ดูแลสุขภาพใจในยามต้องกักตัว

เมื่อต้องกักตัวอยู่แต่ภายในบ้าน หลายคนที่เคยมีกิจกรรม ไปทำงาน หรือออกนอกบ้านเพื่อไปพบปะเพื่อนฝูง ก็อาจจะเกิดความเครียดได้ CDC (Centers for Disease Control and Prevention) มีข้อสังเกตเบื้องต้นดังนี้
 

  1. มีความกลัว หรือกังวลเกี่ยวกับสุขภาพของตนเอง
  2. พฤติกรรม และรูปแบบการทานอาหาร และการนอนหลับเปลี่ยนไป
  3. ไม่ค่อยมีสมาธิ และนอนหลับยากขึ้น
  4. มีปัญหาสุขภาพเรื้อรัง
  5. มีการใช้แอลกอฮอล์ สูบบุรี่ หรือยามากขึ้น


ซึ่งมีผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยา ให้คำแนะนำเพื่อให้เรามีสุขภาพจิตที่ดี แม้จะต้องกักตัวคือ

mental-health-during-covid-01

1. สร้างกิจวัตร

หลังจากตื่นนอน อาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วลองลิสต์ว่าวันนี้เราจะทำอะไรบ้าง สร้างเป้าหมายเพื่อให้ทำสำเร็จในแต่ละวัน

 

2. เปลี่ยน

ลองหากิจกรรม งานที่จะช่วยให้เราได้เปลี่ยนอิริยาบถ เปลี่ยนสถานที่ไปเรื่อยๆ ในแต่ละกิจกรรม (แต่ไม่ออกจากบ้านนะ)

3. ดูแลสุขภาพ

ทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายในบ้าน ยืดเหยียดร่างกาย และนั่งสมาธิ

4. ติดต่อสื่อสารกันเสมอ

ด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าไปอย่างมาก เราสามารถติดต่อกับญาติพี่น้อง เพื่อนฝูง หรือเพื่อนที่ทำงาน ด้วยการโทรศัพท์ วิดีโอคอล หรือนัดคุยกับเพื่อนร่วมงานผ่าน Conference Call เพื่อเป็นกำลังใจ หรือเพื่อปรึกษา คุยงานก็ได้เช่นกัน

 

5. รับรู้อย่างพอดี

มีการพูดถึงไวรัสโครานามากมายในช่องทางโซเชียลมีเดีย ซึ่งมีทั้งข้อมูลที่เชื่อถือได้ และข้อมูลเท็จ ดังนั้นเราอาจจะต้องเลือกรับฟัง และอัปเดตสถานการณ์จากแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้ เช่น กระทรวงสาธารณสุข เป็นต้น

 

6. เตรียมยาให้เพียงพอ

หากกรณีที่คุณมีโรคประจำตัว หรือมีอาการเจ็บป่วยเล็กน้อย ลองปรึกษาคุณหมอเพื่อขอยาให้มีเพียงพอต่อช่วงที่คุณต้องกักตัวอยู่บ้าน

 

7. กำจัดความเบื่อ

ช่วงนี้เราอาจจะหาซีรี่ย์ที่ชื่นชอบ หนังสือเล่มที่อยากอ่าน หรือกิจกรรมที่คุณอยากทำมานานแต่ไม่มีโอกาสได้ทำสักที นี่อาจจะเป็นช่วงเวลาที่คุณได้ทำในสิ่งที่ต้องการเลย

8. ระวังจะหมดไฟ

หากคุณมีงานที่อยากจะทำ หรือต้องทำ ก็ให้อยู่ในปริมาณที่พอเหมาะกับแต่ละวัน เพื่อไม่ให้เราเหนื่อยล้าจนหมดไฟ 

 

9. มองบวก

รับฟังข่าวดี หรือเรื่องราวที่ช่วยให้เบิกบาน ให้กำลังใจกับบุคลาการทางการแพทย์ที่ทำงานอย่างหนักในภาวะเช่นนี้

 

10. ใช้เวลาในแต่ละให้ดีที่สุด

อย่าเพิ่งคิดวิตกไปไกล พึงตระหนักเสมอ ว่านี่เป็นแค่มาตรการชั่วคราวเท่านั้น เดี๋ยวมันก็จะผ่านไป

อ่านจบแล้ว ลองกดโทรศัพท์หาเพื่อน ครอบครัว หรือคนที่คุณรัก ลองหากิจกรรมที่คุณอยากทำมานานแล้ว แต่ไม่มีโอกาสได้ทำเสียที หรือลองนึกดูว่า ในสถานการณ์นี้เราสามารถทำอะไรเพื่อช่วยเหลือผู้อื่นได้บ้าง เพราะทั้งหมดนี้ อาจจะเป็นยาชั้นดีสำหรับสุขภาพใจ


ข้อมูลจาก CNBC.com