หากพูดถึงแคมเปญฟรีเดลิเวอรีของ Robinhood ในช่วงที่มีการประกาศล็อกดาวน์พื้นที่ที่มีการแพร่ระบาดของ COVID-19 ระลอก 4 หลายคนคงมีโอกาสได้ใช้บริการสั่งอาหารผ่านแอป Robinhood ในแคมเปญนี้กันมาบ้าง ซึ่งคุณสีหนาท ล่ำซำ กรรมการผู้จัดการบริษัท เพอร์เพิล เวนเจอร์ส จำกัด ผู้บริหารแพลตฟอร์มโรบินฮู้ด หรือคุณบิ๊ก ได้มาแบ่งปันข้อมูลของแคมเปญดีๆ นี้ ตลอดจนวิธีเพิ่มยอดขายให้ฟัง ในงานสัมมนาออนไลน์ เปิดสูตรลับ!! ปรับกลยุทธ์ ธุรกิจอาหารต้องรอด เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2564

ทางเลือกที่กลายมาเป็นทางรอด

การระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ทำให้ธุรกิจฟู้ดเดลิเวอรีเติบโตขึ้นแบบก้าวกระโดด จนวันนี้ฟู้ดเดลิวอรีไม่ใช่ทางเลือกของร้านอาหารอีกต่อไป แต่กลายเป็นทางรอดที่สามารถต่อยอดได้ทุกวัน ไม่ว่าจะเป็นการบริหารจัดการต้นทุน การจัดการธุรกิจเพื่อให้มีกำไร ร้านอาหาร พ่อครัว แม่ครัว พนักงาน ตลอดจนไรเดอร์ยังมีงานทำ สามารถหล่อเลี้ยงภาพรวมของธุรกิจร้านอาหารให้ไปต่อได้ ซึ่งแคมเปญฟรีเดลิวอรี่ช่วงล็อกดาวน์เดือนกรกฎาคม 2564 คุณบิ๊กเล่าให้ฟังว่า ที่ผ่านมารวม 4 สัปดาห์ ยอดสั่งอาหารโตขึ้น 7 - 8 เท่า จากปกติใน 1 วัน จะมียอดสั่งอาหารอยู่ที่ประมาณ 20,000 กว่า กลายเป็นเกือบสองแสนออร์เดอร์ต่อวัน ทำให้ต้องเพิ่มไรเดอร์อย่างเร่งด่วนด้วยการเปิดอบรมไรเดอร์ออนไลน์ทุกวัน ได้ไรเดอร์ใหม่ๆ เพิ่มขึ้นมาวันละกว่า 2,000 คน จนปัจจุบัน Robinhood มีไรเดอร์อยู่ในระบบแล้วกว่า 26,000 คน เป็นไรเดอร์ที่แอคทีฟกว่า 14,000 คน เกิดการสร้างโอกาส สร้างงานให้กับไรเดอร์ ส่วนไรเดอร์ก็ได้ช่วยร้านอาหาร และเป็นตัวกลางส่งมอบความสุขผ่านอาหารไปถึงมือลูกค้า นอกจากนี้ยังเกิดเป็น Eco System แห่งการเกื้อกูลกัน ทำให้เราได้เห็นภาพของร้านอาหารที่จัดหาที่นั่งรอ พร้อมเครื่องดื่มเผื่อแผ่ให้ไรเดอร์ เห็นไรเดอร์ช่วยร้านอาหารจัดเตรียมของในการจัดส่งให้ลูกค้า และภาพของลูกค้าที่สั่งอาหารเผื่อแผ่ไปถึงไรเดอร์

