5 ทิปส์ช่วยพ่อแม่ที่ต้องสอนหนังสือลูกที่บ้าน

ในสถานการณ์ฉุกเฉินที่โรงเรียน โรงเรียนกวดวิชา สถานที่เรียนพิเศษต่างๆ จำเป็นต้องปิดเพื่อป้องกันความปลอดภัยทางสุขภาพอนามัยของเด็กๆ และเพื่อไม่ให้การเรียนรู้ขาดช่วง หน้าที่การสอนหนังสือจึงถูกถ่ายโอนมาที่พ่อแม่ ผู้ปกครองโดยปริยาย เป็นการเรียนการสอนที่บ้านคล้ายๆ รูปแบบโฮมสคูล (Homeschool) เฉพาะหน้า สำหรับคุณพ่อคุณแม่แล้วการเลี้ยงลูกยามปกติก็ท้าทายระดับหนึ่ง แต่เมื่อต้องแปลงร่างเป็นคุณครูสอนหนังสือลูกเล็กที่บ้านก็ยิ่งเป็น Mission ท้าทายขึ้นอีกระดับ เราจึงนำ 5 ทิปส์ดีๆ ที่จะทำให้โฮมสคูลเป็นเรื่องหมูๆ มาฝากคุณพ่อคุณแม่กัน

home-school1

1. รักษาตารางชีวิตให้เป็นปกติ

แม้ลูกจะไม่ต้องไปโรงเรียนแต่ก็ไม่ได้หมายถึงว่าให้ลูกนอนตื่นสายตะวันโด่ง กินข้าวเช้าตอนเที่ยง วินัยในการรักษาตารางเวลาในชีวิตประจำวันยังเป็นสิ่งสำคัญ อาจจะมีสายได้บ้างโดยหักเวลาเดินทางออกไป แต่รวมๆ แล้ว ก็ต้องไม่สายจากเวลาเรียนปกติมากนักและต้องรักษาตารางอย่างสม่ำเสมอในวันจันทร์ถึงศุกร์เพื่อสร้างความเข้าใจและปรับพฤติกรรมลูกว่าแม้จะอยู่บ้านก็ยังคงต้องเรียนหนังสือ

2 .ให้ลูกเป็นคนจัดตารางเรียน

ข้อดีของการเรียนหนังสือตัวต่อตัวคือ สามารถปรับเนื้อหาการเรียนให้ยืดหยุ่นเหมาะกับผู้เรียนได้ แม้โรงเรียนส่วนใหญ่จะกำหนดแผนการเรียนการสอนและแบบฝึกหัดมาให้แล้ว แต่เราก็สามารถคุยกับลูกว่าเขาอยากจะเรียนอะไรก่อนหลัง หรืออยากเรียนอะไรเพิ่มเติมจากที่โรงเรียน ทางที่ดีให้ลูกทำลิสต์สิ่งที่อยากเรียนขึ้นมาเองเพื่อให้เขารู้สึกกระตือรือร้นที่จะเรียนรู้

3. จัดเวลาพักเบรกให้ลูกไปทำกิจกรรมกลางแจ้ง

เวลาลูกเรียนที่โรงเรียนจะมีเวลาพักเบรก เวลาเรียนที่บ้านก็ต้องมีพักเบรกเช่นเดียวกัน ในช่วงเวลาพักเบรก 10-20 นาทีควรปล่อยให้เด็กไปทำกิจกรรมกลางแจ้งในบริเวณบ้าน นอกจากจะเป็นการพักผ่อนสมองให้พร้อมรับกับเรียนช่วงต่อไปแล้ว ก็เป็นการออกกำลังกายไปในตัว บางทีเราก็อาจจะพาลูกไปเดินเล่นที่สวนในหมู่บ้าน ดูต้นไม้ดอกไม้แล้วสอนนับเลขบวกเลขไปในตัว หรือให้เรียนรู้วิทยาศาสตร์ด้วยการสังเกตตำแหน่งพระอาทิตย์ในแต่ละช่วงเวลา สังเกตนก แมลงในสวนก็ทำได้เหมือนกัน

