เคล็ดลับคนสร้างครอบครัว กับตัวช่วยลดหย่อนภาษีที่ทุกบ้านต้องมี

ห่างหายกันไปนานกับการพาลูกไปเที่ยว ต้องทำงาน สอนการบ้านและดูแลลูกๆ อยู่กับบ้านช่วงโควิดแต่ละซีซั่น คงมีหลายครอบครัวที่กำลังวางแผนพาลูกไปเที่ยวกันปลายปีที่จะถึงนี้ จองที่พักแล้ว วางแผนการเดินทางอย่างละเอียด พร้อมที่กิน ที่พัก แผนกิจกรรมต่างๆ ให้ทุกคนได้ enjoy กันอย่างเต็มที่ แล้วแผนเรื่องภาษีประจำปีมีคิดกันไว้บ้างหรือยัง? มาทบทวนเรื่องนี้กันสักหน่อย เพราะเข้าช่วงปลายปีแล้ว นอกเหนือจากการวางแผนเที่ยว วางแผนซื้อของฝากคนที่คุณรัก ยังมีอีกเรื่องที่ก็สำคัญไม่น้อยไปกว่ากันเลยนั่นก็คือการวางแผนเตรียมจ่ายภาษี ยิ่งปีนี้โดนพิษโควิดเล่นงานไปชุดใหญ่ แผนการที่วางไว้เมื่อต้นปีก็อาจมีสะดุดผิดแผนไปไม่น้อย

family1

จริงๆ แล้ว เราควรเริ่มวางแผนภาษีทุกๆ ปีตั้งแต่เนิ่นๆ จะได้ไม่ต้องฉุกละหุกเตรียมเงินมาลดหย่อนภาษีในหมวดต่างๆ แต่ไม่เป็นไร จัดการของปีนี้ให้เรียบร้อยแล้วปีหน้าค่อยว่ากันใหม่ วางแผนให้เรียบร้อยตั้งแต่ปีนี้ ปีหน้าจะได้สบายๆ ไม่ต้องวุ่นวาย หมดอารมณ์สนุกก่อนไปเที่ยวปลายปี


มาทวนหมวดหมู่ลดหย่อนภาษีปี 2565 กันอีกทีแบบฉบับรวบรัด เพราะต้องไปจัดกระเป๋าเดินทางต่อ


1. ค่าลดหย่อนภาษีส่วนตัวและครอบครัว (ค่าลดหย่อนส่วนตัว คู่สมรสคนละ 60,000 บาท ฝากครรภ์และคลอดบุตร รวมลดหย่อนภาษีบุตร รวมไม่เกิน 90,000 บาท ค่าลดหย่อนเลี้ยงดูบิดามารดาของตนและคู่สมรส คนละ 30,000 บาท อุปการะผู้พิการหรือบุคคลทุพพลภาพ คนละ 60,000 บาท)


2. ค่าลดหย่อนภาษีกลุ่มประกันชีวิต เงินออม และการลงทุน เบี้ยประกันชีวิตและประกันสะสมทรัพย์ ลดหย่อนได้ตามที่จ่ายจริงไม่เกิน 100,000 บาท และกรณีที่คู่สมรสไม่มีรายได้สามารถลดหย่อนได้อีก 10,000 บาท เบี้ยประกันสุขภาพและเบี้ยประกันอุบัติเหตุที่คุ้มครองสุขภาพ ลดหย่อนได้ตามที่จ่ายจริงไม่เกิน 25,000 บาท และเมื่อรวมกับเบี้ยประกันชีวิตและประกันสะสมทรัพย์ ต้องไม่เกิน 100,000 บาท โดยเงื่อนไขของค่าลดหย่อนประกันชีวิตคือ ต้องมีระยะเวลาคุ้มครอง 10 ปีขึ้นไปและถ้าหากมีการเวนคืนกรมธรรม์ก่อนครบ 10 ปี จะถือว่าเป็นการผิดเงื่อนไข ไม่สามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้  ส่วนค่าลดหย่อนจากลงทุน การลงทุนแบบ กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) กองทุนรวมเพื่อการออม (SSF) กองทุนรวมเพื่อการออมพิเศษ (SSFX) หรือกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) รวมกันไม่เกิน 500,000 บาท


