จีนตลาดรถยนต์ EV ที่ใหญ่ที่สุดในโลกกับที่สุดของการพัฒนาเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค

ปัจจุบันจีนเป็นตลาดรถยนต์ EV ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ความต้องการใช้รถยนต์ EV ของคนจีนพุ่งสูงขึ้นอย่างมาก จากงานแสดงรถยนต์ Shanghai Motor Show เมื่อเดือนเมษายน 2564 ที่ผ่านมา มีบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ EV สัญชาติจีนนำรถยนต์ EV รุ่นใหม่เข้ามาแสดงอย่างมากมายทั้งรถ EV รุ่นจิ๋วและรถยนต์ EV ระดับหรู ซึ่งล้วนได้ความสนใจจากผู้บริโภคชาวจีนอย่างล้นหลาม

แต่รถยนต์ที่ขโมยซีนจากทุกค่ายแม้กระทั่ง Tesla บริษัทรถยนต์ EV ชื่อดังระดับโลก คือ Hongguang Mini รถยนต์ EV ขนาดจิ๋ว ซึ่งเปิดจำหน่ายเมื่อเดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว โดยมียอดขายแล้วกว่า 270,000 คัน แซงหน้าTesla ขาดลอย รถ Hongguang Mini ไม่ได้ดูสวยเฉี่ยวแบบ Teslar แถมเล็กมากและวิ่งได้แค่ประมาณ 120 กิโลเมตร แต่กลับได้รับความนิยมในหมู่ผู้หญิงหรือแม่บ้านที่ใช้เดินทางในระยะใกล้ๆ แทนการใช้จักรยาน และอีกปัจจัยที่ทำให้รถ EV รุ่นนี้ขายดีคือราคาที่ถูกเพียงคันละ $4,500 เท่านั้น Hongguang Mini เป็นรถยนต์ที่เกิดจากการร่วมทุนกันระหว่าง GM , SAIC Motor และ Liuzhou Wuling Motors รถ EV รุ่นนี้มีราคาถูกเพราะแบตเตอรี่ผลิตในประเทศ ไม่มีแอร์ และให้แค่ระบบความปลอดภัยขั้นพื้นฐานเท่านั้น รถ EV รุ่นนี้ไม่ได้ขายดีเพราะความบังเอิญแต่เกิดจากการทำวิจัยอย่างจริงจัง โดยให้ผู้บริโภคทดลองใช้ฟรีในช่วงการทำวิจัยกว่า 9,000 คัน และผลการวิจัยพบว่ารถรุ่นนี้เหมาะกับชีวิตคนเมืองที่ใช้เดินทางในระยะสั้นๆ เช่น ส่งลูกไปโรงเรียน ไปซุปเปอร์มาเก็ต ซึ่งเป็นทางเลือกแทนการขี่จักรยาน ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นคนอายุ 20 กว่าๆ และเป็นผู้หญิงเป็นส่วนใหญ่ หลายคนแต่งรถด้วยลวดลายที่น่ารักและอวดรถกันบนโซเชียลมีเดีย ก็ยิ่งทำให้กระแสของรถตัวนี้แรงยิ่งขึ้นอีก

future-of-ev-vehicle-and-investment-opportunity-banner

นอกจากรถ EV ขนาดเล็ก บริษัทสัญชาติจีนยังมีรถยนต์ EV ระดับหรู บริษัท NIO เสนอรถ EV ระดับไฮเอนด์ ราคา $55,000 NIO เป็นค่ายรถยนต์ EV ค่ายแรกที่นำเสนอบริการการสลับแบตเตอรี่ เพราะการชาร์จแบตเตอรี่รถยนต์ EV ใช้เวลานานเป็นชั่วโมงกว่าแบตเตอรี่จะเต็ม บริการสลับแบตเตอร์รี่ (battery-swappable) จะมีสถานีให้บริการที่รถยนต์ที่แบตเตอรี่ใกล้หมดสามารถวิ่งเข้าไปและจะมีระบบเปลี่ยนแบตเตอรี่ตัวใหม่ให้ซึ่งใช้เวลาเพียง 2-3 นาที ซึ่งกลยุทธ์นี้ใช้วิธีการให้ลูกค้าซื้อตัวรถยนต์และทำการเช่าแบตเตอรี่และสามารถเปลี่ยนแบตเตอรี่ที่สถานีไหนก็ได้ที่ปัจจุบันบริษัทมีสถานีเปลี่ยนแบตเตอรี่ครอบคลุม 70 เมืองในจีน และขณะนี้ก็กำลังขยายจำนวนสถานีเปลี่ยนแบตเตอรี่อย่างต่อเนื่อง แต่ละสถานีสามารถรองรับรถยนต์ 330 คันต่อวัน บริษัทกล่าวว่าระบบการเปลี่ยนแบตเตอรี่สะดวกรวดเร็วกับลูกค้ามากกว่าการสร้างสถานีชาร์ตแบตเตอรี่มาก

โดยวิธีการเข้าเปลี่ยนแบตเตอรี่ที่สถานีก็แสนจะทันสมัย เพียงเจ้าของรถดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น และแสกน QR CODE ระบบจะรู้ทันทีว่าเป็นรถรุ่นไหนและจะเลือกแบตเตอรี่ได้ถูกต้อง นอกจากบริการสถานีเปลี่ยนแบตเตอรี่แล้ว ลูกค้ายังสามารถใช้แอพแจ้งให้เจ้าหน้าที่ของบริษัทเข้ามานำรถไปซ่อมบำรุงหรือเปลี่ยนแบตเตอรี่ก็ได้อีกด้วย NIO ยังมีเลานจ์หรูให้บริการลูกค้า เนื่องจากแบรนด์ต้องการสร้างภาพลักษณ์ความเป็นไลฟสไตล์แบรนด์ที่มีรสนิยม มีความเป็นแฟชั่น โดย Regional Manager of Beijing ของ NIO กล่าวว่าเป้าหมายของบริษัทคือการเป็นบริษัทอันดับหนึ่งของโลกในเรื่อง Customer Satisfaction

ความสำเร็จของทั้ง Hongguang and NIO ส่วนหนึ่งเกิดจากการที่รัฐบาลจีนตั้งเป้าหมายเอาไว้ว่าจะเพิ่มยอดจำหน่ายรถยนต์ EV ให้ได้ 20% ของ Market Share ภายในปี 2025 ปัจจุบันมีบริษัทผลิตรถยนต์ EV กว่า 50 บริษัทในจีน และแม้กระทั่งบริษัทผลิตโทรศัพท์มือถืออย่าง Xiaomi และบริษัทด้าน Search Engine อย่าง Baidu ก็มีแผนจะร่วมวงผลิตรถ EV ด้วยเช่นกัน

ปัจจุบันในบ้านเราก็เริ่มมีการใช้รถยนต์ EV กันบ้างแม้จะยังไม่แพร่หลายเท่าใดนัก แต่ก็คาดว่าในอนาคตอันใกล้ตลาดรถยนต์ EV ในไทยจะโตขึ้นและเราก็จะได้มีโอกาสใช้รถยนต์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในเร็ววันนี้ สำหรับใครที่มีแพลนจะซื้อรถคันใหม่สามารถขอสินเชื่อรถยนต์จาก SCB ซึ่งอนุมัติเร็วและสามารถผ่อนชำระได้นานถึง 84 งวด สนใจศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.scb.co.th/th/personal-banking/loans/car-loans/auto-finance-new-car.html