หลายคนฝันว่าอยากจะเป็นเถ้าแก่ เป็นเจ้าของกิจการ มีธุรกิจเป็นของตัวเอง แต่ก็ติดปัญหาต่างๆ ทั้งเรื่องเงินทุน การสต๊อกสินค้า การขนส่งสินค้า รวมไปถึงไม่รู้ว่าจะเริ่มขายอะไรดี แต่ปัญหาเหล่านี้จะหมดไป ถ้าหากใช้การขายสินค้าแบบ Dropship ซึ่ง Dropship คือการขายสินค้าแนวใหม่ทางออนไลน์  ไม่ต้องมีหน้าร้าน  ไม่ต้องมีลูกจ้าง  ไม่ต้องสต๊อกสินค้า ไม่ต้องจุกจิกเรื่องการแพ็คและขนส่งสินค้า ทำให้ผู้ประกอบธุรกิจสามารถโฟกัสเฉพาะการทำการตลาดออนไลน์เพื่อการค้นหาลูกค้าที่ใช่ รวมไปถึงการเจาะลึกความต้องการลูกค้ากลุ่มเป้าหมายอย่างแท้จริง ที่สำคัญคนเพียงคนเดียวก็สามารถทำธุรกิจนี้ได้ง่ายๆ แบบไม่ต้องมีเงินทุน  แต่กลับมีรายได้เข้าบัญชีทุกดือนจากการขายแบบ Dropship แล้ว  Dropship  คืออะไร  มีรูปแบบการขายสินค้าอย่างไร  ไปทำความรู้จักกันเลย

Dropship คืออะไร

Dropship คือการขายสินค้าแบบไม่ต้องมีสินค้า คือ ไม่ต้องสต๊อกสินค้าไว้เอง โดยผู้ค้าแบบ Dropship จะเป็นเหมือนพ่อค้าคนกลางที่ไปซื้อสินค้าที่โรงงานหรือผู้ผลิตรายใหญ่ให้กับลูกค้าโดยตรง  โดยที่โรงงานหรือผู้ผลิตรายใหญ่นั้นจะเป็นคนส่งสินค้าให้ลูกค้าโดยตรงแต่ใช้ชื่อผู้ส่งในนามของผู้ค้าแบบ Dropship  ซึ่งการจะทำธุรกิจขายของแบบ Dropship ได้จะต้องไปสมัครเป็นผู้แทนขายกับเว็บไซต์ Dropship ที่มีสต๊อกสินค้าให้เลือกหรือจากโรงงานหรือผู้ผลิตโดยตรง  โดยรายได้จะมาจากส่วนต่างของการตั้งราคาขายสินค้านั่นเอง เมื่อขายสินค้าได้ก็ทำการสั่งซื้อสินค้ากับเว็บไซต์ Dropship หรือจากโรงงานหรือผู้ผลิตโดยตรง  จากนั้นทางเว็บไซต์ Dropship  โรงงานหรือผู้ผลิตสินค้าจะทำการแพ็คของและจัดส่งสินค้าให้ส่งถึงมือลูกค้าโดยตรง

เริ่มต้นทำธุรกิจ Dropship อย่างไร

1. สมัครเป็นตัวแทนจำหน่าย Dropship กับเว็บไซต์ผู้ให้บริการ Dropship สามารถหารายละเอียดได้ตามเว็บไซต์ หรือหาสินค้าจากเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ เช่น  alibaba.com, dhgate.com, lightinthebox.com
 

2. เลือกขายสินค้าที่ตัวเองสนใจเพราะจะรู้ถึงความต้องการของตลาดหรือเลือกขายสินค้าที่กำลังเป็นกระแสหรือเทรนด์ที่คนกำลังสนใจ  เช่น  มีอยู่ช่วงหนึ่งคนฮิตซื้อหม้อทอดไร้น้ำมันในช่วงเกิดโควิดใหม่ๆ  หรือขายสินค้าแบรนด์ที่คนมีความเชื่อถือในแบรนด์นั้นอยู่แล้วหรือขายสินค้าที่ราคาถูกกว่าท้องตลาดทั่วไป
 