ต่อยอดและเรียนรู้จากสถิติ

คุณบิ๊กเริ่มเข้ามาบริหารธุรกิจฟู้ดเดลิเวอรี่ครั้งแรกในปี 2563 โดยจากประสบการณ์ที่เปิดตัวแอป Robinhood มาตั้งแต่วันที่ 26 ตุลาคม 2563  คุณบิ๊กมองเห็นรูปแบบในการทำธุรกิจร้านอาหารในไทยหลายๆ ด้าน และแคมเปญฟรีเดลิเวอรีที่ผ่านมายังทำให้จำนวนไรเดอร์ของ Robinhood โตขึ้น 2.5 เท่า มีร้านอาหารเพิ่มขึ้นเป็น 150,000 ร้าน ลูกค้าเพิ่มจาก 1 ล้านคน เป็นเกือบ 2 ล้านคน โดยสิ่งที่ได้เรียนรู้จากสถิติของ Robinhood คือ

1. ช่วงเวลาที่คนสั่งอาหารมากที่สุดคือช่วงเวลากลางวัน และช่วงเย็น ซึ่งเหมือนกันทั้งธุรกิจเดลิเวอรี สำหรับแอป Robinhood ช่วงที่ยอดออร์เดอร์สูง (Peak Time) จะมี 2 ช่วงเช่นเดียวกัน คือ ช่วงเช้า ตั้งแต่เวลา 10:30-13:30 น. และช่วงเย็น ตั้งแต่ 16:30 - 19:30 น. และเพื่อให้เกิดการกระจายรายได้ให้ครอบคลุมทุกช่วงเวลา Robinhood จึงลดค่าส่งอาหารให้ลูกค้าในช่วงเวลาที่มียอดการสั่งน้อย (Off Peak) ด้วยค่าส่งเริ่มต้นที่ 9 บาทตั้งแต่การเริ่มต้นเปิดตัว เพื่อที่ร้านอาหารจะได้ขายอาหารได้ทั้งวัน ไรเดอร์มีงานทำตลอดวัน และในสถานการณ์ COVID-19 ระลอก 4 ทาง Robinhood เองก็ได้ต่อยอดการช่วยเหลือนี้ด้วยแคมเปญเหมาจ่ายค่าส่ง 10 บาททุกออร์เดอร์ในระยะทางไม่เกิน 5 กิโลเมตร โดยไรเดอร์จะได้รับค่าส่งตามจริงแบบเต็มเม็ดเต็มหน่วยตามปกติ
   
   
2. วันที่คนสั่งอาหารมากที่สุดคือวันศุกร์ - อาทิตย์ และลดลงในวันจันทร์ โดยคำว่า "แซลมอน" ถูกค้นหามากที่สุดบนแอปโรบินฮู้ด รองลงมาเป็นอาหารประเภทยำ และอันดับสามเป็นเทรนด์หรือแฟชั่นฟู้ดอย่างกาแฟและเครื่องดื่ม ซึ่งจากข้อมูลนี้ เจ้าของร้านอาหารสามารถนำมาปรับทำโปรโมชันเพื่อตอบโจทย์พฤติกรรมลูกค้าได้
   
   
3. เขตที่มียอดการสั่งซื้อสูงสุด 3 เขตได้แก่ เขตจตุจักร ลาดพร้าว และ วัฒนา ตามลำดับ ซึ่งสามเขตดังกล่าวจะมีร้านอาหารเก่าแก่มีชื่อเสียง มีห้างสรรพสินค้าซึ่งเป็นแหล่งรวมร้านอาหาร และโซนที่พักอาศัยรวมอยู่ด้วย ส่วนโซนออฟฟิศ ในช่วงก่อนจะมีการล็อกดาวน์ จะได้ออร์เดอร์ในช่วงวันจันทร์ - ศุกร์ ส่วนปลายสัปดาห์ ยอดการสั่งซื้อจะกลับไปอยู่ในโซนที่พักอาศัยแทน ซึ่งอาจจะอยู่ตามรอบนอกกรุงเทพฯ หากร้านอาหารต้องการขายได้ทุกวัน ต้องจัดสรรเมนู และโปรโมชันให้ตอบโจทย์พฤติกรรมลูกค้า และหันมาใช้ระบบ Cloud Kitchen หรือระบบครัวกลาง เพื่อขยายพื้นที่การทำเดลิเวอรีให้ครอบคลุมในหลายๆ เขต เพิ่มโอกาสการขายให้มากขึ้น

