แม้ว่าในปี 2564 ที่ผ่านมา ทั่วโลกยังต้องเผชิญกับปัญหาการแพร่ระบาดของโควิด-19 และการขาดแคลนชิปเซมิคอนดักเตอร์ แต่ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้า EV กลับดีดตัวเพิ่มสูงขึ้น ส่วนหนึ่งนั้นมาจากการฟื้นตัวหลังการแพร่ระบาดใหญ่ของโควิด-19 รอบที่ผ่านมา และตลาดรถยนต์ขนาดเล็กทั่วโลกเริ่มฟื้นตัว  เมื่อดูยอดจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้า EV ปี 2564 พบว่าเพิ่มขึ้นทั่วโลก และมีแนวโน้มเติบโตแซงหน้ายอดจำหน่ายรถยนต์แบบสันดาปที่ใช้เครื่องยนต์  โดยภาพรวมปี 2564 พบว่าทั่วโลกมียอดจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มขึ้น โดยเป็นรถยนต์ไฟฟ้ากว่า 4 ล้านคันและรถยนต์ไฮบริด 2.4 ล้านคัน ทำให้มียอดขายรวมทั่วโลก  6.4 ล้านคัน และเมื่อรวมจำนวนผู้ใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลกนับได้ 16 ล้านคัน ซึ่ง 2 ใน 3 เป็นรถยนต์ไฟฟ้าแบบ BEV ที่ใช้ไฟฟ้า 100%  และแน่นอนว่าแบรนด์รถยนต์ยี่ห้อ Tesla ยังคงเป็นผู้ผลิตรถที่มีมูลค่าตลาดมากที่สุดในโลก และเป็นผู้นำในการขายรถยนต์ EV ในหลายประเทศทั่วโลกอีกด้วย ลองมาดูยอดการผลิตและการจัดจำหน่ายรถยนต์ EV ในประเทศหลักๆ ที่มีการใช้รถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้นว่าเป็นอย่างไรบ้าง

• จีน อยู่ในอันดับต้น ๆ ที่มียอดขายรถยนต์ EV คิดเป็น 12% ของยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าในปี 2564 ซึ่งมียอดขายเพิ่มเป็นสองเท่าจากปีก่อนหน้า นอกจากนี้จีนยังคงเป็นศูนย์กลางการผลิตที่สำคัญในด้านนวัตกรรมรถยนต์ไฟฟ้า และการผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าในตลาดโลกอีกด้วย รวมทั้งจีนยังมีบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ EV กว่า 10 ราย  โดยผู้ผลิตรถยนต์ EV ในจีนมีการส่งมอบรถยนต์ รวมทั้งสิ้น จำนวน 1.28 ล้านคันในปี 2564  โดย 5 อันดับแรกประกอบด้วย อันดับ 1 SAIC Motor กลุ่มบริษัทยานยนต์ที่มีการร่วมทุนกับผู้ผลิตรถยนต์หลายรายทั่วโลก มียอดการผลิตรถยนต์ 730,000 คัน  อันดับ 2  Tesla  นอกจาก Tesla จะเป็นผู้ผลิตรถยนต์ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในสหรัฐอเมริกาและเป็นผู้นำระดับโลกในด้านส่วนแบ่งการตลาด และยังคงเป็นผู้นำในตลาดจีน รวมทั้งตั้งโรงงานผลิตในจีนอีกด้วย มียอดผลิต 473,078 คัน อันดับ 3  BYD Motor มียอดผลิต 320,622 คัน อันดับ 4 Lynk & Co. มียอดผลิต  220,000 คัน และอันดับ 5  Great Wall Motor มียอดผลิต 136,953 คัน เพิ่มขึ้นมากกว่า 80% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า
  
  
• นอร์เวย์ ยังคงเป็นผู้นำโลก ด้านจำนวนยอดผู้ใช้รถยนต์ EV ในประเทศ โดยมียอดจำหน่ายมากกว่า 80% ของยอดขายรถยนต์ใหม่ทั้งหมดในประเทศ
  