3. เมื่อเจอสินค้าที่อยากจะขายให้ทำการดาวน์โหลดรูปภาพและรายละเอียดของสินค้า  โดยนำรูปถ่ายสินค้าจากเว็บไซต์มาใส่ไว้ในช่องทางขายสินค้าของคุณ เช่น ในเว็บไซต์ของคุณ,  Facebook แฟนเพจ , Instagram, TikTok , LINE , เว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ เช่น Lazada , Shopee เป็นต้น  โดยควรลงหลายๆ รูป หลายๆ มุม เพื่อให้ลูกค้าเห็นสินค้าได้อย่างชัดเจน พร้อมใส่รายละเอียดสินค้าให้ได้มากที่สุดเพื่อช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อสินค้าได้ทันทีและลดข้อสงสัยต่างๆ ในตัวสินค้าที่จะขาย
 

4. ควรสร้างความแปลกใหม่ในร้านออนไลน์ของคุณ  ด้วยการหาไอเทมสินค้าที่หลากหลายเข้ามาขายเพราะความหลากหลายจะทำให้ลูกค้ามีตัวเลือกและกลับเข้ามาซื้อสินค้าในร้านของคุณอย่างสม่ำเสมอ
 

5. กรณีที่สามารถขายสินค้าได้ผู้ซื้อจะโอนเงินมาที่คุณ  โดยคุณจะต้องโอนเงินไปให้โรงงานหรือผู้ผลิตสินค้าหรือเว็บไซต์ที่รับทำ Dropship เพื่อส่งของให้กับลูกค้าของคุณ  โดยคุณไม่ต้องประกันสินค้าแต่อย่างใดเพราะโรงงานหรือผู้ผลิตสินค้าหรือเว็บไซต์ Dropship จะเป็นผู้รับผิดชอบเปลี่ยนให้หากสินค้ามีตำหนิหรือเกิดชำรุด

ขายสินค้าแบบนี้เวิร์คสุดๆ ถ้าขายแบบ Dropship

ไม่ใช้สินค้าทุกชนิด ทุกประเภทที่จะเหมาะกับการขายในรูปแบบ Dropship  เพราะต้องไม่ลืมว่าการขายแบบ Dropshipจะต้องมีการขนส่งสินค้า  ถ้าเป็นสินค้าที่มีขนาดใหญ่หรือน้ำหนักมาก การส่งสินค้าแบบ Dropship อาจไม่ตอบโจทย์ให้กับผู้บริโภคสายออนไลน์ที่ต้องการความรวดเร็วและที่สำคัญค่าขนส่งสินค้าหากแพงมากก็อาจมีส่วนทำให้คนตัดสินใจซื้อสินค้าจากคุณน้อยลง  นอกจากนี้สินค้าที่ราคาแพงมากไม่เหมาะกับการขายแบบ Dropship ด้วยเช่นกันเพราะร้านออนไลน์ไม่มีสินค้าจริงให้ดูทำให้บางคนไม่กล้าซื้อสินค้าราคาแพงจากร้านออนไลน์ของคุณ  โดยประเภทสินค้าที่ควรขายแบบ Dropship  มีดังนี้
 

1. สินค้าที่ต้องซื้อซ้ำ

ลองนึกดูว่าหากร้านออนไลน์ของคุณขาย Dropship แต่สินค้าคงทนที่กว่าจะซื้อซ้ำต้องรอให้สินค้าพังหรือตกรุ่นไปก่อน การที่ลูกค้าเดิมจะกลับมาซื้อสินค้าอีกครั้งต้องใช้เวลานาน  ทำให้คุณต้องพยายามหาลูกค้าใหม่ๆ อยู่เสมอ แต่ถ้าคุณเลือกสินค้าที่ต้องซื้อซ้ำบ่อยๆ ใช้แล้วหมดไปก็เป็นอีกวิธีที่ทำให้ลูกค้าเก่ากลับมาซื้อสินค้าเดิมอยู่เสมอ เพราะการทำการตลาดกับลูกค้าเก่าต้นทุนต่ำกว่าและง่ายกว่าการออกไปหาลูกค้าใหม่ๆ  ตัวอย่างสินค้าที่ต้องซื้อซ้ำๆ  ได้แก่  เสื้อผ้าแฟชั่น, ของใช้เบ็ดเตล็ด, อุปกรณ์เครื่องเขียน  เป็นต้น

