อร่อยฟิน อู้ฟู่ กับบุฟเฟ่ต์ปู @ Pullman Bangkok Grande Sukhumvit

อยากกินบุฟเฟต์อร่อยๆ โดยเฉพาะปูอลาสก้ารสชาติเริ่ดๆ ไม่ต้องบินไปไกลถึงญี่ปุ่น เพราะของเด็ดของดี อยู่ใกล้แค่นี้ ห้องอาหาร อเทลิเย่ (Atelier Restaurant) ที่ชั้น 2 โรงแรมพูลแมน กรุงเทพฯ แกรนด์ สุขุมวิท ตรงแยกอโศกมนตรี ช่วงนี้ถึง 30 ส.ค. 62 มีบุฟเฟต์ปู (CRAB CARNIVAL) ให้คนชอบกินปูได้อิ่มอร่อยแบบไม่อั้นทุกเย็นวันอาทิตย์ - พฤหัสบดี มีทั้งปูอลาสก้า (Alaska King Crab) ปูหิมะ ปูม้า จัดมาหลากหลายเมนู พร้อมโซนอาหารไทย จีน ญี่ปุ่น ยุโรป อินเดีย รวมถึงเมนูยอดนิยมอย่างกุ้งแม่น้ำเผา ปลาดิบ ปลาหมึก หอยแมลงภู่ยักษ์ พาสต้าต่างๆ ก็ยกขบวนมาแบบไม่อั้น แถมตระกูลของหวานเบเกอรีที่ทางโรงแรมทำเองก็เลอค่า จัดครบ จัดเต็มมาก ขอบอก!


แนะนำให้จองล่วงหน้าหลายวันหน่อย เพราะอาหารอร่อย หลากหลาย คุ้มค่า คุ้มราคาแบบนี้ ใครๆ ก็อยากมาฟิน

มากันที่พระเอกอย่างปูอลาสก้ากันก่อนเลย ใครเดินเข้ามาก็จะเห็นปูอลาสก้าตั้งเด่นเป็นสง่าคอยต้อนรับผู้มาพิสูจน์รสชาติ ปูอลาสก้าของที่นี่ส่งตรงมาจากทะแลแถบแบริ่ง อลาสก้า กันเลยทีเดียว ดังนั้นรสชาติจะไม่เหมือนกับปูอลาสก้าที่หลายๆ คนเคยไปกินที่ญี่ปุ่นนะจ๊ะ อยากรู้ต้องมาลอง และไม่ได้มีเฉพาะขาปู แต่มีเนื้อฟูๆ มาให้ด้วย ฟินสุดๆ

ขอกระซิบว่า ใครที่ชอบกินปู แต่ไม่ถนัดแกะปู งานนี้หายห่วง เพราะเค้าผ่าครึ่งมาให้ด้วย แค่ใช้ส้อมจิ้ม เนื้อปูแน่นๆ ชิ้นโตๆ ก็ออกมาอวดโฉมให้เราได้ลิ้มลองกันอย่างง่ายดาย จิ้มกับน้ำจิ้มซีฟู้ดมะนาวสดแท้รสเด็ด จี๊ดจ๊าด อร่อยอย่าบอกใคร

ส่วนปูหิมะของที่นี่ก็มาแบบอลังการงานสร้าง ก้ามปูเนื้อแน่น ตัดเป็นท่อนยาวๆ ให้แล้ว สามารถดึงเนื้อปูอวบๆ ออกมาจากก้ามได้อย่างง่ายดาย เนื้อแน่น หวาน ทานแบบออริจินัล หรือจิ้มน้ำจิ้มซีฟู้ดก็อร่อยไม่แพ้กัน และเนื่องจากปูหิมะของที่นี่จะตัวใหญ่มาก หลายคนอาจสับสนกับปูอลาสก้า ซึ่งวิธีสังเกตคือ สีของปูหิมะจะอ่อนกว่า ตัดเป็นท่อน ไม่ผ่าครึ่งก้าม ส่วนปูอลาสก้าจะเป็นสีส้มแดงเข้มสดใส ผ่าครึ่งก้ามมาให้เรียบร้อย ถ้าเป็นปูม้าก็จะผ่าครึ่งทั้งตัวมาให้เลย กินง่าย แกะก็ง่าย สบายแล้วเรา

