ผลการค้นหา "{{keyword}}" ไม่ปรากฎแต่อย่างใด
การใช้และการจัดการคุกกี้
ธนาคารมีการใช้เทคโนโลยี เช่น คุกกี้ (cookies) และเทคโนโลยีที่คล้ายคลึงกันบนเว็บไซต์ของธนาคาร เพื่อสร้างประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของท่านให้ดียิ่งขึ้น โปรดอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมที่ นโยบายการใช้คุกกี้ของธนาคาร
การใช้และการจัดการคุกกี้
ธนาคารมีการใช้เทคโนโลยี เช่น คุกกี้ (cookies) และเทคโนโลยีที่คล้ายคลึงกันบนเว็บไซต์ของธนาคาร เพื่อสร้างประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของท่านให้ดียิ่งขึ้น โปรดอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมที่ นโยบายการใช้คุกกี้ของธนาคาร
สุพรรณสัญจร: มหัศจรรย์สุพรรณบุรี
สุพรรณบุรีเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับการพักผ่อนหย่อนใจที่ไม่ธรรมดาทีเดียว ด้วยมีสถานที่ท่องเที่ยวทั้งเก่าและใหม่หลากหลาย มีกิจกรรมมากมายให้ได้สนุกกันเต็มอิ่ม ทั้งพื้นที่ประวัติศาสตร์ พื้นที่สีเขียว พื้นที่ชุมชน วัดวาอาราม ร้านอาหารอร่อย ที่สำคัญเดินทางสะดวกสบายเหมือนความสุขรออยู่แค่เอื้อม เพราะสุพรรณฯ อยู่ใกล้เมืองกรุงแค่นี้เอง
วัดป่าเลไลยก์วรวิหาร
วัดป่าเลไลยก์วรวิหารเป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองสุพรรณบุรี มีอายุเก่าแก่กว่า 1,200 ปี ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันตกของลำน้ำสุพรรณ ห่างจากศาลากลางจังหวัดประมาณ 4 กิโลเมตร ในทุกๆ วันจะมีผู้ศรัทธาทั่วประเทศเดินทางมาสักการะหลวงพ่อโต หรือพระพุทธรูปปางป่าเลไลยก์ขนาดใหญ่ ศิลปะสมัยอู่ทอง สุพรรณภูมิ (ประทับนั่งห้อยพระบาท) กันไม่ขาดสาย และทุกๆ ปีทางวัดจะจัดงานเทศกาลสมโภชหลวงพ่อโต 2 ครั้ง คือในวันขึ้น 5-9 ค่ำ เดือน 5 และเดือน 12
นอกจากนี้ วัดแห่งนี้ยังมีความเกี่ยวข้องกับวรรณคดีไทยอันลือชื่อเรื่องขุนช้างขุนแผนอีกด้วย โดยในเรื่องเล่าว่าเมื่อตอนเด็กขุนแผนเคยมาบวชเณรที่วัดนี้ รอบวิหารจึงมีภาพเขียนเรื่องราวขุนช้างขุนแผนตั้งแต่ตอนแรกจนถึงตอนสุดท้าย และยังสร้างอนุสาวรีย์ของขุนแผน นางพิมพิลาไลย ขุนช้าง เรือนของขุนช้างซึ่งเป็นเรือนไทยไม้สักหลังใหญ่ที่ถูกสร้างตามแบบเรือนขุนช้างในวรรณคดี แต่ละห้องของเรือนจะจัดแสดงข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ในสมัยก่อนให้ชมกัน และภายในวัดยังมีตลาดย่อมๆ ขายสินค้าพื้นเมืองของดีเมืองสุพรรณ ทั้งของใช้ และอาหารอย่างปลาแม่น้ำ ปลาแดดเดียว พืชผักผลไม้ น้ำพริก รวมถึงของที่ระลึกต่างๆ อีกด้วย
