7 รูปแบบที่พักปั้นปลายชีวิตคนชรา สนองความต้องการสังคม Aging Society

ไม่มีใครอยากแก่อยากอ่อนแอและต้องการการดูแลจากคนรอบตัว แต่ในความเป็นจริงความชราและการเจ็บป่วยเป็นสิ่งที่เราหลีกหนีไม่ได้ และยิ่งภาพรวมของโลกกำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ธุรกิจการดูแลผู้สูงวัยและบ้านพักสำหรับผู้สูงวัยจึงเป็นธุรกิจที่จะมีความต้องการเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ เพราะ ณ จุดหนึ่ง ลูกหลานในครอบครัวเองจะพบกับความยากลำบากในการดูแลผู้สูงอายุด้วยตัวเองเพราะทั้งภาระหน้าที่การงานและทักษะในการดูแลคนชราที่ต้องการมืออาชีพมาช่วยแทน ปัจจุบันในต่างประเทศมีรูปแบบบ้านพักคนชราอยู่หลายแบบเพื่อตอบสนองความต้องการของคนชราที่มีความแข็งแรง สภาพร่างกายและความสามารถในการช่วยเหลือตัวเองได้แตกต่างกันและอีกปัจจัยคือเงิน เพราะบ้านพักคนชราที่มีการดูแลอย่างเต็มรูปแบบจะมีค่าใช้จ่ายสูงกว่า บทความนี้มีตัวอย่าง 7 รูปแบบของบ้านพักคนชราว่าแต่ละแบบต่างกันอย่างไรและเหมาะกับคนชราแบบ ซึ่งสามารถเป็นทั้งไอเดียสำหรับตัวผู้สูงอายุหรือครอบครัวที่ต้องการหาบ้านพัก รวมทั้งเป็นไอเดียทางธุรกิจสำหรับผู้สนใจทำธุรกิจบ้านพักคนชรา

1.       Aging in place

คือการพักอาศัยในบ้านตัวเอง เหมาะสำหรับผู้สูงอายุที่ยังดูแลตัวเองได้อยู่ โดยจะจ้างผู้ช่วยมาทำงานต่างๆ ให้ทั้งแบบประจำวัน หรือประจำสัปดาห์ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้สูงอายุแต่ละคน โดยอาจจ้างผู้ช่วยมาทำความสะอาดบ้าน ซักรีด เตรียมอาหาร พาไปพบแพทย์ หรือแม้แต่บริการปรับเปลี่ยนห้องน้ำหรือจุดอื่นๆ ภายในบ้านให้เหมาะกับการอยู่อาศัยของผู้สูงอายุเป็นต้น ซึ่งแบบแรกนี้จะดีต่อสภาพจิตใจของคนชราเพราะได้อยู่ในบ้านของตัวเองที่มีความผูกพันและค่าใช้จ่ายในการจ้างผู้ช่วยก็ไม่สูงมากนัก

2.       Independent living

กรณีนี้คนชราจะย้ายไปอยู่บ้านพัก อพาร์ทเม้นท์ คอนโดมิเนียมที่สร้างขึ้นสำหรับคนชราโดยเฉพาะ คนชราจะอยู่อาศัยอย่างเป็นอิสระไปไหนมาไหนได้ตามต้องการ และการอยู่ในสังคมกับคนรุ่นเดียวกันทำให้ไม่เหงาเพราะมีเพื่อนคุย ที่พักประเภทนี้จะมีบริการแบบพื้นฐาน เช่น การทำความสะอาดห้องให้เป็นประจำ เตรียมอาหารให้ ซ่อมแซมห้องและเครื่องใช้ต่างๆ ให้ใช้การได้เสมอ เหมาะกับผู้สูงอายุที่ยังดูแลตัวเองได้ และอยากมีสังคมมีเพื่อนรุ่นเดียวกันไว้พูดคุยทำกิจกรรมร่วมกัน ค่าใช้จ่ายที่พักประเภทนี้อยู่ในระดับปานกลางถึงสูงแล้วแต่ความหรูหราและทำเลที่ตั้ง

3. Residential Care Homes

เหมาะสำหรับผู้สูงอายุที่เริ่มต้องการความช่วยเหลือมากขึ้น แต่ยังพอดูแลตัวเองได้ไม่ถึงกับต้องการความช่วยเหลือตลอด 24 ชั่วโมง ผู้สูงอายุยังสามารถใช้ชีวิตได้อย่างอิสระในขณะที่มีบริการให้ความช่วยเหลือในกิจวัตรประจำวันต่างๆ ที่ช่วยให้การใช้ชีวิตง่ายขึ้น เช่น บริการอาหาร การอาบน้ำ ซักรีด บริการรถเพื่อเดินทางไปที่ต่างๆ ไปโรงพยาบาล ที่พักแบบนี้จะมีขนาดค่อนข้างเล็กอาจเป็นบ้านที่ผู้สูงอายุอาศัยร่วมกัน หรือเป็นอพาร์ทเมนท์ที่มีจำนวนห้องไม่มาก ค่าใช้จ่ายปานกลางถึงสูงแล้วแต่ความหรูหรา