ที่บริเวณนี้ยังมีของทะเลอื่นๆ จัดหนัก จัดเต็มอีกเพียบ รวมถึงปูอลาสก้า ปูหิมะ ปูม้า ที่เราสามารถดัดแปลงเอามาใส่เพิ่มในสลัด ผัดกับพาสต้า หรือใส่เพิ่มในน้ำยาปู ส้มตำ หรือจะเอาเนื้อปูไปใส่ในเครปที่ทำสดใหม่ตรงมุมของหวานก็อร่อยได้ในแบบของเรา เรียกว่า งานนี้ ใครใคร่เอาปู หรือซีฟู้ดไปผสมอยู่ในอะไร ก็จัดไปตามใจปรารถนาเลยจ้ะ

มาถึงไฮไลท์อีกจุดอย่างโซนปิ้งย่างกันบ้าง โซนนี้จะมีของสดนานาชนิด ทั้งกุ้งแม่น้ำ ปลาแซลมอน ของทะแล เนื้อสัตว์ต่างๆ จัดมาอย่างเต็มที่

อยากกินอะไรก็คีบใส่จาน แล้วเอากระดาษที่มีเบอร์โต๊ะของเราแนบส่งให้เชพที่ประจำจุดปิ้งย่างได้เลย รอไม่นานจะมีคนมาเสิร์ฟร้อนๆ ให้ถึงโต๊ะ

มากินบุฟเฟ่ต์ปูทั้งที ก็ต้องฟินกับปูให้เต็มที่ โดยเฉพาะน้ำยาปูของที่นี่ อร่อยล้ำเนื้อๆ เน้นๆ จัดมาคู่กับขนมจีนม้วนมาแบบพอดีคำ มีเครื่องเคียงให้เลือกใส่ตามชอบใจอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีเส้นหมี่ที่เสิร์ฟมาในกระดองปูม้า ทานคู่กับแกงปูใบชะพลู รสชาติเข้มข้น อร่อยจนต้องไปตักมาเพิ่ม

สำหรับโซนอาหารไทย ใครมาในวันที่เป็นบุฟเฟต์ปู ก็จะได้อร่อยกับส้มตำปูม้าตัวโต

นอกจากนี้ยังมี ทอดมันปู ห่อหมกปู ยำต่างๆ น้ำพริกทานกับผักสด ลาบหมู แซลมอนราดซอสมะขาม ต้มยำกุ้ง ฯลฯ หมุนเวียนมาให้เราได้อร่อยกับหลากหลายเมนูไม่มีเบื่อ

ถัดมาเป็นโซนอาหารนานาชาติ ทั้งอาหารอเมริกัน อิตาเลี่ยน อินเดีย เมดิเตอร์เรเนียน หมุนเวียนมาให้ลูกค้าได้ลิ้มลองเมนูใหม่ๆ อยู่เสมอ เช่น ซุปมะเขือเทศ ลาซานญ่าผักโขม ไก่อบบัตเตอร์มิ้ลค์ ปลากระพงราดซอสบาร์บีคิว ผักรวมย่าง แกงถั่วกับชีสอินเดีย เป็นต้น

ใครที่ชอบพาสต้า ที่นี่มีเส้นพาสต้าและน้ำซอสให้เลือกหลายแบบ จะผัดซอสมะเขือเทศ ซอสสมุนไพร คาร์โบนาร่า ฯลฯ ก็สามารถเลือกอร่อยแบบปรุงใหม่ๆ จานต่อจานได้เลย ส่วนใครที่อยากได้ปูอลาสก้า กุ้งแม่น้ำ หอยแมลงภู่ยักษ์ มาผัดกับพาสต้า ก็ตักใส่จานมายื่นให้เชฟประจำจุดพร้อมกับการ์ดที่มีเบอร์โต๊ะของเรา ระหว่างรอเชพปรุง ก็ไปฟินกับอาหารในจุดอื่นๆ ต่อได้เลย ไม่ต้องยืนรอให้เสียเวลา เพราะจะมีเจ้าหน้าที่ของทางห้องอาหารนำมาเสิร์ฟให้ถึงโต๊ะ

ใกล้ๆ กันจะเป็นโซนของนึ่ง ที่มีทั้ง กุ้ง หอย ปู ปลาเผา กุ้งแม่น้ำเผา คอยส่งควันร้อนๆ เชื้อเชิญให้เราเข้ามาลิ้มลองกันแบบไม่มีกั๊ก