ที่ตั้ง ตำบลรั้วใหญ่ อำเภอเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี
ตลาดสามชุก
ตลาดสามชุกถือเป็นไฮไลท์ของเมืองสุพรรณสำหรับนักช้อปนักกินทั้งหลาย ตลาดนี้เป็นตลาดเก่าแก่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำท่าจีน มีประวัติศาสตร์ยาวนานถึงร้อยปี ในอดีตเคยเป็นย่านการค้าทางน้ำที่สำคัญ และเป็นแหล่งชุมชนของชาวไทยเชื้อสายจีนมาก่อน ต่อมาการค้าทางบกได้เจริญรุดหน้า ทำให้ตลาดสามชุกเริ่มเงียบเหงา ผู้คนจึงออกไปหางานทำยังถิ่นอื่น จนกระทั่งเมื่อปี พ.ศ.2543 ได้มีการอนุรักษ์ฟื้นฟูตลาดสามชุกให้กลับมาคึกคัก ปลุกวิถีชีวิตแบบดั้งเดิมขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง กลายเป็นที่มาของแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ และเป็นต้นแบบให้กับตลาดเก่าแก่อีกหลายตลาด และเคยได้รับรางวัลมรดกโลก ประเภทอนุรักษ์มรดกวัฒนธรรมแห่งเอเชียแปซิฟิก จากองค์กรยูเนสโกมาแล้วด้วย
ตลอดสองข้างทางของตลาดจะเป็นเรือนไม้แบบโบราณที่ดัดแปลงเป็นร้านค้าขายอาหาร ของใช้ ของที่ระลึก ของโบราณหายาก ของฝากมากมาย ตลาดสามชุกเปิดทุกวัน ตั้งแต่ 07.00-18.00 น.วันธรรมดาคนจะน้อยหน่อยเดินเที่ยวได้สะดวกสบายกว่าวันหยุด บรรดาร้านค้าที่ไม่ควรพลาดคือ ร้านถ่ายรูปโบราณ ร้านขายยาสมุนไพร ร้านกาแฟท่าเรือส่ง เป็ดย่างจ่าเฉิด ข้าวห่อใบบัวหรั่งศรีโรจน์ บะหมี่เจ็กอ้าว หมูแดดเดียวเจ๊จุก เชียงปลากราย น้ำพริกแม่กิมลั้ง ขนมโบราณบ้านแม่หน่อย ขนมสาลี่แม่กิมเลี้ยง ที่สำคัญอย่าลืมชม พิพิธภัณฑ์บ้านขุนจำนงค์ จีนารักษ์ บ้านของอดีตเจ้าของตลาด เป็นอาคารไม้สามชั้นอายุกว่า 90 ปี ที่เก็บเรื่องราวในอดีตของสามชุกไว้ให้คนรุ่นหลังได้รู้จักดินแดนแห่งนี้ได้ดียิ่งขึ้น
ที่ตั้ง อำเภอสามชุก จังหวัดสุพรรณบุรี
บึงฉวากเฉลิมพระเกียรติ
บึงฉวากเฉลิมพระเกียรติ บึงน้ำธรรมชาติขนาดใหญ่กว่า 2,700 ไร่ มีความลึกโดยเฉลี่ยประมาณ 1-3 เมตร โดยได้รับประกาศให้เป็นเขตห้ามล่าสัตว์ และได้รับการจัดให้เป็นพื้นที่ชุ่มน้ำที่มีความสำคัญระดับชาติ เนื่องจากมีความหลากหลายของพันธุ์พืชและสัตว์ที่อาศัยอยู่ในบึงแห่งนี้ จนต่อมาได้รับการพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวหลายรูปแบบของจังหวัดสุพรรณบุรี สามารถมาเที่ยวกันได้ทั้งครอบครัว บริเวณบึงฉวากจะมีทั้ง สวนสัตว์บก สถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำ บึงจระเข้น้ำจืด อุทยานผักพื้นบ้าน มีผักพื้นบ้านกว่า 500 ชนิด กรงนกใหญ่ที่มีสภาพแวดล้อมคล้ายธรรมชาติเพื่อเลี้ยงนกหายากกว่า 30 ชนิด และอื่นๆ อีกหลายอย่าง
