ในยุคที่บิลค่าไฟฟ้าแพงขึ้นแทบทุกเดือน คนทำธุรกิจโดยเฉพาะโฮมออฟฟิศ อาจต้องคิดหาวิธีการใหม่ๆ ที่จะช่วยเซฟค่าไฟฟ้าให้ได้มากที่สุด เพราะค่าไฟนับเป็นต้นทุนธุรกิจที่ต้องแบกรับในทุก ๆ เดือน  ยิ่งโฮมออฟฟิศด้วยแล้วมีอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ต้องเปิดเกือบตลอดทั้งวัน  8-10 ชั่วโมง จะมีวิธีช่วยประหยัดค่าไฟอย่างไรบ้างมาดูกัน

1.ติดตั้งโซลาร์รูฟ

สำหรับโฮมออฟฟิศ บ้านพักที่มีคนอาศัยอยู่ตลอดทั้งวัน หรือบ้านที่มีบิลค่าไฟฟ้าเกิน 5,000 บาทต่อเดือน ลงทุนติดตั้งโซลาร์รูฟนอกจากช่วยประหยัดค่าไฟแล้ว ยังสามารถเข้าร่วมโครงการโซลาร์ภาคประชาชนที่ขายไฟเข้าระบบ 2.20 บาทต่อหน่วย ซึ่งจะมีความคุ้มค่าต่อการลงทุน และจะคืนทุนได้ภายใน 6-7 ปีด้วย สำหรับโฮมออฟฟิศและบ้านที่เหมาะติดตั้งโซลาร์รูฟควรพิจารณาปัจจัยดังนี้

• ควรมีการใช้ไฟฟ้าตอนกลางวันหรือตลอดทั้งวัน เนื่องจากโซลาร์รูฟจะผลิตไฟฟ้าได้ในวันที่มีแสงแดดหรือในตอนกลางวันเท่านั้น
• มีบิลค่าไฟฟ้าเกิน 5,000 บาทต่อเดือน  เนื่องจากการไฟฟ้ามีหลักเกณฑ์ให้บ้านที่จะติดตั้งโซลาร์รูฟผลิตไฟฟ้าได้ไม่เกิน 15% ของขนาดหม้อแปลง หรือประมาณ 5 กิโลวัตต์ต่อหลัง ซึ่งจะช่วยประหยัดค่าไฟฟ้าได้ประมาณ 3,000 บาทต่อเดือน
• ถ้าปกติใช้ไฟฟ้า 200 หน่วยต่อเดือน เมื่อติดตั้งโซลาร์รูฟจะผลิตไฟฟ้าได้ 100 หน่วย ซึ่งจะทำให้ประหยัดค่าไฟฟ้าได้ถึง 50%
• ถ้าโฮมออฟฟิศหรือบ้าน มีต้นไม้ใหญ่หรือมีตึกสูงบังแสงแดดในช่วงกลางวัน การติดตั้งโซลาร์รูฟอาจไม่คุ้มค่า

สำหรับลูกค้า SCB  สามารถซื้อแพ็กเกจติดตั้งหลังคาโซลาร์รูฟจากบริษัทผู้ให้บริการที่เข้าร่วมรายการในราคาส่วนลดพิเศษ ได้ถึง 31 ธันวาคม 2565 โดยดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://bit.ly/3znhU7S

2. ติดตั้งฉนวนกันความร้อนที่หลังคา

เพราะฉนวนกันความร้อนจะช่วยป้องกันความร้อนและช่วยสะท้อนรังสีความร้อนออกนอกอาคารได้ ทำให้ภายในอาคารอากาศเย็นลง ไม่ต้องปรับอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศให้ต่ำลง ซึ่งจะช่วยประหยัดค่าไฟฟ้าได้อีกทางหนึ่ง นอกจากนี้ ยังช่วยลดเสียงดังจากภายนอกอาคาร ช่วยกันรั่ว กันซึมจากน้ำฝนอีกด้วย

3.ใช้แสงและลมจากธรรมชาติ

สำรวจโฮมออฟฟิศให้ทั่ว หากพบว่าที่ไหนเป็นมุมมืดต้องเปิดไฟตลอดทั้งวัน  อาจหาวิธีปรับมุมมืดให้รับแสงสว่างจากธรรมชาติได้  เช่น  มุงหลังคาหรือแผ่นฝ้าด้วยวัสดุโปร่งแสง , ติดผ้าม่าน 2 ชั้นเพื่อให้สามารถเลือกรับแสงทำให้ไม่ต้องเปิดไฟฟ้าตลอด หรือจะใช้ม่าน 2 ชั้นบังแดดเพื่อลดการนำความร้อนเข้าสู่ตัวอาคาร ทำให้ไม่ต้องเปิดแอร์ด้วยอุณหภูมิต่ำ  และแทนที่จะเปิดแอร์ตลอดทั้งวัน  ลองเปิดหน้าต่างห้องทำงานเพื่อรับลมธรรมชาติแทนการเปิดแอร์ โดยวิธีทำให้ลมเข้ามาในห้อง  คือ  เปิดหน้าต่างอย่างน้อย  2  ด้านให้มีทางเข้าและออกของลม   และไม่ควรนำสิ่งของไปบังช่องหน้าต่างหรือทิศทางเข้าออกของลม  ก็จะทำให้ห้องมีลมเข้ามาช่วยลดความร้อนโดยไม่จำเป็นต้องเปิดแอร์   ในกรณีที่ต้องเปิดแอร์ลองปรับอุณหภูมิให้สูงขึ้นกว่าเดิมเช่น  26 องศาแล้วเปิดพัดลมช่วยก็จะประหยัดไฟได้เช่นกัน

4.ปิดหรือถอดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกครั้งหลังเลิกใช้งาน

• ปิดเครื่องถ่ายเอกสารทุกครั้งหลักเลิกใช้งาน
• ปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ช่วงพักกลางวันหรือหลังใช้งานเสร็จ
• เครื่อง Notebook  ตั้งเป็น  Sleep Mode เมื่อไม่ใช้งาน  ปรับแสงจอไม่ให้สว่างจนเกินไป   รวมทั้งควรตั้งค่าประหยัดพลังงานเพื่อช่วยประหยัดแบตเตอรี่ในกรณีที่มีการเปิด Notebook  ทิ้งไว้

5.เลือกใช้หลอด LED แทนหลอดไฟธรรมดา

ในกรณีที่ต้องเปิดไฟเพดานควรเลือกใช้หลอด LED เพราะประหยัดไฟกว่าหลอดธรรมดาทั่วไป   แม้ว่าหลอด LED จะมีราคาแพงกว่าหลอดไฟธรรมดาแต่ในระยะยาวเรื่องการประหยัดไฟถือว่าคุ้มกว่ามาก  ที่สำคัญหากเปลี่ยนมาใช้หลอด LED จะสามารถให้ความสว่างได้มากกว่าหลอดไฟธรรมดา และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอีกด้วย

นอกจาก 5 วิธีที่จะช่วยประหยัดค่าไฟให้กับโฮมออฟฟิศแล้ว  ควรเลือกเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 ก็จะเป็นอีกวิธีหนึ่งในการช่วยเซฟค่าไฟฟ้าให้กับเราได้ในระยะยาวอีกด้วย