บุญหล่นทับได้รับมรดกที่ดินต้องจัดการยังไง

เมื่อการจากลาของบุคคลที่รักไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่ ปู่ย่า ตายาย พี่ป้าน้าอา นอกจากจะทำให้ผู้ที่ประสบกับเรื่องดังกล่าวต้องเศร้าโศกเสียใจแล้ว หลังจากจัดงานศพตามประเพณี ก็มีอีกสิ่งหนึ่งที่เข้ามาเกี่ยวกับลูกหลานนั่นก็ คือ การบริหารจัดการมรดกของผู้เสียชีวิต หนึ่งในมรดกที่คนรุ่นเก่าชอบซื้อสะสมไว้เพื่อส่งต่อให้ลูกหลานก็คือ “ที่ดิน” เมื่อเจ้าของที่ดินหรือผู้มีชื่อในเอกสารเกี่ยวกับที่ดิน เช่น โฉนดที่ดิน หรือ น.ส.๓ หรือ น.ส.๓ ก. หรือ น.ส.๓ ข. เกิดเสียชีวิตไป  ที่ดินแปลงนั้นจะกลายเป็นมรดกตกทอดมายังทายาทของผู้เสียชีวิต ตามสิทธิ ตามกฎหมายหรือตามพินัยกรรมที่เจ้ามรดกหรือผู้เสียชีวิตได้ทำไว้ ทั้งนี้ในทางกฎหมายทายาทที่มีสิทธิหรือทายาทโดยธรรมนั้นมี 6 ลำดับ แต่ละลำดับมีสิทธิได้รับมรดกก่อนหลังกัน  ดังนี้
 

1. ผู้สืบสันดาน (บุตร, หลาน, เหลน, ลื้อ)

2. บิดา มารดา

3. พี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกัน

4. พี่น้องร่วมบิดา หรือร่วมมารดาเดียวกัน

5. ปู่ ย่า ตา ยาย

6. ลุง ป้า น้า อา ทั้งนี้ คู่สมรสที่ยังมีชีวิตอยู่ให้ถือเป็นทายาทโดยธรรม มีสิทธิรับมรดกร่วมกับทายาทโดยธรรมทั้ง 6 ลำดับอีกด้วย


เมื่อทราบว่าตนเองเป็นผู้มีสิทธิได้รับมรดกที่ดิน  ผู้นั้นจะต้องไปขอจดทะเบียนรับโอนมรดกที่ดินที่สำนักงานที่ดินจังหวัด หรือสำนักงานที่ดินจังหวัดสาขา 

หลักฐานที่ต้องนำไปประกอบการขอรับมรดก คือ

  • โฉนดที่ดิน หรือหนังสือรับรองทำประโยชน์
  • บัตรประจำตัวประชาชน
  • ทะเบียนบ้าน
  • หลักฐานการตายของเจ้ามรดก เช่น ใบมรณบัตร
  • พินัยกรรม (ถ้ามี)
  • ถ้าผู้ขอรับมรดกเป็นคู่สมรส  ต้องมีใบทะเบียนสมรส
  • ถ้าผู้ขอรับมรดกเป็นบิดาเจ้ามรดก ต้องมีทะเบียนสมรสกับมารดาของเจ้ามรดกหรือหลักฐานการรับรองบุตร
  • ถ้าผู้ขอรับมรดกเป็นบุตรบุญธรรม ต้องแสดงหลักฐานการจดทะเบียนรับบุตรบุญธรรม
  • ถ้ามีกรณีพิพาทเกี่ยวกับมรดก ต้องนำสัญญาประนีประนอมยอมความหรือคำพิพากษาอันถึงที่สุดไปแสดง
  • ถ้ามีผู้มีสิทธิรับมรดกร่วมกันหลายคน บางคนได้ถึงแก่กรรมไปแล้ว ต้องมีหลักฐานการตายของทายาทนั้น ๆ


ในกรณีที่มีผู้จัดการมรดก หลักฐานที่ต้องนำไป คือ

  • คำสั่งศาลหรือคำพิพากษาของศาล หรือพินัยกรรมซึ่งตั้งให้ผู้ขอเป็นผู้จัดการมรดก
  • หลักฐานการตายของเจ้ามรดก
  • ทะเบียนบ้าน และบัตรประจำตัวของผู้จัดการมรดก
  • โฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์


ค่าธรรมเนียมการจดทะเบียน

  • ค่าคำขอ แปลงละ 5 บาท
  • ค่าประกาศมรดก แปลงละ 10 บาท
  • ค่าจดทะเบียนผู้จัดการมรดก แปลงละ 50 บาท
  • ค่าจดทะเบียนโอนมรดก ร้อยละ 2 ตามราคาประเมินทุนทรัพย์
  • ในกรณีโอนมรดกระหว่างผู้บุพการีกับผู้สืบสันดาน หรือระหว่างคู่สมรส เรียกตามราคาประเมินทุนทรัพย์ ร้อยละ 0.5

