ปรับเปลี่ยนไลฟสไตล์ สู้ภัยโควิด-19

การกลับมาระบาดอีกครั้งเป็นระลอกที่ 3 ของโควิด-19 และระลอกนี้น่ากลัวและใกล้ตัวกว่าเดิม  ท่ามกลางสถานการณ์ที่ยังไม่น่าไว้ใจ นโยบายที่เข้มงวดบางส่วนต้องนำกลับมาใช้อีกครั้ง สร้างความบาดเจ็บซ้ำแล้วซ้ำอีกให้กับเศรษฐกิจไทย โดยเฉพาะผู้ประกอบการรายเล็กอย่าง SME เราจะอยู่และจะสู้อย่างไรให้ชีวิตยังมีความสุขและปลอดภัยจากโควิด วันนี้มีแนวคิดในการปรับตัว ปรับใจมาฝากกัน

ถึงจะเป็นไวรัสเหมือนกัน แต่โควิดไม่เหมือน HIV เพราะเอดส์อัตราการแพร่ระบาดต่ำ แต่โควิด-19 อัตราการแพร่ระบาดสูงมาก โควิด-19 ถือเป็นโรคอุบัติใหม่ โควิด 19 เป็นเพียงตัวแรกๆ ที่มาท้าทายมนุษย์เท่านั้น! โรคระบาดใหม่ๆ จะทยอยเกิดขึ้นเรื่อยๆ  โดยโรคอุบัติใหม่มาจาก 3 สาเหตุ สาเหตุหนึ่งก็คือพลเมืองโลกในปัจจุบันมีมากเกินไป เบียดเบียนสัตว์โลกชนิดอื่นให้ล้มหายตายจากไปด้วยการทำลายป่า  สัตว์ไม่มีที่อยู่และต้องตายในที่สุด แบคทีเรีย ไวรัสต่างๆที่เคยอยู่ที่สัตว์ก็ย้ายมาอยู่ที่ร่างกายมนุษย์ เพราะมนุษย์ขยายจำนวนเยอะมาก โรคอุบัติใหม่จากสัตว์จะทยอยมาสู่คนมากขึ้นเรื่อยๆ

คุณอาจไม่รู้ว่าโรคหวัดนั้นมาจากม้า ไข้หวัดใหญ่มาจากเป็ด ไอกรนมาจากหมู วัณโรคมาจากวัว ซาร์สมาจากนก อีโบลามาจากลิง และโควิดน่าจะมาจากค้างคาว ซึ่งเป็นเพียงระยะแรกของโรคอุบัติใหม่ที่กำลังจะเกิดขึ้นอีก ซึ่งมนุษย์ต้องเตรียมร่างการและจิตใจเพื่อต่อสู้กับโรคร้ายชนิดใหม่ๆ ที่จะเกิดขึ้นอีก

สาเหตุที่ 2 เป็นเพราะอุณหภูมิของโลกเพิ่มสูงขึ้น โรคร้อนขึ้น ในอุณหภูมิที่เย็นเชื้อโรคจะนิ่ง แต่เมื่ออุณหภูมิอุ่นขึ้นเชื้อโรคจะเริ่มออกมาหาร่างกายเพื่อสิงสู่ จึงเป็นสาเหตุที่ 2 ของการระบาด ส่วนสาเหตุที่ 3 คือลักษณะการอยู่อาศัยของคนเมืองที่อยู่กันอย่างหนาแน่นซึ่งเป็นสภาพที่เอื้อต่อการระบาดของโลกได้เป็นอย่างดี แล้วเราจะทำอย่างไร ปรับวิถีชีวิตอย่างไร เพื่อสู้กับโรคระบาดใหม่ๆ ที่กำลังทยอยบุกทำลายชีวิตมนุษย์กัน สิ่งที่ต้องทำคือสร้างภูมิคุ้มกันให้ตัวเองทั้งร่างกายและจิตใจ

communicate-covid-crisis-to-gen-alpha-01

ข้อแรก ทานอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระให้มากๆ คือพืชผักผลไม้เป็นหลัก ทานเนื้อสัตว์ให้น้อย

ข้อสอง ดื่มน้ำที่สะอาด เพราะน้ำที่ไม่สะอาดเป็นแหล่งที่มาของโรค

ข้อสาม รับแสงแดดให้เพียงพอ เพราะแสงแดดสร้างวิตามินดีซึ่งเป็นตัวต้านทานโรค มีหลักฐานที่ชัดเจนว่าวิตามินดีช่วยลดการติดเชื้อทางลมหายใจได้ คนที่มีระดับวิตามินดีต่ำจะติดเชื้อมาก โควิด 19 ก็เหมือนกัน มีรายงานใหม่ๆ ที่ค้นพบว่าในบรรดาผู้เสียชีวิตเมื่อเทียบระดับวิตามินดีแล้ว คนที่มีระดับวิตามินดีในร่างกายต่ำจะตายมากกว่า

ข้อสี่่ การออกกำลังกาย สม่ำเสมอและพอเพียงจะช่วยสร้างภูมิคุ้มกันได้

ข้อห้า การนอนหลับ ก็เป็นการสร้างภูมิคุ้มกันที่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ยืนยันชัดเจน

