การก่อหนี้ที่ดีคืออะไร

มีหนี้มีแต่ข้อเสียจริงหรือ? คนทั่วไปอาจมองว่าการมี “หนี้” เป็นสิ่งที่ไม่ดี เป็นสิ่งที่ต้องอยู่ให้ไกล เพราะเป็นพันธนาการต่อการมีอิสรภาพทางการเงิน แต่ความคิดนี้ไม่ถูกต้องเสียทีเดียว เพราะในความจริงแล้ว “หนี้ที่ดี” ก็มีอยู่ แต่หนี้แบบไหนกันละถึงจะถือว่าเป็นหนี้ที่ดี บทความนี้จะมาไขข้อสงสัยกัน

นักวางแผนทางการเงินกล่าวว่าหนี้มีอยู่สองประเภทคือหนี้ที่ดี และหนี้ที่ไม่ดี สำหรับหนี้ที่ดีคือ หนี้ที่จะช่วยเพิ่มรายได้ สร้างความมั่งคั่งให้กับเราในอนาคต เช่นหนี้บ้าน หนี้เพื่อทำธุรกิจหรือต่อยอดธุรกิจ หนี้เพื่อการศึกษา เป็นต้น ส่วนหนี้ที่ไม่ดี เช่นหนี้ที่เกิดจากการใช้จ่ายต่างๆ ที่แทบไม่ส่วนในการช่วยเพิ่มความมั่งคั่งหรือเพิ่มรายได้แต่อย่างใด


คำถามที่ต้องถามตัวเองก่อนการก่อหนี้ว่าหนี้นั้นเป็นหนี้ที่ดีจริงหรือไม่คือ “เราจะหาเงินได้มากขึ้นจากการก่อหนี้มากกว่าจำนวนเงินที่เราจ่ายหนี้ทั้งหมดหรือไม่?” เมื่อรวมทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย หนี้ที่จะก่อนั้นสมเหตุสมผลหรือไม่ หนี้นั้นจะสร้างมูลค่าเพิ่มหรือไม่ เรามีวิธีการอื่นที่จะทำให้เงินงอกเงยมากกว่าการกู้เพื่อการลงทุนหรือไม่? ในระยะเวลาที่เท่ากันมีการลงทุนอื่นๆที่คุ้มค่ากว่าหรือไม่ เพื่อเราจะได้ ชั่งใจได้ถูกว่าหนี้นั้นจะนำมาซึ่งผลกำไรที่ดีในการลงทุนหรือหนี้นั้นจะกลายเป็นภาระกันแน่ ซึ่งถ้ามองในมุมนี้หนี้บัตรเครดิตก็สามารถถือว่าเป็นหนี้ที่ดีได้ถ้าคุณจ่ายหนี้ทั้งหมดในแต่ละเดือนโดยไม่ต้องเสียดอกเบี้ยแถมยังได้คะแนนสะสมหรือแคชแบ็คกลับมาอีกด้วย


3-types-good-debt-1

หนี้ที่ดี เช่นสินเชื่อบ้าน เป็นหนึ่งในหนี้ที่ดีที่สุดและปลอดภัยที่สุด เพราะแทบจะเป็นไปไม่ได้ที่คนชั้นกลางทั่วๆ ไปจะมีเงินสดมากพอที่จะซื้อบ้าน และบ้านเป็นหนึ่งในปัจจัย 4 ที่จำเป็นในการดำรงชีวิต ในสภาวะเศรษฐกิจทั่วไปบ้านหรืออสังหาริมทรัพย์อื่นๆ จะมีราคาสูงขึ้นเรื่อยๆ ตามระยะเวลา ดังนั้นค่าผ่อนบ้านที่เราจ่ายไปทุกเดือนก็คือการลงทุนเพื่อทรัพย์สินในอนาคตนั่นเอง ยิ่งถ้ารวมกับการได้ใช้ปะโยชน์เป็นที่อยู่อาศัยหรือปล่อยเช่า ยิ่งทำให้การกู้เงินเพื่อซื้อบ้านคุ้มค่าขึ้นไปอีก นอกจากนั้นโดยปกติมูลค่าของอสังหาริมทรัพย์ที่เพิ่มขึ้นตามเวลายังสามารถเอาชนะเงินเฟ้อได้ด้วย และยิ่งถ้าประกอบกับการวางแผนการชำระสินเชื่อที่ดี เช่น การรีไฟแนนซ์เมื่อครบกำหนดระยะเวลาที่ธนาคารให้ดอกเบี้ยต่ำ ซึ่งปกติจะทำเมื่อครบ 3 ปี บวกกับการโปะหนี้หรือชำระหนี้มากกว่ายอดที่ต้องจ่ายรายเดือนก็จะช่วยให้ประหยัดดอกเบี้ย และปิดหนี้ได้เร็วมากขึ้นหลายปีอีกด้วย