ด้านในสุดจะเป็นโซนอาหารจีน ซึ่งจะมีอาหารหมุนเวียนมาไม่ซ้ำกันในแต่ละวันเช่น ปูผัดพริกแกง หมูผัดซอสเปรี้ยวหวาน ปลากะพงนึ่งเต้าซี่ ไก่ตุ๋นยาจีน เป็นต้น

ติดกับโซนจีนจะเป็นโซนสลัด ที่มีผักสลัด น้ำสลัด ให้เลือกหลากหลาย รวมถึงชีสและแฮมต่างๆ ให้เราสามารถตักและนำมาปรุงในสูตรของเราเองได้ เพราะที่โซนนี้จะมีจานใบใหญ่ พร้อมอุปกรณ์ในการคลุกเคล้าวัตถุดิบต่างๆ เตรียมไว้ให้ ทำสลัดเสร็จ ตักใส่จาน แล้วนำไปทานที่โต๊ะได้เลย

โซนอาหารญี่ปุ่นที่นี่ก็มีซูชิหน้าตาน่ากิน ทำกันใหม่ๆ ยกมาเติมเรื่อยๆ ใกล้กันก็จะมีซาชิมิสำหรับสายปลาดิบให้เลือกสั่งได้ตามต้องการอีกด้วย

อีกโซนที่ขาดไม่ได้นั่นก็คือ คาร์ฟวิ่ง สเตชั่น ที่เอาใจคนชอบเมนูเนื้อๆ เน้นๆ ซึ่งเมนูในแต่ละวันก็จะไม่ซ้ำกัน มีการหมุนเวียนมาให้คุณลูกค้าได้ลิ้มลองรสชาติที่หลากหลาย อาทิ หมูอบ ขาแกะย่างกระเทียม ปลาอบสมุนไพร เป็นต้น

จัดของคาวแล้วไม่ต่อด้วยของหวานถือว่าพลาด เพราะของหวานที่นี่ปังมาก อย่างขนมปัง เบเกอรี่ เค้กต่างๆ มูสหลากหลายรูปแบบ ที่ทำเองแบบสดใหม่ทุกวัน

แถมยังมีช็อกโกแลตจากนิวซีแลนด์ที่เป็นซิกเนเจอร์ของทางห้องอาหาร ทำออกมาเป็นแผ่นใหญ่ ก่อนทานจะต้องใช้ค้อนไม้ทุบให้ช็อกโกแลตแตกเป็นชิ้นพอคำ หยิบเข้าปาก ยิ่งเคี้ยวยิ่งมัน เพราะมีรสสัมผัสของถั่วต่างๆ ผสมผสานอยู่ในแผ่นช็อกโกแลตอย่างลงตัว

ขนมที่นี่มีทั้งไทย-เทศ ให้เลือกอย่างจุใจ ทั้งช็อกโกแลตฟองดูว์ที่สามารถทานกับผลไม้ตามฤดูกาล หรือขนมปังก็ได้ เต้าฮวยน้ำขิงร้อนๆ ปรุงรสหวานกำลังดีมาให้เสร็จสรรพ แต่ถ้าใครชอบหวานก็มีน้ำตาลทรายแดงแบบโบราณมาให้ใส่เพิ่ม

นอกจากนี้ยังมีเครปคาว-หวาน ที่ทำกันสดๆ จะทานคู่กับไอศกรีม หรือเลือกใส่ไส้คาว-หวาน แล้วราดท้อปปิ้งตามใจชอบก็จัดกันได้ตามชอบใจ ใครที่อยากลองไอศกรีมผัด ที่นี่ก็จัดให้ คุ้มมากๆ แถมยังมีไอศกรีมรสชาติพิเศษผลัดเปลี่ยนมาให้ลองกันด้วย เช่นมะม่วงช็อกชิป เชอร์เบทราสเบอรี่ เป็นต้น

อิ่มอร่อยกับบุฟเฟ่ต์ปูได้ถึง 31 ส.ค.62 แล้วพบกับบุฟเฟ่ต์จัดเต็มในรูปแบบใหม่ๆ ได้ตลอดปี ทุกมื้อจ่ายด้วยบัตรเครดิต SCB ได้เลย

รายละเอียดโปรโมชั่นสำหรับลูกค้า SCB เรามีอัพเดทเรื่อยๆ เช็กเลยที่ https://www.scb.co.th/th/personal-banking/promotions/credit-cards.html