จุดที่เป็นแม่เหล็กดึงดูดความสนใจจากนักท่องเที่ยวทุกเพศทุกวัยได้ดีคือ อาคารจัดแสดงพันธุ์สัตว์น้ำ แบ่งเป็น 3 อาคาร อาคารแรกมีทั้งพันธุ์สัตว์น้ำจืดน้ำเค็ม ปลาไทยและปลาเทศ อาคารที่ 2 มีอุโมงค์ปลา ซึ่งเป็นอุโมงค์ปลาน้ำจืดแห่งแรกของประเทศไทย และมีตู้ปลาอีก 40 ตู้อยู่รอบๆ อุโมงค์ด้วย จัดแสดงปลาหลากชนิด ปลาสวยงาม ปลาหายาก อาคารสุดท้ายเป็นโลกใต้ทะเลจัดแสดงปลาทะเลหลายสายพันธุ์ นอกจากนั้นยังมีอุโมงค์ปลาฉลาม ที่มีปลาฉลามเสือทราย ปลาฉลามครีบดำ ฯลฯ โดยทุกวันเสาร์ อาทิตย์ วันหยุดนักขัตฤกษ์จะมีการแสดงให้อาหารปลาฉลามเป็นที่ชอบของเด็กๆ บริเวณบึงฉวากยังจัดเป็นสวนสาธารณะมีศาลาให้นั่งพักผ่อนหย่อนใจชมทิวทัศน์ที่สวยงามโดยรอบ ในบึงฉวากก็เต็มไปด้วยดอกบัวสวยงามที่เบ่งบานยามเช้ารับอรุณ มีนกเป็ดแดงฝูงใหญ่จับกลุ่มอยู่ตามกอบัว มีกิจกรรมทางน้ำให้ร่วมสนุก เช่น จักรยานน้ำ เป็นต้น มีที่พักค้างที่แสนสะดวกสบาย มีร้านอาหารร้านขายของผลิตภัณฑ์พื้นบ้านไว้เอาใจขาช้อปขาชิมขาชิลล์อีกด้วย
ที่ตั้ง ตำบลปากน้ำ อำเภอเดิมบางนางบวช จังหวัดสุพรรณบุรี
ตลาดเก้าห้อง 100 ปี
ถ้าหากอยากย้อนเวลาไปหาอดีตแบบของแท้ดั้งเดิมจริงๆ ควรแวะไปเที่ยวที่ตลาดเก้าห้อง 100 ปี ตลาดเก่าแก่อีกแห่งที่น่าสนใจของจังหวัดสุพรรณบุรี ตลาดเก้าห้องเป็นตลาดที่อยู่ริมฝั่งแม่น้ำท่าจีน สร้างขึ้นตั้งแต่รัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ นับเป็นตลาดค้าขายมาตั้งแต่โบร่ำโบราณของชาวไทย-จีนอีกแห่ง ที่เคยคึกคักพลุกพล่านจอแจไปด้วยผู้คน เมื่อการสัญจรทางน้ำถูกลดบทบาทลง ตลาดจึงถูกยกขึ้นมาอยู่บนบกแทน
ปัจจุบันตลาดเก้าห้องถูกพลิกฟื้นให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวอีกแห่ง โดยยังคงรักษาสภาพเดิมไว้ได้เป็นอย่างดี รูปลักษณ์ต่างๆ ยังเหมือนเมื่อร้อยปีก่อน ตลาดแห่งนี้จึงเต็มไปด้วยเสน่ห์และความคลาสิค โดยมีลักษณะเป็นเรือนไม้สองชั้นใช้เป็นทั้งที่อยู่อาศัย และค้าขายของคนในชุมชนนี้ซึ่งมีทั้งคนไทยและจีนอาศัยอยู่รวมกัน โดยแบ่งเป็น 3 ตลาด ตลาดบน ตลาดกลาง ตลาดล่าง ร้านค้าที่เปิดขายก็มีมานมนานตั้งแต่สมัยปู่ย่าตาทวดแล้ว ขายของหลากหลาย ทั้งข้าวของเครื่องใช้เก่าและใหม่ ของที่ระลึก ขนม อาหารไทยโบราณ อาหารสด อาหารแห้ง ฯลฯ