ข้อหก ลดความเครียด เพราะความเครียดเป็นตัวทำลายภูมิคุ้มกัน

ชีวิตที่ดีจริงๆแล้วไม่ได้ต้องการอะไรมากมาย หนึ่งต้องมีสติและความรู้เป็นปัจจัยหลักเป็นความมั่นคงของชีวิต เพราะร่างกายไม่มั่นคงเท่าสติ ร่างกายเจ็บป่วยได้ แต่ถ้ายังมีสติที่ดีอยู่ชีวิตยังมั่นคง สิ่งที่สองที่สำคัญคืออากาศซึ่งเป็นของฟรี แต่ปัจจุบันหาอากาศที่บริสุทธิ์ได้ยากเต็มทีในเมืองใหญ่ๆ ลำดับที่สามคือน้ำซึ่งโชคดีที่บ้านเรามีฝนตกมากเราจึงไม่ขาดแคลนน้ำ สี่คืออาหารประเทศไทยเรายังโชคดีที่มีพื้นที่เพาะปลูกพืชได้ดีตลอดปี เป็นประเทศเกษตรกรรม ห้าคือที่อยู่อาศัย จะเห็นว่าชีวิตจริงๆ แล้วไม่ได้ต้องการอะไรมากมาย เพียงแค่มีปัจจัยพื้นฐานเราก็มีชีวิตอยู่ได้แล้ว แต่ปัจจุบันคนกับให้ความสำคัญกับวัตถุที่มากเกินความต้องการของชีวิต

รู้หรือไม่ว่าคนไทยจำนวนมากยังไม่มีที่อยู่อาศัยเป็นของตัวเอง ไม่มีที่ดินให้เพาะปลูกทำมาหากิน ผลการวิจัยบอกว่า 80% ของคนไทยมีเงินในธนาคารไม่ถึง 50,000 บาท ดังนั้นประเด็นสำคัญคือจะทำอย่างไรให้คนจำนวนมากที่ไม่มีเงิน ไม่มีบ้าน ไม่มีที่ดินทำกินเพาะปลูกมีชีวิตที่ดีขึ้น สิ่งที่พอทำได้คือความเอื้ออาทร และนโยบายการช่วยเหลือจากภาครัฐ เพื่อให้กลุ่มคนที่ขาดแคลนผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากไปได้

นอกจากการจัดการปัญหาเรื่องปากท้องแล้วการจัดการกับความเครียดด้วยยุทธศาสตร์การบริหารชีวิตให้มีความสุขก็เป็นเรื่องสำคัญ หรืออาจจะเรียกว่า “ยุทธศาสตร์การใช้ชีวิต” คนทั่วไปตื่นมาแล้วคิดว่าจะไปหาความสุขได้อย่างไร คิดว่าความสุขอยู่ข้างนอก แต่สิ่งที่ถูกต้องคือต้องมีความสุขจากข้างในก่อน ต้องสงบเย็นภายใน จิตใจเบิกบานก่อนถึงจะออกไปใช้ชีวิตได้ แค่วางอะไรลงบ้างจิตใจก็มีความสุข ก็สงบได้แล้ว สิ่งที่เหลือคือการรู้ตัว เมื่อจิตใจสงบเย็นแล้วค่อยไปใช้ชีวิต ไม่ต้องเสาะหาความสุขจากภายนอก เพราะเราเข้าใจชีวิต ใช้ชีวิตเพื่อโลก การใช้ชีวิตเพื่อโลกไม่ได้หมายความว่าต้องทำอะไรที่ยิ่งใหญ่ แค่ปลูกต้นไม้ต้นเดียวก็ถือว่าได้ทำอะไรให้โลกแล้ว มีพืชมีวงจรอาหารเกิดขึ้นก็ทำเพื่อโลกแล้ว ไม่ต้องใช้เงิน ทุกคนทำได้

ในทุกวิกฤตย่อมมีโอกาส โควิดอาจเป็นโอกาสที่ดีที่จะเปลี่ยนยุทธศาสตร์การใช้ชีวิตของเรา โลกหลังโควิดจะเป็นโลกของความกลัวด้านสุขภาพ ตลาดจะต้องการอาหารสุขภาพมากขึ้น ส่วนข้อดีของเหตุการณ์นี้ในระดับบุคคลคือการหันมาดูแลสุขภาพตัวเองในยามที่ไม่มียา ไม่มีวัคซีน คนจะเรียนรู้ว่าสุขภาพจะดีได้ต้องดูแลตัวเอง โดยการไม่พึ่งหมอพึ่งยา เงื่อนไขของการมีสุขภาพที่ดีเริ่มต้นที่ตัวเรา ความสุข ความสงบภายในใจของเรา วางความคิดไม่ยึดติด ใช้ชีวิตที่เรียบง่ายกับปัจจัยพื้นฐานที่จำเป็นของชีวิต แค่นี้เราก็ไม่ต้องดิ้นรนหาความสุขจากข้างนอก  เมื่อจิตใจเบิกบาน กลับไปใช้ชีวิตแบบเรียบง่ายใช้เวลาอยู่ในสวนปลูกต้นไม้ ให้ร่างกายได้รับแสงแดด กินอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ห่างไกลจากความแออัดของผู้คน กายที่แข็งแรงกับจิตที่เบิกบานก็ทำให้เรามีภูมิคุ้มกันให้ห่างจากโรคภัยได้แล้ว

แต่เนื่องจากการเจ็บป่วยเป็นเหตุการณ์ที่คาดการณ์ไม่ได้ ถึงเราจะดูแลสุขภาพของเราดีแล้วแต่ก็ไม่สามารถรับประกันได้ว่าอนาคตเราจะไม่เจ็บไม่ป่วย การมีประกันสุขภาพที่สามารถครอบคลุมค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลที่นับวันมีแต่จะแพงขึ้นเรื่อยๆ ได้จึงเป็นสิ่งที่ช่วยให้คลายกังวลกับเหตุการณ์ไม่คาดฝันในอนาคต สนใจข้อมูลการทำประกันสุขภาพ อ่านที่นี่

ขอบคุณข้อมูลจาก วารสาร Supalai @ Home Q 3/2020