หากระบบเศรษฐกิจของประเทศเปรียบดั่งร่างกายมนุษย์ SME ก็เปรียบเสมือนเส้นเลือดที่ช่วยหล่อเลี้ยงร่างกายให้มีชีวิตอยู่ต่อไปได้ แต่เมื่อใดก็ตามที่เส้นเลือดเกิดอุดตัน ย่อมส่งผลต่อระบบร่างกายอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง ไทยพาณิชย์ เล็งเห็นความสำคัญของผู้ประกอบการธุรกิจ SME  จึงได้จัดโครงการอบรมหลักสูตรออนไลน์ The DOTS Digital Commerce X เพื่อช่วยเสริมศักยภาพ SME ไทยให้เข้มแข็ง และมีเกราะป้องกันต่อการแข่งขันบนโลกยุคไร้พรหมแดน พร้อมลับคมติดอาวุธ ด้วยกลยุทธ์ออนไลน์มาร์เก็ตติ้ง เพื่อเผชิญความท้าทายใหม่ในยุคดิจิทัล โดยมี คุณพิกุล ศรีมหันต์ รองผู้จัดการใหญ่อาวุโส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจเอสเอ็มอี ธนาคารไทยพาณิชย์ ได้พูดเปิดหลักสูตรโครงการอบรมในครั้งนี้

ทำไม Growth Mindset จึงมีความสำคัญกับ SME?

การพัฒนาทักษะความรู้ใหม่ในการทำธุรกิจ เป็นสิ่งที่ผู้ประกอบการ SME ต้องหมั่นเรียนรู้ ฝึกฝนตนเองอยู่เสมอ เพื่อให้สามารถเท่าทันโลกยุคใหม่ ที่มีเทคโนโลยีเป็นตัวชี้วัดว่าเกมนี้ใครจะเป็นผู้แพ้หรือชนะ คุณพิกุล กล่าวว่า “คนที่เป็นผู้ประกอบการ SME ต้องมีความรู้ในการทำธุรกิจแบบ 360 องศา และยังต้องมี Growth Mindset โดยเฉพาะการมองเห็นโอกาส ไม่ยอมแพ้ต่ออุปสรรคที่อยู่ตรงหน้า ยิ่งในตอนนี้ชีวิตของเราหนีไม่พ้นเทคโนโลยี เพราะเทคโนโลยีจะเป็นอาวุธหลักที่ช่วย SME ให้รอดพ้นจากการถูก disrupt ฉะนั้นการทำความเข้าใจเรื่องการขายออนไลน์บนแพลตฟอร์ม ใช้เทคโนโลยีช่วยลดต้นทุนและการใช้ data เพื่อรู้จักลูกค้าที่แท้จริงจึงเป็นสิ่งที่สำคัญมาก”

คนตัวใหญ่ช่วยพยุงคนตัวเล็กอย่างไร?

จากความสำคัญของ SME ทำให้ SCB มองว่า หน้าที่หลักของธนาคารนอกจากปล่อยสินเชื่อให้มีเงินทุนทำธุรกิจแล้ว ยังอยากร่วมเป็นพันธมิตรธุรกิจจับมือ SME ให้สามารถก้าวเดินต่อไปได้ โดยเฉพาะในยามวิกฤติที่ต้องการความช่วยเหลือ ถ้า SME ไปไม่รอด ธนาคารก็ไปต่อไม่ได้เช่นกัน จึงเป็นที่มาของโครงการอบรมเพื่อช่วย SME ให้สามารถเดินเกมธุรกิจต่อยอดสู่ถนนออนไลน์ ผ่านหลักสูตรอันเข้มข้นตลอด 6 สัปดาห์เพื่อให้ผู้เข้าอบรมกว่า 200 ชีวิตได้ปรับวิธีคิด วิธีทำ และกลยุทธ์ในการเข้าสู่สมรภูมิดิจิทัล โดยธนาคารจะเป็นตัวกลางนำ dot แต่ละ dot มาเชื่อมต่อกันจนกลายเป็นเส้นที่ทรงพลัง เพื่อนำพาเศรษฐกิจไทยให้ผ่านพ้นวิกฤติและผงาดสู่เวทีการค้าระดับโลกได้