สิ่งก่อสร้างที่น่าสนใจของที่นี่มีอีกสองอย่างคือ หอดูโจรสูงขนาดตึก 4 ชั้น สมัยก่อนมีหน้าที่เหมือนชื่อคือเอาไว้คอยดูลาดเลาโจรเพราะแต่ก่อนเมืองสุพรรณฯ ขึ้นชื่อว่าโจรชุกชุม แต่ปัจจุบันโจรได้หายไปหมดแล้ว แต่หอดูโจรก็ยังถูกเก็บรักษาไว้เหมือนเดิม นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นไปชมวิวตลาดจากด้านบนได้ อีกที่คือ บ้านเก้าห้องอันเป็นที่มาของชื่อตลาดนี้ บ้านหลังนี้เป็นของขุนกำแหงฤทธิ์ซึ่งเคยเป็นเจ้าของตลาดมาก่อน บ้านยังคงลักษณะเดิมเป็นเรือนไทยไม้สักหลังคาทรงจั่วปั้นหยา ใต้ถุนสูง ความยาวของบ้านขนานกับแม่น้ำท่าจีน มีเสา 10 แถว จึงมี 9 ช่องเสาจึงเรียกว่า บ้านเก้าห้อง นั่นเอง หากอยากได้ข้อมูลเพิ่มเติมแวะไปชมพิพิธภัณฑ์ตลาดเก้าห้องแหล่งข้อมูลทางประวัติศาสตร์ของที่นี่ต่อได้
ที่ตั้ง ตำบลโคกคราม อำเภอบางปลาม้า จังหวัดสุพรรณบุรี
อุทยานแห่งชาติพุเตย
อุทยานแห่งชาติพุเตย เป็นสวรรค์ของคนรักธรรมชาติ ดินแดนแห่งขุนเขาและป่าหนึ่งเดียวที่สมบูรณ์ที่สุดของเมืองสุพรรณบุรี และเป็นชายป่าผืนสุดท้ายของป่าห้วยขาแข้งด้วย ที่นี่จะเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่นักผจญภัยชื่นชอบกันมาก เพราะจะได้เดินเท้าพิชิตยอดเขาเทวดา ส่วนที่สูงที่สุดของอุทยานฯ ซึ่งเป็นแหล่งต้นน้ำลำธารหลายสาย ระหว่างทางก็จะมีต้นไม้ใบหญ้าให้เดินชมกันไปเพลินๆ อีกทั้งด้านบนยังมีพระพุทธรูปและพระธาตุให้กราบนมัสการด้วย สำหรับคนรักธรรมชาติสายชิลล์ประเภทชอบเดินชมนกชมไม้ไม่ชอบป่ายปีนมากมาย อุทยานแห่งนี้ก็มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าไปยลเหมือนกันด้วยธรรมชาติที่ยังสภาพสมบูรณ์มาก เลยมีอะไรให้ชมเยอะ อย่างป่าสนสองใบที่ไม่ใช่มีแค่ 5 ต้น 10 ต้นแต่มีอยู่กว่า 1,300 ต้น ให้ได้ชมกันอย่างจุใจ น้ำตกก็มีให้เล่น หรือจะเที่ยวชมหมู่บ้านกะเหรี่ยงตะเพินคี่ก็เป็นอีกหนึ่งมุมที่น่าสนใจ
ในฤดูหนาวที่นี่มีอุณหภูมิลดต่ำถึง 5-6 องศาเซลเซียส ส่วนฤดูฝนธรรมชาติก็จะสมบูรณ์งดงามไปอีกแบบ หากใครติดใจบรรยากาศที่นี่ยังมีบ้านพักและจุดกางเต้นท์ไว้ให้หย่อนใจ แบบกลางคืนนอนนับดาวที่มีอยู่เต็มท้องฟ้า ตอนเช้าดูพระอาทิตย์ขึ้นกับทะเลหมอกที่ลอยละล่องไปทั่วทั้งขุนเขาที่กว้างไกลสุดลูกหูลูกตา ชีวิตนี้ดีดี๊จริงๆ เมื่อมาเยือนอุทยานแห่งชาติพุเตย
ที่ตั้ง อำเภอด่านช้าง จังหวัดสุพรรณบุรี
อุทยานมังกรสวรรค์
ภายในอุทยานมังกรสวรรค์ อลังการมากประกอบไปด้วย ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสุพรรณบุรี พิพิธภัณฑ์ลูกหลานพันธุ์มังกร ซึ่งสร้างขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทยกับจีนครบ 20 ปี โดยนำเสนอเรื่องราวประวัติศาสตร์ของอารยธรรมจีนที่มีมาอย่างยาวนานถึง 5,000 ปี อาคารพิพิธภัณฑ์ก่อสร้างเป็นรูปมังกรขนาดใหญ่ ภายในจะแบ่งเป็น 18 ห้อง เล่าเรื่องประวัติศาสตร์จีนด้วยภาพ แสง สี เสียง และเทคนิคพิเศษ น่าชมเป็นอย่างยิ่ง