  
• สหราชอาณาจักรและยุโรป ตลาดรถ EV มีอัตราเติบโตสูงกว่าตลาดรถยนต์ขนาดเล็กทั้งหมดถึง 8 เท่า ส่วนแบ่งของยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าและปลั๊กอินไฮบริดทั้งหมดในยุโรปเพิ่มขึ้นกว่า 6% ในปี 2564 ขณะที่แบรนด์ Tesla ยังคงเป็นผู้นำ โดยขายได้มากกว่า 386,000 คันในไตรมาสแรก ตามด้วยแบรนด์  Volkswagen มียอดขาย 332,000 คัน และ  GM อยู่อันดับ 3 ยอดขาย 227,000 คันในไตรมาสแรก

• สหรัฐอเมริกา ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าสูงกว่าปีก่อนๆ เนื่องจากรัฐบาลสหรัฐมีนโยบายทำโครงสร้างพื้นฐานสร้างสถานีเครือข่ายชาร์จรถยนต์ EV รวมถึงออกกฎหมายข้อกำหนดการปล่อยมลพิษเป็นศูนย์ในยานพาหนะที่เข้มงวดขึ้นกับรถที่ใช้เครื่องยนต์สันดาป นอกจากนี้สหรัฐฯ ยังตั้งเป้าให้มียอดขายรถยนต์ไฟฟ้าแบบ BEV และแบบปลั๊กอินไฮบริดให้ได้ 50% ภายในปี 2573  โดยในปี 2564 ที่ผ่านมา มีการขายรถยนต์ไฟฟ้ามากกว่า 310,000 คันในช่วงครึ่งปีแรกของปี โดยเฉพาะรัฐแคลิฟอร์เนียมีผู้ใช้รถยนต์ EV เพิ่มขึ้น 121,000 คันในช่วง 6 เดือนแรกของปี
  
  
• สำหรับไทย ยังคงมีผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าน้อยมาก จากสถิติยอดจดทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้าตั้งแต่ต้นปี 2564 ถึงเดือน ต.ค. พบว่ามียอดจดทะเบียนกว่า 35,501 คัน คิดเป็นรถ EV แบบ Hybrid 95% และแบบ BEV ใช้ไฟฟ้า 100%  อยู่ที่ 5% ทั้งนี้ทางภาครัฐยังมีเป้าหมายสนับสนุนให้ประชาชนหันมาให้ใช้รถยนต์ไฟฟ้า EV ทั้งแบบ Hybrid และแบบไฟฟ้า 100%  ภายในปี พ.ศ. 2579 ให้ได้รวมทั้งสิ้น 1.2 ล้านคันอีกด้วย

ทั้งหมดนี้จะเห็นได้ว่าหลายประเทศทั่วโลกที่มียอดการใช้รถยนต์ EV เพิ่มขึ้นสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด สาเหตุหลักนั้นมาจากการรณรงค์ของภาครัฐให้ประชาชนหันมาใช้รถยนต์ไฟฟ้าอย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยการมีนโยบายส่งเสริมและมาตรการจูงใจต่าง ๆ เพื่อเพิ่มยอดการซื้อรถยนต์ EV  เช่น ยกเว้นภาษีจดทะเบียนและภาษีมูลค่าเพิ่ม มีที่ชาร์จไฟสาธารณะฟรี ไม่เก็บค่าผ่านทาง อนุญาตให้รถ EV วิ่งในเลนของรถสาธารณะได้ รวมทั้งยังสนับสนุนให้มีสถานีชาร์จรถไฟฟ้าเพิ่มทั่วประเทศอย่างเป็นระบบอีกด้วย  สนใจออกรถยนต์ไฟฟ้าใหม่ ลองใช้บริการสินเชื่อรถยนต์ใหม่ของ SCB ช่วยทำฝันของคุณเป็นจริงได้เร็วขึ้น  ดูรายละเอียด https://www.scb.co.th/th/personal-banking/loans/car-loans/auto-finance-new-car.html

ที่มา :

https://electrek.co/2022/01/10/2021-ev-deliveries-in-china-by-the-numbers-how-some-of-the-markets-major-players-grew/

https://www.greencars.com/post/how-many-electric-vehicles-sold-in-2021

https://heycar.co.uk/blog/electric-cars-statistics-and-projections

https://erdi.cmu.ac.th/?p=1478

https://www.thairath.co.th/business/feature/2262637