เก่งอย่างเดียวพอที่ไหน? เติม Multi-skill อย่างไรให้หน่วยงานปลื้ม

เศรษฐกิจฟุบอย่างนี้ยิ่งต้องหาวิธีเอาตัวรอด ทำอย่างไรให้ขาเก้าอี้ยังแข็งสะท้านฟ้า ถ้าสถานการณ์เข้าตาจน บุคลากรที่องค์กรมักจะเลือกให้ไปต่อ คือคนที่มีทักษะหลากหลาย (Multi-skill) ลองมาดูวิธีเพิ่มแสงออร่าให้เข้าตาหัวหน้า เพื่อรักษาความมั่นคงยาวๆ กันดีกว่า

fulfill-multi-skill-01

  • อย่ากลัวเทคโนโลยี วิกฤตโควิด-19 ทำให้เห็นความจำเป็นของเทคโนโลยีพุ่งทะยานขึ้นมาทันที แต่อย่าไปคิดว่าตัวเองจะเงอะงะตามเด็กรุ่นใหม่ไม่ทัน ขอแค่ยอมเปิดประตูเรียนรู้สิ่งใหม่ที่จำเป็นต่อหน้าที่ การงานเพิ่ม เช่น พนักงานบัญชี หรือฝ่ายทรัพยากรบุคคล ลองศึกษาเทคโนโลยีจัดเก็บข้อมูลบนระบบคลาวด์ ที่ช่วยลดเอกสารแบบกระดาษ และยังทำให้เก็บข้อมูลเป็นระบบ ฝ่ายการตลาดหรือประชาสัมพันธ์ลองศึกษา การออกแบบประสบการณ์ของผู้ใช้งาน (User Experience) ที่เริ่มจำเป็นมากขึ้นบนโลกตลาดออนไลน์ดู
  • เพิ่มเติม Soft Skill แม้ทักษะที่ใช้ประกอบวิชาชีพโดยเฉพาะ หรือ Hard Skill ต้องครบเครื่อง เช่น ไกด์นำเที่ยวต้องเจื้อยแจ้วได้หลายภาษา แต่เท่านั้นไม่พอ การเสริม “ทักษะทางอารมณ์ สังคม หรือการใช้ชีวิตประจำวัน” หรือ Soft Skill ก็สำคัญ เพราะถือเป็นทักษะพื้นฐานที่ช่วยเสริมให้งานมีคุณภาพมากขึ้น  ไม่ว่าจะเป็นการฟังให้เป็น พูดให้ถูกจังหวะ สรุปประเด็นให้ได้ สื่อสารให้ดี วิเคราะห์ให้แจ่ม มองโลกแง่ดี และไม่กลัวการเปลี่ยนแปลง
  • อัพเดททักษะใหม่ๆ เพื่อมาประยุกต์ใช้ในการทำงานที่นับวันเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา อย่าส่ายหน้าบ่ายเบี่ยงถ้า ถูกส่งให้ไปอบรมหรือจะให้ดีลองแสวงหาคอร์สออนไลน์เรียนเพื่อพัฒนาทักษะให้ตัวเองซะเลย ปัจจุบันมีทั้งคอร์สฟรี หรือเรียนจริงจังแบบจ่ายสตางค์จนได้ใบประกาศนียบัตรเป็นใบเบิกทางอาชีพ เช่น ออกแบบกราฟฟิก ทำการตลาดออนไลน์ วิธีการบริหารจัดเก็บข้อมูลเพื่อนำไปเก็บแบบ Big Data การวิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภค เป็นต้น

  • พัฒนางานให้ดีกว่าเก่า อย่าคิดว่าคนอื่นทำแทนไม่ได้ เพราะเป็นการสร้างกับดักให้ตัวเองย่ำอยู่กับที่ และอาจเข้าข่ายล้าหลังสักวันหนึ่ง ลองวิเคราะห์จุดอ่อนและสร้างจุดแข็งให้องค์กรด้วยทักษะใหม่ๆ เช่น งานเอกสาร ถ้าออกแบบและจัดระบบให้ทำงานแบบยืดหยุ่นได้มากขึ้นได้ก็เดินหน้าลุยโลด หรือฝ่ายบัญชีหากมีไอเดียที่ช่วยคิดกลยุทธ์ทางการตลาดได้ก็ควรลองนำเสนอ เพราะอาจนำมาซึ่ง มุมมองใหม่ที่พ่วงการประหยัดต้นทุนบริษัทไปด้วยในตัว
  • คิดนอกกรอบหรือใช้ความคิดสร้างสรรค์มากขึ้น ด้วยการหาแรงบันดาลใจจากสื่อต่างๆ รอบตัว เช่น เวที TED Talks หรือที่เพจ Facebook ต่างๆ ทำ Live การสัมมนาเชิญนักธุรกิจ ผู้ประกอบการ ฯลฯ มาพูดคุยแชร์ไอเดีย และประสบการณ์ต่างๆ ตลอดจนงาน Expo ที่ปัจจุบันมีทั้งรูปแบบที่ต้อง ไปดูด้วยตัวเอง หรือแบบตลาดเสมือนจริง (Virtual Market) เพื่อเปิดโลกนวัตกรรมใหม่ๆ ว่าเขาไปถึงไหนกันแล้ว พร้อมอัพเดทข่าวสาร ดูกรณีศึกษาของต่างประเทศในสายอาชีพเดียวกันว่าเขามีแรงบันดาลใจการผลิตสินค้า หรือเกิดไอเดียใหม่ได้อย่างไร
  • งานงอกคือรางวัลชิ้นใหญ่ ต้องเลิกคิดว่างานที่ได้ทำเพิ่มคืองานเข้า แต่เป็นการช่วยพัฒนาทักษะการทำงาน ถ้าทำได้ก็จะมีใจที่กล้าลองงานใหม่ๆ แต่ถ้าทำไม่ได้ อย่าเพิ่งท้อเพราะความสำเร็จมักไม่ได้เกิดขึ้นเพียงลงมือทำแค่ครั้งเดียว

  • ประสานงานร่วมกับฝ่ายอื่น แนวโน้มการทำงานอนาคตจะข้ามสายงานกันมากขึ้น  (Cross-functional team) และการทำงานแบบแยกส่วนจะเริ่มน้อยลง ถือเป็นจังหวะดีที่จะสลัดความเฉพาะตัวที่เรายึดติดมานาน และเพิ่มความเข้าใจลักษณะงานที่ต่างกันของสายงานอื่น และยังส่งผลให้เกิดการเล่นแบบเป็นทีมมากขึ้น และเราจะรู้สึกว่าได้กลายเป็นฟันเฟืองหนึ่งทำให้บริษัทเติบโต

เมื่อการทำงานในแบบเดิมไม่สามารถการันตีว่าความเก่งกาจและความสำเร็จในอดีตจะเป็นใบเบิกทางโรยกลีบกุหลาบให้เส้นทางปัจจุบันได้อีก เพราะโลกหมุนเร็วกว่าที่คิด การเปิดใจเรียนรู้สิ่งใหม่ รับความแตกต่าง จะช่วยเสริม Multi-skill ของเรา และเชื่อเถอะว่า หากวันหนึ่งองค์กรต้องเลือกคนได้ไปต่อ เราจะต้องกลับมาขอบคุณตัวเองที่เฝ้าอดทนและหมั่นฝึกฝนเต็มที่