ตัวอย่างการขอรับมรดกที่ดิน

ที่ดินของคุณพ่อและคุณแม่ได้เสียชีวิตแล้วทั้งคู่ โดยไม่ได้ทำพินัยกรรมไว้และมีทายาท 4 คน  เมื่อไม่ได้ทำพินัยกรรมไว้มรดกจึงตกแก่ทายาทโดยชอบธรรม โดยการขอรับมรดกที่ดินทำได้ 2 วิธี

  • กรณีมีผู้จัดการมรดก

ผู้จัดการมรดกจะต้องนำหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินพร้อมด้วยหลักฐานการเป็นผู้จัดการมรดก ได้แก่ คำสั่งศาลที่แต่งตั้งผู้จัดการมรดกหรือคำพิพากษา เพื่อนำไปแสดงต่อหน้าพนักงานเจ้าหน้าที่เมื่อตรวจสอบแล้วพบว่าถูกต้องก็จะจดทะเบียนให้ และเมื่อได้จดทะเบียนลงชื่อผู้จัดการมรดกในหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินแล้ว ผู้จัดการมรดกสามารถขอยื่นจดทะเบียนโอนมรดกให้แก่ทายาทต่อไปได้

  • กรณีไม่มีผู้จัดการมรดก

ทายาทผู้ขอรับมรดกต้องนำหลักฐานแสดงสิทธิในที่ดิน เช่น โฉนดที่ดิน, ใบมรณบัตร, ทะเบียนบ้าน, บัตรประจำตัวประชาชน, สูติบัตร ไปแสดงต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ณ สำนักงานที่ดินที่ที่ดินนั้นตั้งอยู่ เมื่อพนักงานเจ้าหน้าที่สอบสวนแล้วเชื่อว่าผู้ขอเป็นทายาทมีสิทธิรับมรดก พนักงานเจ้าหน้าที่ก็จะทำการประกาศภายใน 30 วัน หากไม่มีผู้โต้แย้งคัดค้านภายใน 30วัน  พนักงานเจ้าหน้าที่จึงจะจดทะเบียนให้


นอกจากนี้หากมีทายาทรับมรดกหลายคน หากมีบางคนจะมาขอจดทะเบียนรับมรดกทั้งหมด จะต้องนำทายาทที่แสดงไว้ในบัญชีเครือญาติทุกคนมาให้คำยินยอมหรือนำหลักฐานแสดงว่าไม่รับมรดกของทายาทคนนั้นมาแสดงต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกำหนดเวลาที่ประกาศไว้ พนักงานเจ้าหน้าที่จึงจะจดทะเบียนให้


ในกรณีที่ผู้ขอไม่สามารถนำทายาทที่แสดงไว้ในบัญชีเครือญาติทุกคนมาให้คำยินยอมหรือไม่สามารถนำหลักฐานการไม่รับมรดกของทายาทคนดังกล่าวมาแสดงตามกำหนดเวลาที่ประกาศไว้  พนักงานเจ้าหน้าที่จะไม่สามารถจดทะเบียนให้ได้ หากผู้ขอจะขอให้จดทะเบียนโอนมรดกให้ พนักงานเจ้าหน้าที่ก็จะจดทะเบียนโอนมรดกให้ไปเท่าที่ผู้ขอมีสิทธิอยู่เท่านั้น


จากตัวอย่างจะเห็นได้ว่าเมื่อทายาทโดยชอบธรรมเห็นพ้องต้องกันในการรับโอนมรดกที่ดินเพียงแค่เตรียมเอกสารให้พร้อมก็สามารถจดทะเบียนรับโอนมรดกที่ดินได้ตามสิทธิที่พึงได้รับ  ยกเว้นเสียแต่ในกรณีที่เกิดมีข้อพิพาทหรือข้อโต้แย้งระหว่างทายาทโดยธรรมซึ่งก็ต้องผ่านกระบวนการพิจารณาในชั้นศาลต่อไป  หากคุณได้รับมรดกที่ดินแล้วอยากปลูกสร้างบ้าน  สามารถขอสินเชื่อเพื่อปลูกสร้างบ้านได้  ดูรายละเอียดที่นี่ https://www.scb.co.th/th/personal-banking/loans/home-loans/home-builder.html


ข้อมูล :

https://www.dol.go.th

http://www.thailaws.com/aboutthailaw/land_208.htm