง  เพราะคุณปอยมองว่าถ้าหากน้องรู้จักการบริหารเงินและการลงทุนแล้ว   ต่อไปไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม  น้องก็ยังสามารถอยู่รอดยืนบนลำแข้งของตัวเองได้


ก่อนจากกันคุณปอยได้ฝากข้อคิดที่เป็นแรงบันดาลใจในการสร้างวินัยทางการเงินว่า ขอยกข้อคิดจากหนังสือ  Misbehaving  เศรษฐศาสตร์พฤติกรรม ของ Richard H.Thaler ที่ว่าในอดีตเวลาวางแผนธุรกิจหรือวางแผนการเงิน  คนจะคิดว่าทำอย่างไรให้ได้มากที่สุด(Maximize) ซึ่งวิธีการนี้มันเก่าไปแล้ว  ในตอนนี้ต้องคิดว่าทำอย่างไรให้เหมาะสมกับคุณภาพชีวิตของตัวเรามากที่สุด(Optimize) เพราะถ้า Maximize มากๆ แล้วไม่รู้ว่าจะเอาไปทำอะไรหรือ ต่อยอดความสุขได้อย่างแท้จริงหรือเปล่า  ถ้าเป็นแบบนั้นทำแบบพอดีจะดีกว่า  รวมไปถึงการบริหารการเงินต้องรู้จักตัวเองว่าต้องการอะไร  ยิ่งตอนนี้รายได้หายาก  การตัดรายจ่ายง่ายกว่า  เราเลือกชีวิตเรา  ไม่ใช่คนอื่นเลือก  ถ้าหากเข้าใจเรื่องต้นทุน  เข้าใจเรื่องรายจ่าย  ก็บริหารความมั่งคั่งได้  นี่คือเคล็ดลับการบริหารเงินของคุณปอย


การเป็นนักธุรกิจหญิงที่ประสบความเสร็จของคุณปอยได้พิสูจน์ให้เห็นว่า ไม่ได้เกิดจากการเป็นคนมีชื่อเสียงเพียงอย่างเดียว  แต่มาจากความมุ่งมั่น ทุ่มเท  รู้ลึก  รู้จริง ใฝ่หาความรู้  พิถีพิถันทุกรายละเอียด เพื่อสานฝันการทำธุรกิจและพัฒนาผลิตภัณฑ์คุณภาพที่ตอบโจทย์และเข้าใจ Insight ของลูกค้าอย่างแท้จริง โดยไม่ได้มุ่งหวังเพียงผลกำไรแต่อย่างเดียว   จึงเป็นกุญแจดอกสำคัญที่ไขสู่ความสำเร็จบนถนนสายธุรกิจของนักธุรกิจหญิงที่มีชื่อว่าปอย-ตรีชฎา


ติดตามย้อนหลังได้ -ที่นี่-

ที่มา : SCB TV ซีรีส์ "Pay it Forward" ตอน "I am a Businesswoman" ทาง Facebook SCB Thailand วันที่  25 มิ.ย. 63