สร้างรายได้คู่ขนานแบบชิลๆ คุณก็ทำได้

การประหยัดทำได้ง่ายกว่าการหารายได้เพิ่ม แต่หากทำได้ทั้งสองอย่างควบคู่กันไปย่อมดีที่สุด


อยากมีเงินเก็บมากขึ้น อยากมีรายได้หลายทาง ไม่อยากทำงานไปจนแก่ อย่ารีรอที่จะสร้างรายได้คู่ขนานแบบอัตโนมัติ รายได้ที่ว่านี้ ลงแรงหรือลงทุนแค่ตอนเริ่มต้น หลังจากนั้นก็จะมีรายได้ที่เรียกว่า Passive Income เข้ามาเรื่อยๆ แบบอัตโนมัติ ยิ่งมีรายได้แบบนี้มากเท่าไหร่ อิสรภาพทางการเงินก็ยิ่งขยับเข้ามาใกล้มากขึ้นเท่านั้น รายได้ที่ว่านี้มีอะไรบ้าง มาดูกัน

passive-income-353419232

1. รายได้ในรูปแบบของดอกเบี้ย

ใครที่มีบัญชีเงินฝากกับสถาบันการเงินต่างๆ ก็จะมีรายได้ในข้อนี้เกิดขึ้น รายได้ก้อนนี้จะมากหรือน้อยขึ้นอยู่ที่วินัยทางการเงิน และรูปแบบการฝากเงินของแต่ละคน นอกจากนี้ยังสามารถเพิ่มรายได้จากดอกเบี้ยในลักษณะอื่นๆ ได้ เช่น การฝากเงินกับสหกรณ์ออมทรัพย์ การซื้อพันธบัตร การลงทุนในตราสารหนี้ หรือหุ้นกู้ เป็นต้น รายได้ประเภทนี้จะระบุอัตราดอกเบี้ยให้ทราบล่วงหน้า โดยความเสี่ยงที่จะไม่ได้รับดอกเบี้ยตามที่กำหนดไว้ก็เป็นไปได้ แต่ค่อนข้างต่ำ โดยเฉพาะดอกเบี้ยที่ได้จากผลิตภัณฑ์ที่เป็นการลงทุน เช่น หุ้นกู้ จะมีความเสี่ยงมากว่าเงินฝาก แต่มีโอกาสได้รับดอกเบี้ยในอัตราที่สูงกว่า

 

2. รายได้ที่เป็นเงินปันผล

เราสามารถสร้างรายได้ก้อนนี้จากการลงทุนในหุ้นพื้นฐานดี หรือกองทุนรวมที่มีนโยบายจ่ายเงินปันผล รวมถึงการทำประกันชีวิตบางรูปแบบ และการเป็นสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ เป็นต้น โดยเงินปันผลมักจะไม่การันตีการจ่าย อาจจะได้มาก ได้น้อย ไม่เท่ากันในแต่ละปี หรือบางปีอาจจะไม่ได้รับเงินปันผลก็เป็นได้ เพราะมีปัจจัยทางเศรษฐกิจ และผลประกอบการของผู้จ่ายปันผลเข้ามาเกี่ยวข้อง ใครที่อยากมีรายได้ในข้อนี้เข้ามาสม่ำเสมอ ควรดูความน่าเชื่อถือของผู้จ่ายปันผล รวมถึงมีการกระจายความเสี่ยงไปในหลากหลายประเภทการลงทุน และหลากหลายกลุ่มอุตสาหกรรม เพื่อสร้างสมดุลของรายได้ที่จะมาจากเงินก้อนนี้

 

3. รายได้จากค่าเช่า หรือค่าโฆษณา

ใครที่มีบ้าน คอนโด ห้องพัก หรือพื้นที่อยู่ในทำเลดี มีกลุ่มเป้าหมายเฉพาะ สามารถจัดสรรพื้นที่ให้เช่าพักอาศัย ขายของ  ลงโฆษณา ทำโกดัง ทำที่จอดรถ หรือของรอบตัวอย่าง รถยนต์ เฟอร์นิเจอร์ เสื้อผ้า อุปกรณ์เดินป่า ลุยหิมะ ก็นำมาสร้างรายได้คู่ขนานได้เหมือนกัน ยิ่งปัจจุบันมีแพลตฟอร์มที่เปิดให้คนเข้ามาแชร์หรือแลกเปลี่ยนสิ่งของกันได้สะดวกและปลอดภัยขึ้น ในรูปแบบ Sharing Economy ที่ใครมีของอยู่แล้ว แต่ไม่ค่อยได้ใช้ หรือมีเหลือใช้ ก็นำมาแบ่งปันกับกลุ่มคนที่มีความต้องการใช้ในรูปแบบของการใช้เช่าตามช่วงเวลาที่ตกลงกันไว้