4. อัพเดทตัวเองให้ทันเทคโนโลยี

สำหรับคุณพ่อคุณแม่สายโลว์เทค ถึงเวลาแล้วที่ต้องเปิดใจอัพเดทตัวเองให้ทันกับเทคโนโลยีแล้ว ยุคดิจิทัลก็มีข้อดีที่การติดต่อสื่อสารที่ทันสมัย มีสัญญาณ Wifi 4G รวดเร็วทันใจนำส่งได้ทั้งข้อมูล ภาพเคลื่อนไหวและเสียง แล้วยังมีแอปพลิเคชั่นมากมายอำนวยความสะดวกสร้างห้องเรียนออนไลน์ให้เลือกใช้


นอกจากวิธีเบสิคที่โรงเรียนส่งแนวทาง เช็คลิสต์การเรียนการบ้านแบบฝึกหัดมาให้ทางอีเมลแล้ว  โรงเรียนอินเตอร์หลายแห่งนิยมใช้แอปพลิเคชั่น Seesaw เป็นแพล็ตฟอร์มห้องเรียนออนไลน์ที่เด็กๆ สามารถดูข้อมูลบทเรียน คลิปการสอนของคุณครูได้วันต่อวัน รวมทั้งส่งงาน ภาพหรือคลิปวิดีโอการเรียนที่บ้านไปให้คุณครูได้ทางแอปเดียวกัน ยิ่งไปกว่านั้น โรงเรียนพิเศษอื่นๆ อย่างโรงเรียนสอนเปียโน ก็ได้ลองนำแอป Zoom ที่ชาวออฟฟิศใช้ Teleconfernce มาปรับใช้ในการสอนเปียโนออนไลน์ โดยเพิ่มเติมอุปกรณ์ขาตั้งวางสมาร์โฟนหรือแท็บเล็ตให้พร้อม เด็กๆ ก็สามารถเรียนเปียโนได้จากที่บ้าน เทคโนโลยีช่วยให้เด็กเรียนรู้ได้ไม่จำกัดสถานที่ ถึงเวลาแล้วที่เราต้องมีเรียนรู้ไปพร้อมๆ กับลูก

5. ปรับใจให้ยืดหยุ่น ยอมรับข้อจำกัด

การทำโฮมสคูลก็เหมือนการเลี้ยงลูก บางวันก็ได้ผลดีมาก แต่บางวันก็อาจทำไม่ได้ดังใจ สิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ต้องเข้าใจคือการเปิดใจรับข้อผิดพลาดและทำใจว่าสิ่งนี้เป็นการเรียนที่บ้านในช่วงสถานการณ์ฉุกเฉินเพื่อให้การเรียนของลูกไม่ขาดช่วงไปเสียทีเดียว ยิ่งสำหรับพ่อแม่เป็นพนักงานประจำที่ต้องทำงาน Work from Home ด้วยแล้ว การที่ต้องรับผิดชอบหน้าที่งาน ขณะเดียวกับที่ต้องสอนหนังสือลูกที่บ้านไปพร้อมกันนับเป็นความท้าทายที่ต้องบริหารเวลาอย่างสมดุล การยอมรับข้อจำกัดว่าคงไม่สามารถทำทุกอย่างได้เป๊ะเหมือนโรงเรียนที่มีคุณครูสอน การบอกตัวเองว่า “เราทำดีที่สุดแล้ว” จะช่วยให้คุณพ่อคุณแม่คลายความเครียดและสร้างสุขภาพจิตที่ดีเพื่อเป็นกำลังในการทำโฮมสคูลเฉพาะหน้าในวันต่อๆ ไป

ข้อมูล
https://edition.cnn.com

ผลิตภัณฑ์และบริการที่เกี่ยวข้อง