อีกทั้งโดยรอบยังมีสิ่งก่อสร้างที่เป็นสถาปัตยกรรมจีนอีกหลายอย่าง เช่น หมู่บ้านมังกรสวรรค์เป็นการจำลองรูปแบบของหมู่บ้านในเมืองลีเจียง ซึ่งเป็นหมู่บ้านเก่าแก่ที่สวยงามมีอายุนับพันปีจนได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเมืองมรดกโลกไว้ด้วย จุดชมวิวเจดีย์เจ็ดชั้นกลางน้ำ ศาลาเทียนอันเหมิน อุทยานพุทธบูชา อุทยาน 5 ชั้นอันเป็นที่ประดิษฐานองค์พระยูไล ปางประทับนั่งบนปัทมาสน์ มือถือเจดีย์ บุ๋งเซียง รายล้อมด้วยพระอรหันต์ 18 องค์ เป็นที่นับถือของชาวไทยเชื้อสายจีนไม่น้อย นอกจากนั้นยังมี ห้องฉายภาพยนตร์ ห้องจำหน่ายหนังสือ ห้องจำหน่ายของที่ระลึก และห้องเครื่องเล่นสำหรับเด็ก ส่วนบริเวณโดยรอบพิพิธภัณฑ์ฯ ถูกจัดตกแต่งไว้อย่างสวยงาม มีรูปปั้นต่างๆ ระฆังยักษ์ และน้ำตกขนาดใหญ่ให้ผู้ที่มาเที่ยวชมได้เพลิดเพลินเจริญใจ
ที่ตั้ง ตำบลรั้วใหญ่ อำเภอเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี
อ่างเก็บน้ำหุบเขาวง
ความสวยงามของอ่างเก็บน้ำหุบเขาวงได้รับการขนานนามว่า ปางอุ๋งสุพรรณ อ่างเก็บน้ำเขาวงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์ เกิดจากความร่วมมือของชาวชุมชนบ้านพุน้ำร้อนที่ช่วยกันดูแลรักษาป่าไว้ได้อย่างดีมากจนได้รับรางวัลชนะเลิศระดับประเทศมาแล้ว ฉะนั้น เมื่อเราเข้าไปเที่ยว ก็ต้องมีความรับผิดชอบต่อธรรมชาติด้วย ไม่ก่อความรบกวน ส่งเสียงดัง หรือทำความเสียหายแก่ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมเพื่อให้ธรรมชาติแห่งนี้อยู่กับเราไปนานๆ
อ่างเก็บน้ำหุบเขาวงสภาพโดยทั่วไปเป็นอ่างเก็บน้ำขนาดไม่ใหญ่นัก มีภูเขาล้อมรอบ และมีพื้นที่เกษตรของชุมชนรวมอยู่ด้วย สภาพอากาศตอนเช้าตรู่ และตอนกลางคืนจะเย็นสบายเกือบทุกฤดูกาล ช่วงที่สวยงามที่สุดคือฤดูฝนกับฤดูหนาว ในพื้นที่อ่างเก็บน้ำหุบเขาวงจะมีป่าเขา ผืนน้ำ ท้องฟ้าคอยต้อนรับเราทุกคนอยู่เสมอ บรรยากาศดีมากเหมาะแก่การกางเต้นท์ แค้มปิ้ง หรือจะนอนบนแพที่ลอยอยู่กลางน้ำก็ดีงามไปหมด นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสความเป็นธรรมชาติของแท้ดั้งเดิม เนื่องจากอ่างเก็บน้ำหุบเขาวงไม่มีไฟฟ้าใช้ มีเพียงตะเกียงน้ำมันก๊าด และไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ สำหรับอาหารจะมีซุ้มขายอาหารตามสั่งเล็กๆ ของชุมชน ควรเตรียมอาหารไปเองจะดีเหมือนกัน