รวมถึงการใช้ช่องทางออนไลน์ให้เกิดประโยชน์ เช่น การสร้างสรรค์วิดีโอคอนเทนต์บนสื่อโซเชียลมีเดีย หรือการทำเว็บไซต์ ก็สามารถสร้างรายได้จากการที่เราอนุญาตให้มีโฆษณาแทรกอยู่ในวิดีโอ หรือหน้าเว็บไซต์ของเรา โดยรายได้จะเกิดขึ้นเมื่อมีคนคลิกดูวิดีโอของเรา แล้วเห็นโฆษณาที่แทรกอยู่ หรือเข้าเว็บไซต์ของเราแล้วมีการคลิกโฆษณา เป็นต้น ใครสนใจก็ลองไปศึกษาข้อมูลแล้วเริ่มต้นทำกันดูได้จากแพลตฟอร์มที่มียอดผู้ใช้งานสูงๆ อย่าง YouTube, Facebook และ Google

 

4. รายได้จากการทำคอนเทนต์ฝากขาย

ภาพถ่าย ชิ้นงานกราฟิก วิดีโอ เพลง นิยาย บทความ ล้วนเป็นคอนเทนต์ที่เลือกทำได้ตามความถนัด ผลงานที่เราสร้างสรรค์ขึ้นมาหนึ่งชิ้น สามารถสร้างรายได้เข้ามาได้เรื่อยๆ จากการที่มีคนมาดาวน์โหลดไปใช้งาน หรือเปิดอ่านคอนเทนต์ ซึ่งปัจจุบันมีแพลตฟอร์มที่เป็นตัวกลางให้บริการคอนเทนต์ในรูปแบบต่างๆ เป็นตัวเลือกมากขึ้น การจะฝากผลงานไว้ที่แพลตฟอร์มไหนบ้าง ควรดูความน่าเชื่อถือและจำนวนผู้ใช้งานบนแพลตฟอร์มนั้นๆ ประกอบด้วย โดยคอนเทนต์หรือผลงานของเรานั้น ควรจะมีทั้งปริมาณและคุณภาพมากพอที่จะผลิตรายได้ให้เราแบบไม่เหงา

 

5. รายได้จากกำไรของส่วนต่างราคา

การสร้างรายได้ในส่วนนี้จะเน้นไปที่การทำกำไรจากการลงทุนในผลิตภัณฑ์การเงิน เช่น การลงทุนในหุ้น ทองคำ อัตราแลกเปลี่ยน กองทุนรวม เป็นต้น รายได้จากการลงทุนในลักษณะนี้จะมีความผันผวนตามปัจจัยต่างๆ จึงต้องคอยติดตามข่าวสารที่อาจจะส่งผลกระทบต่อการลงทุน ซึ่งการลงทุนระยะยาวเพื่อให้เวลาเงินที่ลงทุนไปได้ทำงานสร้างมูลค่าเพิ่ม ประกอบกับการลงทุนแบบกระจายความเสี่ยงไปในสินทรัพย์หลากหลายประเภท หลากหลายอุตสาหกรรม ตามสัดส่วนที่เหมาะสมกับตนเอง จะช่วยลดความผันผวนลงได้ ใครสนใจการลงทุน สามารถดูเพิ่มเติมได้ที่ https://www.scb.co.th/th/personal-banking/investment.html


รายได้ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ เป็นเพียงส่วนหนึ่งของวิธีสร้างรายได้แบบอัตโนมัติที่สามารถทำควบคู่ไปกับการทำงานประจำ หรืออาชีพหลักได้ บางข้อแทบจะไม่ต้องทำอะไรเลย ก็มีเงินเข้ามาในบัญชีให้ทุกเดือน บางข้ออาจจะให้รายได้เป็นเงินจำนวนไม่มากแต่ก็มาสม่ำเสมอ บางข้ออาจเป็นรายได้ที่ไม่แน่นอน แต่หากเราสร้างรายได้ในลักษณะนี้สม่ำเสมอและมากพอ จะทำให้ไม่ต้องเหนื่อยกับการหาเงินทำงานเพียงอย่างเดียว อีกทั้งยังช่วยเพิ่มโอกาสให้บรรลุเป้าหมายทางการเงินได้เร็วขึ้นด้วย