คุณพิกุลกล่าวว่า “ธนาคารมองว่าการช่วยผู้ประกอบการ SME ให้แข็งแกร่งต่อสู้ได้ในยุคนี้ จำเป็นต้องช่วยลดต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ เมื่อเป็นเช่นนั้นธนาคารจึงลงทุนสร้างแพลตฟอร์มเพื่อช่วยคนตัวเล็กให้มีระบบนิเวศน์ทำธุรกิจและสามารถแข่งขันได้อย่างเสรี ยกตัวอย่าง เช่น Robinhood ด้วยเจตนารมณ์ช่วยเหลือผู้ประกอบธุรกิจอาหารให้มีหน้าร้านออนไลน์แบบไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมหรือค่า GP ขณะที่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในระบบนิเวศน์ เช่น กลุ่มไรเดอร์ก็ได้มีงานทำ และในปีหน้า  Robinhood จะขยายบริการไปยังกลุ่มธุรกิจโรงแรมท้องถิ่น ทำให้มีช่องทางในการขายห้องพักบนแพลตฟอร์มโดยไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม นอกจากนี้ ธนาคารยังมี SCB Trade Club แพลตฟอร์มช่วยผู้ประกอบธุรกิจนำเข้า-ส่งออก สามารถซื้อขายสินค้าได้ทุกมุมโลก พร้อมรวบรวมข้อมูลการค้า เอกสาร ตลอดจนเป็นสื่อกลางในการ Matching คู่ค้าจากทั่วโลก ช่วยให้ธุรกิจนำเข้า-ส่งออก สามารถสยายปีกได้ไกลกว่าเดิม  นอกจากนี้ยังมีระบบโอนเงินแบบไม่คิดค่าธรรมเนียมที่ช่วย SME ให้ได้รับความสะดวกรวดเร็ว รวมไปถึงการจับมือกับพันธมิตรแนะนำตัวช่วยธุรกิจให้กับ SME เช่น  MyClouldFullfillment แพลตฟอร์มช่วยคนขายของออนไลน์สามารถจัดเก็บ-แพ็ก-ส่งสินค้า ทำให้ประหยัดต้นทุนและบริหารสต็อกได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นต้น  จะเห็นได้ว่าบทบาทของธนาคารไม่ใช่เพียงแค่ผู้ปล่อยกู้อย่างเดียว แต่จะเป็นเสมือนมิตรแท้ที่พร้อมเดินเคียงข้าง ส่งต่อความสำเร็จให้ SME ไทย เติบโต เข้มแข็ง แบบไร้ขีดจำกัด

3 คีย์หลักพลิกแต้มต่อ SME

คุณพิกุลกล่าวย้ำว่า “สำหรับเรื่องเทคโนโลยีอย่างไรเสียก็หนีไม่พ้น ในเมื่อหนีไม่พ้น ก็ต้องเผชิญหน้า อยากจะบอกว่าเคล็ดลับที่ทำให้ธุรกิจแพ้หรือชนะอยู่ที่ต้นทุน” หาก SME รู้จักใช้เทคโนโลยีให้เป็นตัวช่วย ก็จะทำให้เกิดประโยชน์มหาศาลต่อธุรกิจจากการใช้เทคโนโลยี เช่น

1. ช่วยลดต้นทุน เช่น  ใช้แพลตฟอร์มทำบัญชีทำให้ไม่ต้องจ้างพนักงานบัญชีและสามารถรับรู้ต้นทุนกำไรที่แท้จริงในแต่ละวันทำให้สามารถบริหารสภาพคล่อง แถมจัดการภาษีได้อย่างสะดวก รวดเร็ว มีประสิทธิภาพ
   