หนี้เพื่อการศึกษา โดยทั่วไปการศึกษาที่สูงขึ้นจะทำให้มีเงินเดือนหรือมีรายได้ที่สูงขึ้น แต่ก็มีกฎในการกู้ยืมเพื่อการศึกษาว่าไม่ควรกู้เงินเพื่อการศึกษาสูงกว่ารายได้ที่คาดว่าจะได้รับในปีแรกของการทำงาน เช่นถ้าคิดว่าเมื่อเรียนจบมาจะได้รับเงินเดือนเดือนละ 20,000 บาท เท่ากับว่าหนึ่งปีจะมีรายได้ 240,000 บาท ก็แปลว่าไม่ควรกู้ยืมเงินเพื่อการศึกษามากกว่า 240,000 บาทนั่นเอง และเมื่อทำงานไปเรื่อยๆ เงินเดือนที่ได้ก็จะค่อยๆ สูงขึ้นจะรู้สึกว่าภาระหนี้เบาลงและสามารถโปะหนี้ได้เร็วขึ้นอีกด้วย

หนี้เพื่อทำธุรกิจหรือขยายธุรกิจ หลายคนมีไอเดียธุรกิจที่ดี เจอทำเลทองที่ดี แต่ไม่มีเงินทุน การกู้เงินเพื่อทำธุรกิจจึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ เพราะหากสามารถสร้างรายได้ทำกำไรได้มากกว่าเงินต้นและดอกเบี้ยที่ยืมมาก็ถือว่าเป็นหนี้ที่ดี แต่ข้อควรระวังและพึงปฏิบัติก่อนการกู้เพื่อทำธุรกิจคือ การวางแผนธุรกิจที่ดีที่ชัดเจนก่อนการกู้ ทั้งรูปแบบในการดำเนินธุรกิจ กลุ่มลูกค้าประมาณการรายรับรายจ่ายในแต่ละเดือน ผลกำไร เป้าหมายของธุรกิจในอนาคต เชื่อว่าการที่คิดจะกู้เงินทำธุรกิจจส่วนตัว ย่อมมีไอเดียทางธุรกิจอยู่ในหัวบ้างแล้ว แต่แผนการเหล่านี้จะช่วยให้มองเห็นภาพรวมของธุรกิจชัดขึ้น และทำให้รู้ถึงข้อผิดพลาดต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นระหว่างทำธุรกิจ เพื่อจะได้เตรียมการแก้ไขได้ทันท่วงที

กู้เงินไม่ใช่เรื่องน่ากลัวหากคุณสามารถจัดการและวางแผนการชำระหนี้เอาไว้เป็นอย่างดีและรอบคอบ ที่สำคัญไม่ก่อหนี้เกินตัวแต่ไม่ว่าคุณจะลงทุนอะไรก็ตาม ขอให้คุณย้ำกับตัวเองไว้เสมอว่า ทุกการลงทุนมีความเสี่ยง ต้องพิจารณาอย่างถี่ถ้วนก่อนลงมือ ทุกครั้ง สนใจสินเชื่อเพื่อซื้อบ้านใหม่กับข้อเสนอดีๆ จาก SCB อ่านรายละเอียดได้ที่นี่


อ้างอิง

https://www.cnbc.com/2020/07/20/good-debt-vs-bad-debt-why-what-youve-been-told-is-probably-wrong.html#:~:text=%22Good%22%20debt%20is%20defined%20as,to%20improve%20your%20financial%20outcome.