3. ค่าลดหย่อนภาษีกลุ่มเงินบริจาค (เงินบริจาคทั่วไป เงินบริจาคเพื่อการศึกษา การกีฬา การพัฒนาสังคม เพื่อประโยชน์สาธารณะ และบริจาคเพื่อสถานพยาบาลของรัฐ ไม่เกิน 10% ของรายได้ หรือ เงินบริจาคให้กับพรรคการเมือง ลดหย่อนไม่เกิน 10,000 บาท)


4. ค่าลดหย่อนกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ (ดอกเบี้ยกู้ยืมเพื่อซื้อที่อยู่อาศัย สามารถลดหย่อนได้ไม่เกิน 100,000 บาท)


5. ค่าลดหย่อนกลุ่มกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐ (ปีนี้เป็นโครงการช้อปดีมีคืน 2565 สามารถลดหย่อนได้ไม่เกิน 30,000 บาท)


จะเห็นได้ว่าค่าลดหย่อนรวมๆ กันได้จากหลายหมวดหมู่ โดยส่วนที่ช่วยลดหย่อนและแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายภาษีที่ใหญ่ที่สุดนั้นคือกลุ่มประกันชีวิต การออม และการลงทุน โดยบางส่วนก็อาจจะมีความเสี่ยงมากกว่าในภาวะเศรษฐกิจปัจจุบันนี้ เราจึงอยากจะแนะนำให้ทุกๆ ครอบครัวเสริมแผนการลดหย่อนภาษีสิ้นปี (และยังใช้ต่อเนื่องได้ในปีถัดๆ ไปด้วย) กับ ประกันสะสมทรัพย์ อีซี่ อี-เซฟ 10/5 (EASY E-Save 10/5) เข้าใจง่ายและสมัครง่ายผ่านช่องทางออนไลน์ ใช้เวลาแค่ 5 นาที ก็สามารถกลับไปจัดกระเป๋า วางแผนเที่ยวต่อได้อย่างสบายใจ สรุปข้อดีของประกันนี้ให้แบบครบๆ ไวๆ ตามนี้เลย

  • จ่ายเบี้ยประกันภัยสั้น 5 ปี คุ้มครองยาว 10 ปี
  • ความคุ้มครองชีวิต 100% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย หรือเบี้ยประกันภัยของแบบประกันสะสมทรัพย์ อีซี่ อี-เซฟ 10/5 (Easy E-Save 10/5) ที่ชำระมาทั้งหมด แล้วแต่จำนวนใดจะมากกว่า
  • เลือกชำระเบี้ยประกันภัยต่อปี ได้ตามใจ 20,000 – 200,000 บาท
  • รับเงินคืน สิ้นปีกรมธรรม์ที่ 1-5  4% ของจำนวนเงินเอาประกันภัยและสิ้นปีกรมธรรม์ที่ 6-9 ปีละ 5% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย
  • ครบ 10 ปี รับเงินคืน 350% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย
  • ลดหย่อนภาษีเงินได้ สูงสุด 100,000 บาท ตามประกาศของกรมสรรพากร
  • สนใจลองคำนวณเบี้ยประกันก่อนตัดสินใจซื้อได้ -ที่นี่-

แค่นี้ก็เรียบร้อย กลับไปวางแผนเที่ยวต่อได้อย่างสบายใจ แถมปีหน้าไม่ต้องมีกังวลเรื่องเตรียมการลดหย่อนจากหมวดหมู่นี้อีกเพราะเบี้ยประกันภัยในปีถัดๆ ไปก็สามารถเอามาลดหย่อนได้เรื่อยๆ เรียกว่า ครบ จบสบายใจ หายห่วงทั้งภาษีและเรื่องความคุ้มครองชีวิต แถมยังได้เงินคืนอีกต่างหาก ดีแบบนี้ไม่ต้องไปหาที่อื่นแล้ว

*ผู้ซื้อควรทำความเข้าใจในรายละเอียด ความคุ้มครองและเงื่อนไขก่อนตัดสินใจทำประกันภัยทุกครั้ง