2. สินค้าเพื่องานอดิเรก

ขาย Dropship กลุ่มสินค้าที่เป็นงานอดิเรกเป็นสินค้าที่มีเม็ดเงินมูลค่ามหาศาล แถมราคาแพงแค่ไหนบางคนก็ยอมจ่าย เช่น Figure การ์ตูน , ตัวต่อเลโก้ , สินค้างานฝีมือ DIY , ของเล่นสำหรับเด็ก  เป็นต้น  ที่สำคัญสินค้าพวกนี้เป็นสินค้าที่โรงงานหรือผู้ผลิตจะมีการออกแบบผลิตภัณฑ์ใหม่และพัฒนาสินค้าอยู่ตลอด ทำให้ร้านค้าออนไลน์สามารถนำสินค้าใหม่ๆ เข้ามาขายได้เรื่อยๆ เพื่อจูงใจให้ลูกค้ากลับเข้ามาซื้อสินค้าใหม่ๆ อยู่เสมอ

3.สินค้าที่หาซื้อไม่ได้ตามร้านค้าทั่วไปหรือตามห้างสรรพสินค้า

สิ่งหนึ่งที่การขายแบบ Dropship ได้เปรียบคือการขายสินค้าที่หาซื้อตามท้องตลาดหรือในห้างสรรพสินค้าไม่ค่อยได้ทำให้ผู้ซื้อต้องหาซื้อจากร้านค้าออนไลน์  เช่น  อุปกรณ์ตกแต่งบ้านบางชนิด , อุปกรณ์ตกแต่งและของใช้ภายในรถยนต์, อุปกรณ์ไอที, อุปกรณ์เสริมโทรศัพท์มือถือ , เครื่องแต่งกายแฟนซีหรือคอสเพลย์, สินค้าแม่และเด็ก เป็นต้น 

4.สินค้าเพื่อธุรกิจ

ขาย Dropship กลุ่มสินค้าเพื่อธุรกิจประเภทอุปกรณ์สำนักงานและเครื่องใช้ต่างๆ แม้ว่าลูกค้ากลุ่มนี้จะให้ความสำคัญกับราคาเป็นพิเศษแต่ถ้าได้รับออร์เดอร์จากลูกค้ากลุ่มนี้จะได้ยอดเป็นจำนวนมากและจะเป็นลูกค้าในระยะยาว ดังนั้นการขายสินค้าเพื่อธุรกิจก็เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับการขายแบบ Dropship

ข้อดี - ข้อเสีย  ธุรกิจแบบ Dropship

ข้อดี

• ไม่ต้องลงทุน  มีสินค้าให้เลือกมากมายจากเว็บไซต์ Dropship หรือโรงงาน / ผู้ผลิตสินค้า
• ไม่ต้องมีความเชี่ยวชาญในสินค้า เพราะเว็บไซต์ Dropship มีข้อมูลและรูปภาพให้หมด
• ไม่ต้องแพ็คส่งสินค้าเอง
• ไม่ต้องมีหน้าร้าน ไม่ต้องจ้างคนแพ็คและส่งของ
• โพสต์ขายของจากที่ไหนก็ได้ทุกที่ทุกเวลา
• แค่ใช้กลยุทธ์การตลาดออนไลน์เพื่อหาลูกค้าให้มาซื้อสินค้า
• ไม่ต้องทำยอด ไม่ต้องเสียค่าสมัครสมาชิก ไม่มีค่าดำเนินการใดๆ
• สามารถทำเป็นอาชีพเสริมได้ทันที