แม้ไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกแต่ความสุขที่ได้รับจากที่นี่หาได้ลดน้อยลงเลย กลับมากขึ้นกว่าอยู่ในเมืองเสียด้วยซ้ำ ถ้าอยากไปเที่ยวที่นี่ต้องอดใจรอนิดนึง เพราะกำหนดการเปิดอ่างเก็บน้ำคือ วันที่ 12 สิงหาคมถึง 31 มีนาคมของทุกปี ส่วนช่วงเดือนที่่ปิดก็เพื่อพักฟื้นระบบนิเวศของป่าชุมชนบ้านพุน้ำร้อนให้ธรรมชาติคงความสวยงามอยู่ตลอดไป
ที่ตั้ง อำเภอด่านช้าง จังหวัดสุพรรณบุรี
เขื่อนกระเสียว
เขื่อนกระเสียวเป็นเขื่อนดินกักเก็บน้ำ สร้างขึ้นเพื่อกั้นลำห้วยกระเสียวซึ่งเป็นสาขาใหญ่ของแม่น้ำท่าจีน นับเป็นเขื่อนดินที่มีความยาวมากที่สุดในประเทศไทย เต็มไปด้วยธรรมชาติที่สมบูรณ์ และเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ปลาขนาดใหญ่ ที่มีปลานานาชนิดอยู่ในเขื่อน รวมถึงเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีทิวทัศน์ที่สวยงามอีกด้วย คนที่ไปกันมาแล้ว มักจะพูดว่า ถ้าอยากชมพระอาทิตย์ตกดินแบบประทับใจไม่รู้ลืมในเมืองสุพรรณบุรี ต้องมาที่เขื่อนกระเสียว เราจะได้เห็นพระอาทิตย์ดวงกลมโตสีแดงค่อยๆ ลาลับท้องฟ้า
หรือจะชมวิถีชีวิตผู้คนท้องถิ่นก็ได้ประสบการณ์ในการเดินทางไปอีกแบบ โดยเฉพาะช่วงเช้าๆ ชาวประมงจะออกมายกยอหาปลากันเป็นภาพที่น่าบันทึกเก็บเอาไว้เป็นอย่างยิ่ง ส่วนบริเวณท้ายเขื่อนจะเป็นหาดน้ำจืดสามารถลงเล่นน้ำคลายร้อนได้ หากมาเที่ยวช่วงปลายฝนก็จะมีพืชพันธุ์จากป่ามาขายจำนวนมาก มีทั้งเห็ดโคน หน่อไม้ ผักหวาน น้ำผึ้ง ฯลฯ รวมถึงมีร้านขายอาหารให้เราได้ปูเสื่อปิกนิคกันสบายอารมณ์ บริเวณริมเขื่อนในหน้าหนาวเหมาะแก่การกางเต้นท์พักค้างสักคืนสองคืนเพื่อจะได้ชาร์จแบตอย่างเต็มที่ก่อนกลับไปลุยงานกันต่อ
ที่ตั้ง ตำบลห้วยขมิ้น อำเภอด่านช้าง จังหวัดสุพรรณบุรี
หมู่บ้านอนุรักษ์ควายไทย (บ้านควาย)
วันเวลาได้เปลี่ยนแปลงอะไรหลายอย่างบนโลกนี้ไปแล้ว รูปแบบการใช้ชีวิตแบบเดิมๆ มีหลงเหลือให้เห็นอยู่น้อยเต็มที หมู่บ้านอนุรักษ์ควายไทยในเนื้อที่ 70 ไร่คือสถานที่ที่รวบรวมเรื่องราววิถีชีวิตคนไทยในชนบทภาคกลางไม่ให้เลือนหายไปตามกาลเวลา โดยแบ่งพื้นที่เป็นส่วนต่างๆ เช่นหมู่บ้านชาวนา ลานนวดข้าว คอกควาย โครงการเกษตรทฤษฎีใหม่ โดยได้จำลองแบบบ้านทรงไทยโบราณที่หาชมยากในปัจจุบันมาไว้ที่นี่ ซึ่งเกิดจากภูมิปัญญาของบรรพบุรุษไทย อย่างเช่น บ้านเรือนไม้แบบเรือนปลายนา เรือนศรีประจันต์ เป็นต้น