เพิ่มยอดขายให้ร้านค้าด้วยการสมัคร LS

ด้วยนโยบายของแพลตฟอร์ม Robinhood ที่ไม่เก็บค่าธรรมเนียม Gross Profit (GP) กับร้านค้า ไม่มีการขายโฆษณา ดังนั้นจึงไม่มีการจัดสรรตำแหน่งการแสดงร้านอาหารบนแอปพลิเคชัน Robinhood ตามค่าโฆษณา แต่จะใช้การทำ Personalize ด้วยการแสดงร้านอาหารที่ใกล้ตำแหน่งที่อยู่ของลูกค้าที่เป็นผู้สั่งก่อน เพื่อจะได้เกิดการอุดหนุนร้านอาหารเล็กๆ ใกล้บ้าน

ส่วนร้านอาหารสามารถเพิ่มยอดขายด้วยการสมัครเข้าร่วม Logistic Subsidy (LS)  กับ Robinhood ได้ด้วย ซึ่ง LS คือส่วนลดค่าอาหารจากทางร้านค้า โดย Robinhood จะส่งต่อให้ลูกค้า 100% เพื่อให้ลูกค้านำไปใช้เป็นส่วนลดค่าอาหารและค่าส่งในออร์เดอร์นั้นๆ  ดังนั้นการที่ร้านค้าไม่ต้องเสียค่า GP จึงสามารถนำเงินที่ประหยัดได้ มามัดใจลูกค้าด้วยวิธีนี้แทน และจากสถิติแล้ว LS ยังช่วยให้ร้านอาหารมียอดสั่งซื้อเพิ่มขึ้น 3 - 4 เท่าต่อวัน และเกิดการกลับมาสั่งซ้ำบ่อยขึ้นอีกด้วย โดยร้านอาหารที่ให้ส่วนลดกับลูกค้า ตัวระบบของ Robinhood ก็จะดึงส่วนลดจากร้านอาหารมาแสดงให้ลูกค้าเห็นก่อนเช่นกัน

นอกจากนี้ Robinhood ยังมี 4 ทิปส์ขายดีบนแอป Robinhood มาแนะนำด้วย ซึ่งสามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่ https://www.scb.co.th/th/personal-banking/stories/business-maker/robinhood-shop-app.html

ช่องทางการสมัครเป็นร้านค้าใน Robinhood

ร้านขายอาหาร ขนมและเครื่องดื่ม ไม่ว่าจะเป็นร้านเล็ก หรือใหญ่ มีหน้าร้าน หรือไม่มีหน้าร้าน ก็สามารถสมัครร่วมเป็นร้านค้าบนแอป Robinhood ได้ 2 แบบ คือ แบบร้านอาหารที่เป็นบุคคลธรรมดา และนิติบุคคล โดยจะต้องมีบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ประเภทออมทรัพย์ หรือเดินสะพัดก่อน จากนั้นก็เข้าไปดูรายละเอียดและสมัครได้ที่ https://www.robinhood.in.th/merchant/

ช่องทางติดต่อ Robinhood สำหรับร้านค้าและลูกค้า

• คอลเซ็นเตอร์ โทร 02 - 777-7564
• Facebook Page: Robinhood Delivery

ที่มา: งานสัมมนาออนไลน์ เปิดสูตรลับ!! ปรับกลยุทธ์ ธุรกิจอาหารต้องรอด หัวข้อ “เปิดวิธีปรุงการขายผ่าน Robinhood ทำอย่างไรให้ได้ยอดขายเยอะ” โดย SCB SME วันที่ 10 สิงหาคม 2564