   
2. ช่วยให้ธุรกิจมี data เพื่อทำความเข้าใจลูกค้ามากขึ้นว่ามีพฤติกรรมอย่างไร ชอบสินค้าอะไร  สั่งซื้อของจำนวนเท่าไหร่ ควรผลิตสินค้าอะไรที่ตรงกับความต้องการลูกค้า ซึ่งผู้ประกอบการที่สามารถไขความลับของ data ได้จะพบกับความมหัศจรรย์ที่สามารถช่วยเพิ่มยอดขาย ลดรายจ่าย และประหยัดต้นทุนให้ธุรกิจได้ เป็นต้น
   
   
3. ช่วยเพิ่มเครดิตให้ผู้ประกอบการ ในอนาคตหาก SME ต้องการทุนเพื่อต่อยอดธุรกิจ หนึ่งในเครดิต score ที่ธนาคารสนใจคือ ที่มาของแหล่งรายได้ออนไลน์ การขายของบนแพลตฟอร์มจะช่วยให้สามารถชี้แจงที่มาที่ไปของรายได้อย่างเป็นระบบชัดเจน ตรวจสอบได้ รวมถึงทำให้ธนาคารมองเห็นอนาคตและโอกาสที่ธุรกิจสามารถเติบโตและปรับตัวให้เข้ากับยุคดิจิทัลก็จะทำให้เครดิต score เพิ่มขึ้น

เมื่อผู้ประกอบการ SME เกิดคำถามว่า การที่ธนาคารนำ data มาใช้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจปล่อยกู้นั้น ตามปกติคนขายออนไลน์หากรับเงินสดจะไม่จ่ายภาษีได้ แต่ถ้าเอารายได้ผ่านธนาคารเมื่อไหร่ สรรพากรจะรู้ว่ามีรายรับที่แท้จริงเท่าไหร่ ต้องปรับตัวอย่างไร?  คุณพิกุล ตอบว่า “ตามปกติข้อมูลของลูกค้าไม่สามารถเปิดเผยได้เพราะถือว่าเป็นความลับ แต่อยากให้มองในมุมกลับกันว่า การเสียภาษีอย่างถูกต้องจะช่วยให้ SME สามารถรับรู้ต้นทุนกำไรที่แท้จริงของธุรกิจได้ และไม่ควรกลัวเรื่องการเสียภาษี ควรหาทางออกว่า หากจะต้องเสียภาษีทำอย่างไรให้เสียน้อยที่สุดจะดีกว่า แถมข้อดีในการรับเงินผ่านธนาคารผู้ขายยังได้ data สามารถนำมาใช้ประกอบการบริหารต้นทุนหรือเก็บสถิติยอดขายสินค้าได้ด้วย ที่สำคัญจะทำให้กู้เงินมาต่อยอดธุรกิจเพิ่มได้ง่ายกว่า เพราะธนาคารเห็น data หมดแล้ว”  สุดท้ายนี้ คุณพิกุลกล่าวปิดท้ายว่า “วันนี้ SME ต้องปรับตัว มี Passion ที่แรงกล้า ถ้าอยากอยู่รอด ก็ต้องหาช่องว่างให้เจอ หาความแตกต่าง และตัวตนของตัวเองต้องปรับเปลี่ยนให้เร็วและทำให้ตัวให้เบา” นั่นคือ เคล็ดวิชาเอาตัวรอดของ SME ยุคนี้ที่คุณพิกุลฝากไว้

ที่มา : โครงการอบรมหลักสูตรออนไลน์ The DOTS Digital Commerce X โดย คุณพิกุล ศรีมหันต์ รองผู้จัดการใหญ่อาวุโส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจเอสเอ็มอี ธนาคารไทยพาณิชย์ วันที่ 28 ตุลาคม 2564