ภายในเรือนแต่ละหลังยังจัดกิจกรรมแตกต่างกันไป เรือนโหราศาสตร์ เรือนแพทย์แผนไทย นวดไทย และในหมู่บ้านจะมีการสาธิตการทำนาแบบโบราณที่ยังใช้ควายเป็นแรงงานในการทำการเกษตร และการแสดงความสามารถของควาย ในวันหยุดจะมีการแสดงเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งอย่างคือ การแสดงเพลงอีแซวอันเป็นเพลงพื้นบ้านของจังหวัดสุพรรณบุรีที่นับวันก็ยิ่งจะหาดูยากแล้ว นอกจากนั้น หมู่บ้านอนุรักษ์ควายไทยยังมีโปรแกรมอื่นๆ ให้นักเรียนนักศึกษาได้ร่วมกิจกรรมเพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับวิถีชีวิตชาวนาไทยด้วย สนุกกับกิจกรรมทำนาแบบโบราณ ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ดีที่จะปลูกฝังให้ลูกหลานเรารู้จักความเป็นไทยมากยิ่งขึ้น
ที่ตั้ง อำเภอศรีประจันต์ จังหวัดสุพรรณบุรี
สวนสวรรค์สุพรรณบุรี (ศูนย์พันธุ์พืชเพาะเลี้ยง)
คำว่าสวนสวรรค์สุพรรณบุรีนั้นคือสมญาที่นักท่องเที่ยวตั้งให้เนื่องจากความสวยงามตระการตาของสถานที่แห่งนี้นั่นเอง ซึ่งอันที่จริงแล้วที่นี่เป็นศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพการเกษตร หรือศูนย์พันธุ์พืชเพาะเลี้ยง ทำหน้าที่เป็นสถานที่วิจัยเพาะเลี้ยงพันธุ์พืชเพื่อส่งเสริมการเพาะปลูกให้แก่เกษตรกร ภายหลังได้เปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวควบรวมไปด้วย ซึ่งชมรมคนรักดอกไม้ต้องร้องว้าวแน่ เพราะที่นี่เป็นสวนไม้ดอกไม้ประดับที่ใหญ่ที่สุดในภาคกลางตะวันตก บนเนื้อที่หลายร้อยไร่ ประกอบไปด้วยพืชพันธุ์มากมายหลายชนิดทั้งไม้ใบ ไม้ผล รวมถึงไม้ดอกสีสันสวยสดงดงาม
ในช่วงดอกไม้แต่ละชนิดเบ่งบานทางสวนก็จะจัดงานเทศกาลต่างๆ ตลอดทั้งปีให้ชมและถ่ายรูปกันรัวๆ แบบไม่รู้เบื่อ อาทิ เทศกาลดอกไม้เมืองหนาว ทุ่งดอกทานตะวัน ดอกดาวกระจาย สวนดอกทิวลิปบานรับปีใหม่ สวนดอกกุหลาบกุมภาสัญญารัก ทุ่งดอกกระเจียวสื่อรักวันแม่ นอกจากเทศกาลดอกไม้แล้วในศูนย์ฯ ยังมีดอกไม้อื่นๆ ที่ปลูกไว้ตลอดทั้งปีด้วย เช่น ดอกแกลดิโอลัสหรือดอกซ่อนกลิ่นฝรั่ง ปลูกประดับไว้ด้านหน้าสวนเต็มไปหมด มีสระบัวขนาดใหญ่อีก 2 สระ แยกเป็นบัวฝรั่ง และบัวไทย มีโรงเรือนจัดแสดงพันธุ์กล้วยไม้ ไม้เมืองหนาว ไม้ใบสวยงามหน้าวัว นอกจากนี้ยังสามารถซื้อพันธุ์ไม้นานาชนิดคุณภาพดีราคาประหยัดติดไม้ติดมือกลับบ้านได้ด้วย แต่ละเดือนจะมีปฏิทินท่องเที่ยวของศูนย์แจ้งว่าจะจัดงานเทศกาลดอกไม้อะไรให้ติดตามกันได้ เปิดให้เข้าชมฟรีทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.30-16.30 น.เป็นต้นไป
ที่ตั้ง อำเภออู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี
อาหารไทยพื้นถิ่นเมืองสุพรรณ