4.       Assisted Living Community

เหมาะกับผู้สูงอายุที่ช่วยเหลือตัวเองได้น้อยลงมาก ที่พักแบบนี้จะมีบริการดูแลตลอด 24 ชั่วโมง สามารถเรียกผู้ดูแลได้ตลอดเมื่อต้องการ มีบริการอาหารทุกมื้อ การดูแลเรื่องการอาบน้ำ ทำความสะอาดห้อง การดูแลเรื่องการทานยา เดินทางไปพบแพทย์ตามนัด มีพื้นที่ส่วนกลางให้ผู้สูงอายุได้ทำกิจกรรมต่างๆ ที่พักแบบนี้ค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง

5.       Memory Care

ที่พักอาศัยประเภทนี้จะเน้นเรื่องความปลอดภัยในการอยู่อาศัย เหมาะสำหรับคนชราที่ป่วยด้วยโรคความจำเสื่อม อัลไซเมอร์ ให้การดูแลช่วยเหลือทุกเรื่องตลอด 24 ชั่วโมง ค่าใช้จ่ายในการอยู่อาศัยค่อนข้างสูง

6.       Skilled Nursing

ที่พักประเภทนี้เหมาะกับผู้สูงอายุที่มีปัญหาสุขภาพอย่างมากช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ที่พักจะมีพยาบาลและแพทย์ประจำการอยู่ตลอด 24 ชั่วโมง ให้ความช่วยเหลือในระดับสูงทั้งการดูแลการทำกิจวัตรประจำวัน อาหารการกิน การอาบน้ำ การทำความสะอาดและการดูแลด้านการแพทย์ ที่พักประเภทนี้จะมีค่าใช้จ่ายที่สูงมาก

7.       Retirement Community

ที่พักประเภทนี้เกิดจากการผสมกันระหว่าง Independent Living, Skilled Nursing และ Assisted Living Community โดยอาจมีการแบ่งโซนที่พักตามความสามารถในการช่วยเหลือตัวเอง เช่น โซนผู้สูงอายุที่ยังแข็งแรง ไปจนถึงโซนผู้สูงอายุที่ป่วยและต้องการความช่วยเหลือตลอดเวลา โดยจะมีตัวเลือกระดับความช่วยเหลือให้ผู้อยู่อาศัยเลือกว่าต้องการความช่วยเหลือในระดับไหน โดยที่พักจะมีพื้นที่ส่วนกลางให้ทำสันทนาการอย่างดี ค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูงจะมีค่าแรกเข้าและค่าใช้จ่ายรายเดือน โดยค่าใช้จ่ายรายเดือนจะสูงขึ้นตามปริมาณความช่วยเหลือที่ต้องการได้รับ

ถึงแม้ว่าความแก่ชราจะเป็นสัจธรรมที่ไม่มีใครหนีพ้น แต่การที่เราเริ่มดูแลตัวเองให้ดีตั้งแต่อายุยังน้อยก็จะช่วยให้เรามีสุขภาพที่ดีช่วยเหลือตัวเองได้มากแม้วัยจะสูงขึ้นเพื่อจะได้เป็นภาระต่อลูกหลานให้น้อยที่สุด จะเห็นว่าเมื่อเราเข้าสู่วัยชราและไม่มีรายได้หรือรายได้ลดลงแต่เรายังมีรายจ่ายที่ต้องจ่ายเป็นประจำทุกเดือน ยิ่งถ้าถึงจุดที่ต้องย้ายตัวเองเข้าไปอยู่ในบ้านพักคนชรายิ่งต้องใช้เงินมากขึ้น ดังนั้นการออมเงินตั้งแต่เนิ่นๆ และเริ่มวางแผนเกษียณให้เร็วที่สุดจะช่วยทำให้การใช้ชีวิตในวัยชราของเราสะดวกสบายและมีตัวเลือกมากขึ้น เริ่มลงทุนตั้งแต่วันนี้เพื่อให้เงินงอกเงยพอใช้ในยามเกษียณอย่างสุขสบาย โดยเฉพาะการลงทุนในกองทุนรวมต่างๆ ที่มีความเสี่ยงน้อยกว่าการลงทุนในหุ้นเพราะมีนโยบายการลงทุนที่หลากหลายกว่าเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.scb.co.th/th/personal-banking/investment/fund.html

อ้างอิง

https://www.oasissenioradvisors.com/senior-resources/blog/2019/02/7-types-of-senior-housing-options

https://dailycaring.com/senior-housing-options-overview/