ข้อเสีย

• ธุรกิจแบบ Dropship มีการแข่งขันค่อนข้างสูง  เพราะมีผู้ขายเป็นจำนวนมากที่ใช้กลยุทธ์กดราคาให้ถูกที่สุดเพื่อดึงดูดลูกค้าทำให้ได้กำไรต่อชิ้นน้อยมาก
• ต้องระวังเจอ Dropship ที่ไม่ได้มาตรฐานซึ่งส่วนใหญ่มาจากประเทศจีน และมาตรฐานสินค้าและการจัดส่งสินค้าจากจีนค่อนข้างต่ำ  บางทีไม่มีการตรวจเช็คสินค้าก่อนส่ง ทำให้สินค้ามีตำหนิหรือใช้งานไม่ได้ หรือส่งสินค้าช้าเกินกว่ากำหนดทำให้ลูกค้ายกเลิกการสั่งสินค้าหรือส่งคืนสินค้าส่งผลให้ร้านของคุณเสียชื่อเสียงหรือโดนลูกค้ารีวิวแย่ๆ จนเกิดความไม่น่าเชื่อถือหรือทำให้คนไม่กล้าซื้อสินค้าจากร้านออนไลน์ของคุณไปเลย
• สินค้าไม่มีความแตกต่างทำให้สร้างแบรนด์ดิ้งได้ยาก  เพราะสินค้าจาก Dropship มาจากโรงงานเดียวกัน  ผู้ขายทุกคนสามารถนำสินค้าไปโพสต์ออนไลน์ที่ไหนก็ได้    
• หากคุณคิดที่จะขยายธุรกิจให้เติบโตแบบยั่งยืนเป็นไปได้ยากเพราะยิ่งทำโรงงานหรือผู้ผลิตสินค้ายิ่งโต
• สินค้าบางชนิดไม่สามารถทำตลาดได้จริง เพราะมีต้นทุนค่อนข้างสูง
• ร้านขายของแบบ Dropship จะไม่สามารถทราบสต๊อกสินค้าที่แท้จริงได้ว่ามีสินค้าเท่าไหร่ เหลือเท่าไหร่ เพราะไม่มีข้อมูลอยู่กับตัวเองต้องคอยอัพเดทจากโรงงานผลิตหรือเว็บไซต์ Dropship
• ร้านขายของแบบ  Dropship ส่วนใหญ่ขายสินค้าจากหลายโรงงานหรือผู้ผลิต ทำให้วิธีการคิดค่าจัดส่งสินค้าไม่ครอบคลุม ยกตัวอย่างเช่น ลูกค้าคนเดียวกันสั่งซื้อสินค้ามา 4  ชิ้นแต่สินค้าทั้ง 4  ชิ้น มาจาก 4  โรงงาน  การคิดค่าจัดส่งสินค้าจึงมีความยุ่งยาก ทางแก้คือการรวมค่าส่งเข้าไว้กับราคาสินค้าหรือคิดค่าส่งในราคามาตรฐานให้ครอบคลุมการส่งสินค้าทุกขนาดและน้ำหนัก

จะเห็นได้ว่าการทำธุรกิจขายออนไลน์แบบ Dropship มีทั้งข้อดีและข้อเสีย แต่ก็เป็นการขายออนไลน์ที่ไม่ต้องลงทุนและมีความเสี่ยงทางการเงินน้อยเมื่อเทียบกับการทำธุรกิจออนไลน์ในรูปแบบอื่น เหนือสิ่งอื่นใดการทำธุรกิจแบบ Dropship  ต้องอาศัยความมุ่งมั่นทุ่มเทของเจ้าของร้านในการตามหาลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย ซึ่งแน่นอนว่ามีคู่แข่งขันมากมายที่พร้อมช่วงชิงลูกค้าไปจากเรา  ฉะนั้นความอดทนและการทำกลยุทธ์ทางการตลาดออนไลน์จึงเป็นสิ่งสำคัญและจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับคนที่อยากประกอบธุรกิจขายของออนไลน์ในรูปแบบ Dropship  ทำธุรกิจออนไลน์ให้สำเร็จต้องใช้ SCB Connect  ผู้ช่วยตัวจริงของพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์แจ้งเตือนเงินเข้าออกบัญชีตั้งแต่บาทแรก สนใจดูรายละเอียด SCB Connect

ที่มา

http://www.thebiz.in.th/index.php?lay=show&ac=article&Id=539415992

https://www.weon.website/blog/biz-101-drop-shipping/

https://www.dropshoppingthai.com/article

https://www.dropshippop.com/page